กรุงเทพฯ 1 ส.ค. – สถานการณ์การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงครึ่งแรกปี 62 เปรียบเทียบช่วงเดียวกันปี 61 กลุ่มเบนซินเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.9 กลุ่มดีเซลเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.1 ขณะที่การใช้ก๊าซหุงต้มภาคครัวเรือน-ขนส่งหดตัว
กรมธุรกิจพลังงานรายงานว่า 6 เดือนแรกปี 2562 (ม.ค.-มิ.ย.) การใช้กลุ่มเบนซินเฉลี่ยอยู่ที่ 32.11 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนคิดเป็นร้อยละ 3.9 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นของน้ำมันกลุ่มเบนซินเกือบทุกชนิดยกเว้นน้้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์ 91 โดยน้ำมันเบนซินมีการใช้ลดลงเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 1.0 ล้านลิตร/วัน คิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 12.5 และแก๊สโซฮอล์ 91 มีการใช้ลดลงเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 9.64 ล้านลิตร/วัน คิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 5.7
สำหรับภาพรวมกลุ่มแก๊สโซฮอล์มีปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนเฉลี่ยอยู่ที่ 31.11 ล้านลิตร/วัน คิดเป็นร้อยละ 4.5 โดยอี 20 มีปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นมากที่สุด อยู่ที่ 6.43 ล้านลิตร/วัน คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น ร้อยละ 14.2 เนื่องจากมีราคาต่้ำกว่าแก๊สโซฮอล์ 95 เฉลี่ยอยู่ที่ 2.95 บาท/ลิตร จึงจูงใจให้ผู้บริโภคหันมาใช้เพิ่มขึ้น รองลงมาเป็นอี 85 มีปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 1.30 ล้านลิตร/วัน คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.9 แก๊สโซฮอล์ 95 มีปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 13.74 ล้านลิตร/วัน คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.5 และแก๊สโซฮออล์ 91 มีปริมาณการใช้ที่ลดลงเฉลี่ยอยู่ที่ 9.64 ล้านลิตร/วัน คิดเป็นอัตราลดลง ร้อยละ5.7 เนื่องจากราคาแก๊สโซฮอล์ 91 และแก๊สโซฮอล์ 95 ใกล้เคียงกันโดยมีส่วนต่างเพียง 0.27 บาท/ลิตร ทำให้ผู้บริโภคเลือกใช้น้้ามันชนิดที่มีค่าออกเทนสูงกว่า
ส่วนการใช้กลุ่มดีเซลเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 66.10 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนคิดเป็นร้อยละ 1.1 โดยน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา (บี7) มีปริมาณการใช้เฉลี่ย 64.45 ล้านลิตร/วัน คิดเป็นอัตราลดลง ร้อยละ 1.4 น้ำมันบี 10 มีปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 0.002 ล้านลิตร/วัน (เริ่มมีการจำหน่ายปลายเดือนพฤษภาคม 2562 ในเดือนมิถุนายน 2562 มีการใช้อยู่ที่ 0.33 ล้านลิตร) และบี 20 มีปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 1.64 ล้านลิตร/วัน (เริ่มมีการจ้าหน่ายตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2561) โดยการใช้น้้ามันดีเซลหมุนเร็วบี 10 และบี 20 มีมาตรการราคากำหนดส่วนต่างราคาขายปลีกให้ถูกกว่าดีเซลหมุนเร็วธรรมดา (บี7) อยู่ที่ 1 และ 5 บาท/ลิตร ตามลำดับ ส่งผลให้ความต้องการใช้บี 10 บี 20 เพิ่มสูงขึ้้น ส่วนการใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เฉลี่ยอยู่ที่ 19.66 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็น ร้อยละ 0.01 ด้านการใช้ LPG เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 17.86 ล้าน กก./วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนคิดเป็นร้อยละ 0.7 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นของการใช้ภาคปิโตรเคมี มีปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 7.39 ล้าน กก./วัน คิดเป็นร้อยละ 11.1 สำหรับการใช้ในสาขาอื่น ๆ มีปริมาณการใช้ลดลง โดยภาคครัวเรือน มีปริมาณการใช้อยู่ที่ 5.76 ล้าน กก./วัน คิดเป็นร้อยละ 2.9 ภาคอุตสาหกรรม มีปริมาณการใช้อยู่ที่ 1.81 ล้าน กก./วัน คิดเป็นร้อยละ 3.0 และภาคขนส่งลดลงมากที่สุด มีปริมาณการใช้อยู่ที่ 2.90 ล้าน กก./วัน คิดเป็นร้อยละ12.0 การใช้ NGV เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 5.62 ล้าน กก./วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นร้อยละ 10.8 โดยการใช้ NGV ลดลง เนื่องจากเป็นผลต่อเนื่องจากมีการปรับราคา NGV สำหรับรถยนต์ส่วนบุคคลทั่วไปให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ประกอบกับ นโยบายส่งเสริมการใช้น้้ามันดีเซลหมุนเร็ว บี 20 สำหรับรถบรรทุกขนาดใหญ่ ทำให้ประชาชนและรถบรรทุกสินค้าหันไปใช้ น้ำมันแก๊สโซฮอล์และดีเซลหมุนเร็วบี 20 ทดแทน ส่งผลให้สถานีบริการ NGV นอกแนวท่อทยอยปิดตัวลงอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
ส่วนการนำเข้าน้้ำมันดิบเฉลี่ย 6 เดือน อยู่ที่ 933,000 บาร์เรล/วัน คิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 2.2 โดยมีมูลค่าการนำเข้าน้ำมันดิบ คิดเป็น 61,028 ล้านบาท/เดือน สำหรับน้ำมันสำเร็จรูปมีปริมาณนำเข้าเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 82,000 บาร์เรล/วัน คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.5 และมีมูลค่าการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปอยู่ที่ 5,394 ล้านบาท/เดือน สำหรับการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน พบว่า มีการนำเข้าน้ำมันดีเซลพื้นฐาน น้ำมันเตา และน้้ามันอากาศยานเพิ่มมากขึ้น ขณะที่มีการนำเข้า เบนซินและ LPG ลดลง เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าวมีการหยุดซ่อมบ้ารุงโรงกลั่นและ Emergency Shutdown ทำให้ต้องลดปริมาณการนำน้ำมันดิบเข้ากลั่นกระทบต่อปริมาณการผลิตของผลิตภัณฑ์ทุกชนิดรวมถึง LPG ด้วย ทำให้ต้องมีการนำเข้าน้ำมัน สำเร็จรูป เพื่อไม่ให้กระทบต่อความต้องการใช้ในประเทศ
การส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปี 2561 อยู่ที่ 171,000 บาร์เรล/วัน คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น ร้อยละ 10.7 โดยมีมูลค่าการส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปเฉลี่ย 11,701 ล้านบาท/เดือน โดยพบว่ามีการส่งออกน้้ามันเบนซิน ดีเซลพื้นฐาน และ LPG ลดลง ขณะที่มีการส่งออกน้ำมันเตา น้ำมันอากาศยานและก๊าด เพิ่มขึ้น.-สำนักข่าวไทย