Big Story : ตรวจสอบรถ จยย.ต้องสงสัยที่หัวหิน ไม่พบระเบิด

ประจวบคีรีขันธ์ 4 ส.ค.- นายอำเภอหัวหินเผยชุดอีโอดีเคลียร์เรียบร้อย จยย.จอดไว้นาน 3 วัน สถานีรถไฟหัวหิน ไม่พบระเบิดซุกซ่อน ล่าสุดเปิดพื้นที่ใช้ตามปกติแล้ว ชี้เสียงที่ได้ยินจนแชร์กันในโซเชียลเป็นเสียงปืนยิงน้ำแรงดันสูง





เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา เกิดเหตุป่วนที่สถานีรถไฟหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัย 3 คัน ทะเบียนยะลา ปัตตานี นราธิวาส นำมาจอดทิ้งไว้ที่หน้าสถานีรถไฟหลายวันแล้ว และจากการตรวจสอบพบมีข้อมูลกับป้ายทะเบียนไม่ตรงกัน ตำรวจและฝ่ายความมั่นคงต้องปิดล้อมรอบพื้นที่สถานีรถไฟหัวหินนานกว่า 2 ชั่วโมง พร้อมสั่งหยุดรถไฟทุกขบวนที่จะเข้ามายังสถานีรถไฟหัวหินเป็นการชั่วคราว เพื่อให้เจ้าหน้าที่อีโอดีเข้าตรวจสอบ ทำให้ผู้โดยสารติดค้างอยู่ด้านนอกเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันยังสร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนในพื้นที่ เนื่องจากมีเสียงดังคล้ายระเบิดเกิดขึ้น 3 ครั้ง  ผลการตรวจสอบล่าสุด  ไม่พบวัตถุระเบิด ส่วนเสียงดังกล่าว เกิดจากเจ้าหน้าที่ยิงปืนอัดแรงดันสูงรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยทั้ง 3 คัน  ส่วนการตรวจสอบกล้องวงจรปิด เบื้องต้น พบผู้หญิงนำรถจักรยานยนต์ สีฟ้าทะเบียนยะลา มาจอดทิ้งไว้ตั้งแต่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา ส่วนรถจักรยานยนต์อีก 2 คน คาดว่าน่าจะถูกนำมาจอดภายหลังเกิดเหตุการณ์ระเบิดป่วนกรุงเทพฯ จึงต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งว่ามีความเชื่อมโยงกันหรือไม่ ทั้งนี้จากเหตุการณ์ดังกล่าวได้มีการสั่งชะลอการเดินรถไฟ 1 ขบวนที่จะผ่านเข้ามายังสถานีหัวหิน ทำให้ล่าช้าไปประมาณ 10 นาที ช่วงเวลา 13.00 น. ซึ่งหลังเจ้าหน้าที่เข้าเคลียร์พื้นที่เรียบร้อย ได้เปิดให้มีการเดินรถตามปกติแล้ว


เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบผู้หญิงนำรถจักรยานยนต์ มีโอ สีฟ้าทะเบียนยะลา มาจอดตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา ส่วนรถจักรยานยนต์อีก 2 คน คาดว่าน่าจะถูกนำมาจอดภายหลังเกิดเหตุการณ์ระเบิดที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบโดยละเอียดอีกครั้งว่ามีความเชื่อมโยงกันหรือไม่

ด้าน พลตำรวจโทปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฝากเตือนประชาชนขออย่าตื่นตระหนก ควรรับฟังข่าวสารจากทางการเป็นหลักก่อน ไม่ควรรีบแชร์ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง และช่วยกันเป็นหูเป็นตาหากพบสิ่งผิดปกติให้รีบแจ้งตำรวจหรือโทร 191 โดยด่วน

ก่อนหน้านี้ในพื้นที่หัวหินเคยตกเป็นพื้นที่เป้าหมายถูกรอบวางระเบิดมาแล้ว 2 จุด เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2559 ภายในเทศบาลเมืองหัวหิน โดยจุดแรก คือบริเวณหอนาฬิกา 1 ลูก และบริเวณหน้าโรงเรียนวัดหัวหิน อีก 1 ลูก ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกัน ภายหลังจากเกิดเหตุระเบิด บริเวณหน้าร้านอาหารจอห์นนี่ 56 ถนนเดชานุชิต และบริเวณหน้าร้านเรนทรี สปา ถนนพูนสุข ตัดซอยเสละคาม ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2  คน บาดเจ็บอีก 24 คน  โดยเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นพร้อมกันกับเหตุลอบวางระเบิดพร้อมกันอีกหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้

ส่วนความคืบหน้าเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวน กระจายกำลังลอบวางระเบิดตู้เอทีเอ็ม ในพื้นที่ 3 อำเภอ ของจังหวัดปัตตานี เมื่อคืนที่ผ่านมา  ได้แก่ ตู้เอทีเอ็มธนาคารอิสลามหน้ามหาวิทยาลัยฟาฏอนี หมู่3 ต.เขาตูม อ.ยะรัง ตู้เอทีเอ็มธนาคารอิสลาม ที่หน้าโรงเรียนอาซิซสถาน ม.7 ต.นาประดู่ อ.โคกโพธิ์ และบริเวณตู้เอทีเอ็มธนาคารอิสลามหน้าโรงเรียนศาสนศึกษา ม.1 ต.ตะบิ้ง อ.สายบุรี ล่าสุดเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ได้เข้าไปตรวจสอบเหตุระเบิดที่ตู้เอทีเอ็มธนาคารอิสลาม หน้าโรงเรียนอาซิซสถาน พบตู้เอทีเอ็มดังกล่าวเสียหายอย่างหนัก มีอุปกรณ์ประกอบระเบิดแบบลากสายกระจัดกระจายไปทั่ว และยังพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. และปลอกกระสุนเอ็ม 16 อีกกว่า 10 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน  ขณะที่กล้องวงจรปิดที่เสาไฟฟ้าหน้าโรงเรียนไม่สามารถใช้การได้

จากการสอบสวน พบว่า เมื่อช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมา มีคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน พร้อมอาวุธปืนครบมือ ลอบนำระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในถังแก๊ซปิกนิก น้ำหนัก 15 กิโลกรัม มาจุดฉนวนโดยการลากสาย นำมาวางไว้ที่หน้าตู้เอทีเอ็ม และก่อนที่คนร้ายจะกดฉนวนระเบิด ได้ใช้อาวุธปืน เอ็ม 16 และ 9 มม.ยิงขึ้นฟ้า เพื่อข่มขู่ไม่ให้ชาวบ้านออกมา จากนั้นคนร้ายได้กดฉนวนระเบิด เป็นเหตุให้ตู้เอที่เอ็มได้รับความเสียหาย อีกทั้งก่อนหลบหนีไป ได้นำยางรถยนต์มาจุดไฟเผาบนถนนสายนาประดู่-ยะลา เพื่อป้องกันการติดตามของเจ้าหน้าที่

ด้าน พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี ระบุหลังเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุด้วยตัวเองทั้ง 3 จุด พบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ มีพฤติกรรมการก่อเหตุในลักษณะเดียวกัน แต่งกายชุดเดียวกัน และใช้ระเบิดชนิดเดียวกัน จึงมั่นใจว่าเป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกัน ที่มีผู้สั่งการคนเดียวกัน  มุ่งที่จะก่อเหตุกับตู้เอทีเอ็มของธนาคารอิสลาม ขณะนี้กำลังรวบรวมพยานหลักฐานทั้ง 3 จุด เพื่อหาตัวกลุ่มคนร้าย เชื่อเป็นคนร้ายที่อยู่ในพื้นที่ ส่วนจะเชื่อมโยงกับว่าเป็นการตอบโต้เจ้าหน้าที่ หลังมีการจับกุมมือระเบิดป่วนกรุงเทพฯหรือไม่นั้น ยังไม่สามารถยืนยันได้ ต้องรอให้ผลพิสูจน์หลักฐานก่อน จึงจะรู้ว่าเป็นฝีมือของคนร้ายกลุ่มใด

พบระเบิดปิงปอง 3 ลูกพร้อมใช้งาน จ.นนทบุรี

ส่วนที่อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ตำรวจนำกำลังตรวจสอบเหตุพบระเบิดปิงปองพร้อมใช้งานวางอยู่ปากทางเข้าวัดสลักเหนือ ถนนติวานนท์ ตำบลบ้านใหม่ ก่อนประสานเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบ ที่เกิดเหตุอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อ เจ้าหน้าที่พบระเบิดปิงปอง 3 ลูก ขนาดเส้นผ่าศูนย์ 10 เซนติเมตรพันด้วยผ้าเทปสีดำ โดย 1 ลูกระเบิดไปแล้ว อีก 2 ลูกยังไม่ระเบิดแต่พร้อมใช้งาน เจ้าหน้าที่จึงใช้ยางรถยนต์ครอบ และกันพื้นที่เพื่อทำการเก็บกู้ และนำไปตรวจสอบหาลายนิ้วมือคนที่ทำระเบิดหรือนำมาวางไว้

เหตุการณ์นี้ สอบถามร้านค้าย่านดังกล่าว ทราบว่า เวลา 06.00 น. มีวัยรุ่น 5 คน ขี่รถจักรยานยนต์มา 3 คันมาจอดใกล้ที่เกิดเหตุ จากนั้นมีวัยรุ่น 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมา ซึ่งคาดเป็นอริกับกลุ่มแรก เพราะมีการขี่รถไล่ตามกัน จากนั้นชาวบ้านได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น 1 ครั้ง แต่ไม่รู้ว่ามีระเบิดหลงเหลืออยู่ จนช่วงบ่ายมีคนเดินผ่านมาเห็นระเบิดอีก 2 ลูก จึงแจ้งตำรวจเข้าตรวจสอบและเก็บกู้ .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย

เริ่มลงตัว! เปิดโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” แบ่งโควตาคนนอก 5 เก้าอี้

กทม.5 ก.ย.- เช็กโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” เริ่มลงตัว “ภูมิใจไทย” 12 เก้าอี้ แบ่งโควตาคนนอกอีก 5 เก้าอี้ มีชื่อ “เศรษฐพุฒิ” อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ นั่งขุนคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี​ จากสภาผู้แทนราษฎร ความเคลื่อนไหวการจัดตั้ง “ครม.อนุทิน 1” ก็ขยับทันที​ โดยมีการจัดสรรโควตาตามจำนวนเสียงที่ประกาศจัดตั้งรัฐบาลเสียง​ข้างน้อย​ ร่วมกัน​ 146 ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย​ 12 เก้าอี้ เนื่องจากมีโควตาของคนนอก ที่จะไม่นับรวม อีก 5 เก้าอี้​ ส่วนพรรคกล้าธรรม 7 เก้าอี้ แบ่งเป็น 4 รัฐมนตรีว่าการ​ และ 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ขณะที่​ พรรคพลังประชารัฐ​ 4​ เก้าอี้ กลุ่มนายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ 4 […]

เพื่อไทยโพสต์พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน

กรุงเทพฯ 5 ก.ย.- พรรคเพื่อไทย พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ขอบคุณทุกแรงใจ ระบุ นโยบายหลายเรื่องค้างไว้ รอวันกลับมาสานต่อ ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติ 311 เสียง เห็นชอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ว่า “พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตามครรลองของรัฐสภา ยึดมั่นหลักการประชาธิปไตย ขอขอบคุณทุกแรงใจ นโยบายหลายเรื่องที่ยังค้างไว้ เราจะรอวันกลับมาสานต่อให้สำเร็จ เพื่อคนไทยทุกคน…ตลอดไป” .-316 -สำนักข่าวไทย