ให้คะแนน”พล.อ.ประยุทธ์” ชี้แจงนโยบาย “สอบผ่าน”


กรุงเทพฯ 27 ก.ค. – นักวิชาการ ให้คะแนนแถลงนโยบายของรัฐบาล” พล.อ.ประยุทธ์” สอบผ่าน พร้อมเสนอทบทวนนโยบาย “ขึ้นค่าแรง”  ประเมินรัฐจะเร่งออกมาตรการกระตุ้นการบริโภค พยุงเศรษฐกิจ


นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย  ให้มุมมองต่อการแถลงนโยบายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรี และการอภิปรายของสมาชิกรัฐสภา ช่วง 2 วันที่ผ่านมา ว่า ทุกฝ่ายทำหน้าที่ของตนอย่างเต็มที่ ทางฝ่ายค้านก็ทำหน้าที่ ซักฟอก ”ชำแหละ”นโยบาย  ทำหน้าที่ของตนในเชิงคัดค้านตามมุมมองของแต่ละคน ขณะที่รัฐบาลก็เสนอแนวนโยบายของรัฐ แม้บางช่วงอาจบ้างเหตุการณ์มองว่า”แลกหมัดกัน” ซึ่งดูจาก แนวนโยบาย 12 ข้อ ครอบคลุมทั้งภาคเศรษฐกิจและสังคม ที่รัฐบาลต้องการให้ตอบโจทย์ระยะสั้นและระยะยาว เชื่อว่าจากนี้ภาครัฐจะเร่งรัดตามยุทธศาสตร์ โดยเชื่อมั่นว่า ประชาชนจะได้ประโยชน์จากการทำหน้าที่ของ ส.ส. โดยภาพรวมถือว่าสอบผ่าน ตนให้คะแนน 7 เต็ม 10 คะแนน

ส่วนนโยบายการปรับขึ้นค่าแรงนั้น  หากปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาทต่อวัน จากเดิม 325 บาท หรือมีการปรับค่าแรงขึ้นวันละ 75 บาท เฉลี่ยจะเพิ่มขึ้นเดือนละเกือบ 2,000 บาท ซึ่งหากคำนวณจากฐานผู้ใช้แรงงานรายวันประมาณ 10 ล้านคน ดังนั้น ค่าจ้างที่เอกชนต้องจ่ายเพิ่มเกือบ 20,000 ล้านบาทต่อเดือน หรือประมาณ 200,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งปัจจัยแวดล้อมขณะนี้ยังไม่เอื้อให้การปรับขึ้นค่าแรงแบบก้าวกระโดด 

“หากขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท/วัน  จะเป็นการบิดเบือนโครงสร้างต้นทุนครั้งใหญ่ ทั้งเอกชนและระบบเศรษฐกิจจะเกิดภาวะช็อก การดึงเงินจากกระเป๋าเอกชน 200,000 ล้านบาท/ปี หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ จากการเพิ่มรายได้แรงงาน จะได้ไม่คุ้มเท่ากับรัฐใช้เงินภาครัฐกระตุ้นเศรษฐกิจ ค่าแรงที่ปรับขึ้นสูงอย่างรวดเร็วเกินไปในระยะยาวจะเป็นการกดดันทั้งรายได้เอกชน รายได้ผู้ใช้แรงงาน การลงทุน และระบบเศรษฐกิจ”นายธนวรรธน์กล่าว


ดังนั้น รัฐบาลควรระมัดระวัง และทยอยปรับขึ้นค่าแรง แบบขั้นบันไดเหมือนประเทศอื่นๆ โดยหากย้อนไปปี 2555 มีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจากวันละกว่า 200 บาท เป็น 300 บาท พบว่าปี 2556 เศรษฐกิจขยายตัวเพียง ร้อยละ2  และเงินเฟ้อที่วัดจากค่าใช้จ่าย ลดลงจาก ร้อยละ3 เหลือ ร้อยละ 2

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล. เอเซีย พลัส กล่าวว่า นโยบายรัฐบาลที่แถลงในวันที่ 25 – 26 กรกฎาคมที่ผ่านมานั้น ยังไม่มีผลต่อบรรยากาศการลงทุนในประเทศ เพราะยังเป็นภาพรวม ต้องติดตามหลังจากนี้ว่าจะมีรายละเอียดแต่ละมาตรการเป็นอย่างไร และจะมีมาตรการเร่งด่วนในด้านไหน โดยคาดว่ามาตรการที่จะออกมาก่อน คือ การกระตุ้นการบริโภค เนื่องจากเห็นผลได้เร็วและง่ายที่สุด ซึ่งกลุ่มค้าปลีก อาหาร และท่องเที่ยว จะได้รับประโยชน์มากที่สุด .  – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชนแล้วหนี! 2 หนุ่มกลัวถูกจับดึงสลักระเบิดดับ

2 หนุ่มชนแล้วหนี โบกรถมาขึ้นสามล้อเครื่อง ตำรวจตามกระชั้นชิด ตัดสินใจดึงสลักระเบิด แต่สะดุดล้มระเบิดตูมสนั่นดับ 1 ส่วนอีกคน ถูกจับโดยละม่อม

“ไบเดน” เปิดทำเนียบขาวต้อนรับ “ทรัมป์” ถกถ่ายโอนอำนาจ

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐเปิดห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาวหารือนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดี ซึ่งต่างให้คำมั่นการถ่ายโอนอำนาจจะเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด

“อี้ แทนคุณ” เผยคดีใหม่ “ฟิล์ม” ชวนลงทุนคล้าย forex เสียหายกว่า 60 ล้าน

“อี้ แทนคุณ” เผยคดีใหม่ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ชักชวนลงทุนในดูไบ คล้าย forex ความเสียหายกว่า 60 ล้านบาท ขณะที่อีกฝ่ายอ้างนำเงินไปลงทุนจริงแต่ขาดทุน

ข่าวแนะนำ

“หนุ่ม กรรชัย” งดเคลียร์ “ฟิล์ม” ย้ำดำเนินคดีถึงที่สุด

“หนุ่ม กรรชัย” ประกาศตัดสัมพันธ์ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ย้ำดำเนินคดีถึงที่สุด งดเคลียร์ ซัดเป็นคนไร้ศักดิ์ศรี ชี้เรื่องนี้ไม่ต้องเตือน ให้ย้อนไปดูที่บ้านได้สั่งสอนหรือไม่

เริ่มแล้ว ประเพณียี่เป็งหรือลอยกระทงเชียงใหม่

ประเพณียี่เป็ง หรือลอยกระทง จ.เชียงใหม่ ปีนี้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งเต็มไปด้วยแสงสีจากแสงไฟที่ประดับไปทั่วเมือง และความงดงามทางวัฒนธรรมมากมาย ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย

“จิราพร” สั่งตรวจสอบปมคลิปเสียงอ้างชื่อ-จ่อแจ้งความเอาผิด

“จิราพร สินธุไพร” ยืนยันไม่รู้จักนักร้องเรียนหญิง ที่แอบอ้างว่าเป็นคณะทำงาน ประสานฝ่ายกฎหมายเร่งตรวจสอบคลิปเสียง เพื่อแจ้งความดำเนินคดี

“หนุ่ม กรรชัย” เข้าให้ปากคำปมถูกอ้างชื่อเรียกรับเงินบอส “ดิไอคอน”

“หนุ่ม กรรชัย” เข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบฯ ให้ปากคำกรณีถูกแอบอ้างชื่อเรียกรับเงินผู้บริหาร “ดิไอคอน”