fbpx

สธ.เชิญผู้เชี่ยวชาญ ร่วมถกทิศทางขับเคลื่อนกัญชาทางการแพทย์

กทม.2 ส.ค.-กระทรวงสาธารณสุข เชิญผู้เชี่ยวชาญจากประเทศนิวซีแลนด์และผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ระดมความคิดเห็น แลกเปลี่ยนประสบการณ์ เป็นข้อมูลกำหนดทิศทางการขับเคลื่อนกัญชาทางการแพทย์ของประเทศไทยอย่างเหมาะสม


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการวิจัยเชิงคุณภาพ มุมมองหลากมิติของการกำหนดทิศทางกัญชาทางการแพทย์(Mapping the Thai Approach) และปาฐกถาพิเศษ “กัญชาทางการแพทย์นำไปสู่มิติที่หลากหลายของสังคม” จัดโดยองค์การเภสัชกรรม ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข  กรมการแพทย์ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และภาคีเครือข่ายการนำกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย แพทย์ เภสัชกร ผู้เชี่ยวชาญ นักวิจัย นักวิชาการ ภาคประชาสังคม (NGO) และสื่อมวลชน เพื่อระดมความคิดเห็น ประสบการณ์ และแนวคิดการนำกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ในเชิงลึก


รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า กัญชาอยู่ในสังคมไทยมานาน มีการปลูก มีในตำรับยาแผนไทยมากว่า300 ปีจึงเป็นที่ยอมรับว่ามีประโยชน์ทางการ แพทย์ ก่อนจะถูกกำหนดว่าเป็นยาเสพติดเพราะมีฤทธิ์ต่อจิตประสาท จำเป็นต้องมีมาตรการควบคุมเพื่อไม่ให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ  ซึ่งเป็นทิศทางเดียวกันกับทั่วโลก ทำให้องค์ความรู้เรื่องกัญชา ขาดการวิจัยและพัฒนา ถูกลบเลือนหายไปในที่สุด เนื่องจากกลัวเรื่องผิดกฎหมาย ขณะที่ในต่างประเทศมีการวิจัยพัฒนาอย่างต่อเนื่องจริงจัง พบว่ากัญชามีสาร สำคัญ มีคุณค่าทางการแพทย์ ถูกนำไปใช้ในการรักษาโรค บางประเทศพัฒนาไปใช้ในอุตสาหกรรม อาหาร เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง สร้างมูลค่าให้สูงขึ้นและเป็นประโยชน์ต่อประชาชน


ขณะเดียวกันรัฐบาลสนับสนุนการนำกัญชามาใช้ทางการแพทย์ ขยายขอบเขตการนำกัญชามาใช้ทางการแพทย์ต่อเนื่องจากรัฐบาลชุดที่ผ่านมา เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงในวงกว้างแต่ยังอยู่ในขอบเขตในเรื่องการรักษาโรคใช้ภายในประเทศ ส่งเสริมภูมิปัญญาแผนไทย ช่วยให้ผู้ป่วยทั่วไปคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รวมทั้งเรื่องการปลูก ทำโดยมีข้อบ่งชี้ ในขอบเขตจำกัด กับหน่วยงานของรัฐ วิสาหกิจชุมชน โดยขออนุญาตอย่างถูกต้อง ส่วนการอนุญาตให้ปลูกทุกบ้าน จะเกิดขึ้นได้เมื่อประชาชนมีองค์ความรู้ มีความเข้าใจและมีวินัยในการใช้กัญชา

“วัตถุประสงค์ที่สำคัญเรื่องกัญชา คือการนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์  การวิจัย การพัฒนา ให้ได้สารสกัดที่มีประโยชน์ มีคุณภาพ เพิ่มมูลค่า ต่อสังคมและประชาชนมากที่สุด ขณะนี้รอผลการรักษา ถ้าการรักษาได้ผลดี หรืออย่างน้อยที่สุดไม่เลวลง ไม่มีผู้เสียชีวิตจากการใช้น้ำมันกัญชา ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น จะเป็นข้อมูลให้การพัฒนากัญชาขยายไปในวงกว้างเป็นไปอย่างรวดเร็ว ทั้งในเรื่องการดูแลรักษาสุขภาพ  ด้านเศรษฐกิจ ธุรกิจเกี่ยวเนื่อง ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพต่างๆ  อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม เครื่องสำอาง ด้านรายได้ของประเทศและรายได้ประชากร” รมว.สาธารณสุขกล่าว

ด้านนพ.โสภณ เมฆธน ประธานกรรมการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวว่า อภ.มีภารกิจในการดูแลยาและวัคซีนให้เพียงพอใช้ภายในประเทศ ซึ่งยากัญชาเป็นนวัตกรรมที่ได้ถูกนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ โดยได้ดำเนินการโครงการผลิตสารสกัดต้นแบบกัญชาทางการแพทย์ ศึกษาวิจัย และพัฒนากัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ตั้งแต่การเพาะปลูก การสกัด ตลอดจนเป็นผลิตภัณฑ์ยาจากกัญชาเพื่อให้คนไทยเข้าถึงผลิตภัณฑ์ยาจากกัญชาที่มีความปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และคุณภาพ ในราคาที่เหมาะสม ลดการนำเข้ายาจากต่างประเทศ สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขเพื่อให้ได้สายพันธุ์กัญชาที่สมบูรณ์แข็งแรง มีปริมาณสารสำคัญที่ใช้เป็นยาสูง โดยยึดหลักต้องปลอดภัย(Safety) ทุกขวดที่สกัดออกมาต้องมีสารมีฤทธิ์ของยาที่ใกล้เคียงกันหมด (Consistency)และต้องมีประสิทธิภาพ (Efficacy) เพื่อนำไปใช้กับผู้ป่วยที่เข้าร่วมโครงการศึกษาวิจัยของกระทรวงสาธารณสุข

นพ.วิฑูรย์  ด่านวิบูลย์ ผอ.องค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า การจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการครั้งนี้ได้เชิญ ดร.มาติน วู้ดบริด นักเภสัชวิทยา ผู้เชี่ยวชาญด้านกัญชาทางการแพทย์ มีประสบการณ์การทำงานที่ Medsafe กระทรวงสาธารณสุข ประเทศนิวซีแลนด์ ในฐานะ Medicines Quality Specialist และเป็นผู้เขียนหลักเกณฑ์คู่มือกัญชาทางการแพทย์ของประเทศซึ่งจะช่วยให้ประเทศไทยได้แนวคิด สามารถกำหนดทิศทางการขับเคลื่อนกัญชาทางการแพทย์ และนำหลักการปฏิบัติที่ดีของการใช้กัญชาทางการแพทย์ในระดับนานาชาติมาบูรณาการกับด้านเศรษฐกิจ สังคม จากกัญชาทางการแพทย์ให้เป็นไปอย่างเหมาะสม สร้างความเข้าใจถึงอุปสรรคและโอกาส อีกทั้งเป็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาแบบบูรณาการ ระหว่างองค์การเภสัชกรรมกับนักวิจัย นักวิชาการ และแพทย์ โดยแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และดำเนินงานวิจัยร่วมกันต่อไป .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบภัย

“นายกฯ แพทองธาร” ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบอุทกภัย หวัง ศปช.รับมือ-ช่วยเหลือรวดเร็วทันท่วงที รวมถึงการเยียวยาหลังจากนี้

ฟื้นฟูชายแดนแม่สาย-เร่งกู้ตลาดสายลมจอย

เจ้าหน้าที่เร่งฟื้นฟูชุมชนชายแดนแม่สายที่ถูกน้ำท่วมและจมโคลนมานาน 10 วัน รวมทั้งเร่งกู้ตลาดสายลมจอยแหล่งจำหน่ายสินค้าชายแดนที่เสียหายอย่างหนัก

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553