กรุงเทพฯ 15 ส.ค. – ตลาดหุ้นไทยติดลบเล็กน้อย หลังเหตุการณ์รุนแรงในภาคใต้ แต่มีแรงซื้อกลับเข้ามา หลังตัวเลขจีดีพีออกมาดีขึ้น
ตลาดหุ้นไทยเปิดตลาดติดลบไป13 จุด ผลกระทบจากสถานการณ์ ระเบิดที่เกิดขึ้นในหลายจังหวัดทางภาคใต้ โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ อย่างไรก็ตามเมื่อดัชนีอ่อนตัวลงก็มีแรงซื้อกลับทำให้ดัชนีฟื้นตัวขึ้นบ้างและติดลบเล็กน้อย ขณะเดียวกันการประกาศตัวเลขอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ตจีดีพีในไตรมาส 2/59 เติบโตที่ร้อยละ 3.5เร่งตัวดีขึ้นจากไตรมาสแรก เชื่อว่ายังช่วยพยุงตลาดไว้ได้ระดับหนึ่ง
นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (KTBST) มองภาวะตลาดไทยในสัปดาห์นี้ว่า จากเหตุการณ์วางระเบิดในหลายพื้นในย่านที่มีนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่ผ่านมา ด้วยสถานการณ์ที่จบได้เร็ว แม้ว่าจะมีการเตือนจากสถานฑูตของหลายประเทศ แต่หากไม่มีเหตุลักษณะนี้ขึ้นอีก บล.KTBST คาดว่าผลกระทบจะต่อหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวกับท่องเที่ยว อย่างกลุ่มโรงแรม สายการบินอยู่ในวงจำกัด และไม่มีผลลบอย่างมีนัยยะต่อตลาดหุ้นเหมือนเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันที่สี่แยกราชประสงค์ เมื่อ 17 ส.ค.58 อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันและผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่น่าจะดีกว่าคาด พอจะช่วยพยุงตลาดไว้ได้
นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 34.80 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 34.76/77 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์อ่อนค่าหลังยอดค้าปลีกของสหรัฐที่ประกาศออกมาแย่กว่าตลาดคาดการณ์ และเนื่องจากมีเหตุระเบิด 7 จังหวัดภาคใต้ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นปัจจัยฉุดไว้ – สำนักข่าวไทย