ภูมิภาค 1 ส.ค.-จ.ชัยภูมิ สถานการณ์ภัยแล้งปีนี้ส่งผลกระทบหนักสุดในรอบ 30 ปี ฝูงลิงบนเขาพังเหยนับร้อยตัวทนอดอาหารไม่ไหว บุกลงมากินพืชไร่ชาวบ้าน ส่วนโคราช เขื่อนลำปลายมาศปริมาณน้ำยังลดลงต่อเนื่อง จนตอไม้โผล่ แต่ยังมีข่าวดี อิทธิพลพายุ “วิภา” ซึ่งคาดจะเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามพรุ่งนี้ จะช่วยทำให้บริเวณภาคเหนือและภาคอีสานมีฝนเพิ่มขึ้น
ที่ จ.ชัยภูมิ สถานการณ์ภัยแล้งปีนี้ส่งผลกระทบหนักสุดในรอบ 30 ปี ล่าสุด ฝูงลิงแสมป่าที่อาศัยอยู่บนเขาพังเหยนับร้อยตัวทนอดอาหารไม่ไหว บุกลงมากินพืชไร่ชาวบ้าน ได้รับความเสียหายเป็นวงกว้างต่อเนื่องตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ชาวบ้านที่บ้านนายางกลัก ต.นายางกลัก อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ วิงวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งลงมาช่วยแก้ปัญหา เพราะจนปัจจุบันฝูงลิงป่าทั้งหมดก็ยังไม่ยอมหยุด จะบุกลงมากินพืชไร่ชาวบ้านได้รับความเสียหายเป็นประจำทั้งในช่วงเช้าและเย็น
ผู้สื่อข่าวลงสำรวจพื้นที่รอบเขาพังเหยในไร่เกษตรกรที่ปลูกมันสำปะหลัง สวนกล้วย และอ้อย พบเพียงร่องรอยของฝูงลิงจำนวนมาก บุกกัดกินหัวมันและพืชไร่อื่นๆ โดยชาวบ้านใช้สารพัดวิธี แนวทางแก้ปัญหาเบื้องต้นหลายอย่าง แต่ก็ไม่สามารถทำให้ฝูงลิงหวาดกลัวแต่อย่างใด แถมยังมีแนวโน้มว่าจะมีการไปชวนฝูงลิงลงมาเพิ่มมากขึ้น สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างมากขึ้นเป็นทุกวัน
ส่วน จ.อ่างทอง ชาวนาในใน ต.ยางซ้าย อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง เร่งสูบน้ำบาดาลขึ้นมาหล่อเลี้ยงต้นข้าวนา ซึ่งอยู่ระหว่างการตั้งท้องใกล้ออกรวง ไม่ให้ยืนต้นตาย หลังในพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้ง คลองชลประทานแห้ง ไม่มีน้ำมานานกว่าครึ่งเดือน ทำให้นาข้าวใกล้เสียหาย ชาวนาคนหนึ่งเปิดเผยว่า หลังชลประทานแจ้งว่าจะปล่อยน้ำให้ชาวนาวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา แต่ก็ไม่มีน้ำ จนกระทั่งเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาเริ่มมีน้ำ จึงเริ่มปลูกข้าว หลังจากนั้น น้ำก็แห้งขอดคลอง แต่สิ่งที่ไม่เข้าใจคือ คลองที่อยู่ไม่ห่างกัน มีน้ำส่งให้ตลอด ถึงแม้ไม่มาก แต่ก็ไม่ขาด ในขณะที่ในพื้นที่บริเวณนี้กลับไม่มีน้ำเลย
ที่ จ.นครราชสีมา สถานการณ์ภัยแล้งส่งผลกระทบรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ปริมาณน้ำเขื่อนลำปลายมาศ อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา ลดลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีน้ำใช้การได้เหลือเพียง 17.2 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 19 ของความจุ 98 ล้านลูกบาศก์เมตร ต่ำสุดตั้งแต่สร้างเขื่อนมาในรอบ 30 ปี เห็นเนินดินและตอไม้โผล่เป็นบริเวณกว้าง โดยปีนี้มีปริมาณฝนตกสะสมเพียง 300 มิลลิเมตร ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยทั้งปี 1,100 มิลลิเมตร/ปี ทำให้เขื่อนเหลือน้ำน้อยกว่าทุกปีที่ผ่านมา น้อยที่สุดตั้งแต่ก่อสร้างเขื่อนปี 2529 ส่งกระทบต่อการส่งน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค และการเกษตรท้ายเขื่อนกว่า 57,000 ไร่
ด้านศูนย์อำนวยการน้ำเฉพาะกิจประเมินอิทธิพลพายุ “วิภา” ที่ตอนนี้อยู่บริเวณเกาะไหหลำ และกำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็ว 20 กม./ชม. คาดว่าจะขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบนในวันพรุ่งนี้ จะทำให้บริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ดังนั้น อ่างเก็บน้ำและแม่น้ำสายหลักหลายแห่งจะได้รับอานิสงส์มีน้ำเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากได้ในพื้นที่ เชียงราย พะเยา น่าน จึงขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก.-สำนักข่าวไทย
