กรุงเทพฯ 1 ส.ค. – กฟน.ครบรอบ 61 ปี พร้อมขับเคลื่อนมหานครอัจฉริยะ Smart Metro Grid เดินหน้านำสายไฟฟ้าลงใต้ดิน ขยายเส้นทางอุโมงค์สายส่งไฟฟ้า สร้างความเพียงพอมั่นคงให้ระบบไฟฟ้าใจกลางกรุง
นายกีรพัฒน์ เจียมเศรษฐ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เปิดเผยว่า ในวาระครบรอบ 61 ปี แห่งการสถาปนา กฟน.ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมมุ่งสู่ปีที่ 62 อย่างมั่นคง มีผู้ใช้ไฟฟ้า 3,863,621 ราย เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 2.75 สำหรับค่าพยากรณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าสะสมปี 2562 เท่ากับ 53,197 ล้านหน่วย เพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วร้อยละ 3.02 โดยในปีนี้ กฟน.ยังคงเดินหน้าโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินในพื้นที่สำคัญทางเศรษฐกิจตามแผนงาน พร้อมเป็นผู้นำประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดระเบียบสายสื่อสาร และขับเคลื่อนการเป็น “มหานครอัจฉริยะ Smart Metro Grid”
ปัจจุบัน กฟน.ดำเนินโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินเสร็จ 46.6 กิโลเมตร และอยู่ระหว่างดำเนินการ 169 กิโลเมตร ซึ่งโครงการที่จะดำเนินการเสร็จปี 2562 ได้แก่ โครงการถนนพิษณุโลก ถนนนครสวรรค์ (แยกนางเลิ้งถึงแยกเทวกรรม) และถนนเพชรบุรี (แยกยมราชถึงแยกอุรุพงษ์) รวมระยะทาง 0.3 กิโลเมตร และโครงการถนนนานา (ช่วงถนนสุขุมวิทถึงคลองแสนแสบ) รวมระยะทาง 0.75 กิโลเมตร โดยรื้อถอนเสาไฟฟ้าเสร็จภายในเดือนนี้ ส่วนโครงการถนนสาธุประดิษฐ์ และถนนสว่างอารมณ์ รวมระยะทาง 2 กิโลเมตร และโครงการถนนวิทยุ รวมระยะทาง 2.1 กิโลเมตร กำหนดรื้อถอนเสาไฟฟ้าเสร็จเดือนธันวาคมนี้
นอกจากนี้ ยังมีการขยายการก่อสร้างอุโมงค์สายส่งไฟฟ้าใต้ดิน เพื่อสร้างความมั่นคงให้แก่ระบบไฟฟ้าใจกลางเมือง ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญของประเทศ ได้แก่ ถนนชิดลมถึงถนนสารสิน (ตลอดแนวถนน) และถนนเพลินจิต (จากสี่แยกชิดลมถึงสี่แยกเพลินจิต) โดยมีลักษณะเป็นอุโมงค์ยักษ์ขนาดใหญ่เส้นผ่านศูนย์กลาง 3.6 เมตร อยู่ลึกประมาณ 40 เมตร มีความยาวของอุโมงค์ประมาณ 1,800 เมตร ซึ่งจะถือเป็นอุโมงค์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เพื่อพัฒนาระบบไฟฟ้าให้มีความเพียงพอ มั่นคง และช่วยปรับทัศนียภาพของกรุงเทพมหานครให้สวยงาม มีความปลอดภัย
ด้านการพัฒนาคุณภาพงานบริการนั้น กฟน.มุ่งมั่นพัฒนาระบบการให้บริการและยกระดับคุณภาพงานบริการอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งเป็นหน่วยงานให้บริการด้านระบบไฟฟ้าตัวแทนประเทศไทยในการพิจารณาการจัดอันดับความยาก-ง่าย ในการประกอบธุรกิจในประเทศไทย (Doing Business) ของธนาคารโลก (WorldBank) โดย กฟน.ได้รับการจัดอันดับประเทศที่มีความสะดวกในการเข้าไปประกอบธุรกิจ ( Ease of Doing Business) ของธนาคารโลก ด้านการขอใช้ไฟฟ้าประจำปี 2562 อยู่ในอันดับที่ 2 ของอาเซียน รองจากประเทศมาเลเซีย ซึ่ง กฟน.มีความมั่นใจในการพัฒนาปรับปรุงด้านบริการให้ทันสมัยอย่างต่อเนื่องสามารถให้บริการขอใช้ไฟฟ้า ได้สะดวก รวดเร็ว สร้างความพึงพอใจให้กับผู้รับบริการ คาดว่าการจัดลำดับ Doing Business ของประเทศไทยด้านการขอใช้ไฟฟ้าปี 2563 จะถึงดีขึ้นกว่าปี 2562 พร้อมเดินหน้าเป็นผู้นำในการควบคุมจัดการระบบให้บริการที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ไฟฟ้า.-สำนักข่าวไทย