ไทยเจรจาทวิ 4 ประเทศ ก่อนประชุม RCEP 16

ปักกิ่ง 2 ส.ค. – “จุรินทร์” เจรจาทวิภาคี 4 ประเทศ ก่อนเป็นประธานประชุม RCEP 16 ประเทศแบบเต็มคณะ เชื่อวงเจรจาจะเป็นการส่งสัญญาณที่ดีต่อการสร้างบรรยากาศการค้าโลก



นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานหารือแบบทวิภาคีกับประเทศคู่เจรจา RCEP ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2562 ในโอกาสแนะนำตัวในการเข้ารับตำแหน่งและเป็นประธานการประชุม ซึ่งแต่ละประเทศต่างตอบรับที่จะร่วมมือกับไทยอย่างเต็มที่ เพื่อผลักดันให้การเจรจาจบภายในสิ้นปีนี้ตามที่ตั้งเป้าไว้  


ทั้งนี้ ส่วนใหญ่สมาชิกให้ความสนใจกับประเด็นการเจรจาของแต่ละประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการค้าการลงทุน ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ทรัพย์สินทางปัญญา กฎถิ่นกำเนิด เป็นต้น สำหรับการปฎิบัติหน้าที่ประธานการประชุมครั้งนี้เป็นเรื่องท้าทายโดยเฉพาะการทำความเข้าใจประเด็นการเจรจาและท่าทีของแต่ละประเทศสมาชิกที่แตกต่างกันอย่างมาก แต่วาระนี้คือโอกาสที่จะประสานความร่วมมือสมาชิก 16 ประเทศให้เป็นหนึ่งเดียวให้ได้ เพื่อความสำเร็จตามที่ประเทศทั้งหมดแถลงความร่วมมือไว้ในการประชุมผู้นำอาเซียนเมื่อปีก่อน 


อย่างไรก็ตาม การเจรจาครั้งนี้ทุกฝ่ายเข้าใจปัญหาท่ามกลางสงครามทางการค้าของประเทศใหญ่ ทำให้แต่ละประเทศต่างมีเงื่อนไข ดังนั้น ต้องมีความระมัดระวัง ขณะเดียวกันทีมไทยจะไม่ทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบและรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ยืนยันว่าต้องการทำข้อตกลง เพื่อการขยายประโยชน์ทางเศรษฐกิจร่วมกันของประเทศสมาชิกทั้ง 16 ประเทศ ซึ่งขณะนี้ดำเนินมากว่า 7 ปีแล้ว แต่ยังอยู่ในขั้นการเจรจา เพราะทุกประเทศต่างมีข้อจำกัดหรือเงื่อนไขที่ต่างสร้างขึ้นมาจนยากต่อการหาข้อสรุปได้ จึงมีเป้าหมายที่จะทำให้เกิดข้อสรุปสำเร็จร่วมกันสิ้นปี 2562 และทุกประเทศต่างรับรู้ว่าการค้าโลกกำลังเผชิญกับความท้าทายแต่กลุ่มประเทศอาร์เซ็ปนั้นมีผู้บริโภคกว่าครึ่งของประชากรโลก จึงจำเป็นต้องเร่งสรุปผลเจรจาโดยเร็ว 

ทั้งนี้ เพื่อแสดงให้เห็นถึงประโยชน์และความมุ่งมั่นของประเทศสมาชิกในการสนับสนุนการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจอันจะเป็นการส่งสัญญาณที่ดีต่อการสร้างบรรยากาศการค้าโลก ส่วนการประชุมสำคัญของวันที่ 2 สิงหาคม จะมีการประชุมรัฐมนตรีพาณิชย์ของประเทศอาเซียน 10 ประเทศก่อน จากนั้นวันที่ 3 สิงหาคม จะเป็นการประชุมแบบเต็มคณะ 16 ประเทศ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]