เชียงใหม่ 25 ก.ค.- ตำรวจปฏิบัติการวิสามัญพ่อค้ายาเสพติดที่หนีหมายจับ แต่กลับถูกชาวบ้านไม่พอใจ รวมตัวกันมานับ 100 คน ใช้ไม้และก้อนหินรุมทำร้าย จนรองผู้กำกับและตำรวจสืบสวน บาดเจ็บรวม 2 นาย รถยนต์ราชการเสียหาย 1 คัน
พ.ต.ท.ตรีโลจน์ ปันตี รองผู้กำกับสืบสวน สภ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนอีก 4 นาย ขับรถออกติดตามคนร้ายตามหมายจับคดียาเสพติด เมื่อเข้าไปถึงถนนท้ายหมู่บ้านห้วยไคร้ใหม่ หมู่ 5 ต.เปียงหลวง อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ ใกล้กับแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นป่าละเมาะ พบผู้ต้องสงสัยขี่รถจักรยานยนต์มาด้วยกัน 2 คน และคนซ้อนท้ายมีอาวุธปืนยาว จึงตะโกนแสดงตัว แต่คนร้ายขี่รถหลบหนี และจอดข้างทางคนขี่วิ่งหนีเข้าป่า ส่วนคนซ้อนท้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่จึงยิงตอบโต้ ทำให้คนร้ายเสียชีวิต
แต่ปรากฏว่าหลังชาวบ้านทราบข่าว ต่างพากันมาที่เกิดเหตุนับ 100 คน และแสดงความไม่พอใจเจ้าหน้าที่ ใช้ไม้และก้อนหินเข้ามาทำร้าย ทั้งตีและทุบที่ศีรษะ พ.ต.ท.ตรีโลจน์ จนได้รับบาดเจ็บ และ ด.ต.ชัชวาล วงค์หาญ เข้ามาช่วยเหลือ ก็ถูกทำร้ายอีกคน จนวิ่งหลบหนีกลุ่มชาวบ้านออกมาได้ และเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเย็บแผลไปกว่า 10 เข็ม หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.ทรงกริช ออนตะไคร้ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ประชุมเร่งรัดคดีและสอบสวนจับกุมผู้ต้องหาที่ทำร้ายตำรวจมาดำเนินคดีฐานทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ขณะปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งอยู่ระหว่างสืบสวน และติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี
สำหรับคนร้ายที่ถูกวิสามัญ คือ นายจะจือ จะอ่อ มีหมายจับคดียาเสพติดรายสำคัญของ สภ.นาหวาย อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ หลบหนีมาซ่อนตัวในพื้นที่ สภ.เวียงแหง และลักลอบนำยาเสพติดมาจำหน่ายในพื้นที่ใกล้เคียง
ล่าสุด พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนจะแบ่งสำนวนการสอบสวนเป็น 5 สำนวน คือ สำนวนคดีมียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายและมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และสำนวนคดีต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติการตามหน้าที่ฯ ผู้ตายตกเป็นผู้ต้อง, สำนวนคดีชันสูตรพลิกศพผู้ต้องหาที่เสียชีวิต, สำนวนคดีฆ่าผู้อื่นโดยอ้างเหตุป้องกันจากการปฏิบัติหน้าที่ จากการที่เจ้าหน้าที่วิสามัญผู้ตายซึ่งเป็นคนร้าย ตำรวจที่วิสามัญคนร้ายตกเป็นผู้ต้องหา และสำนวนคดีร่วมกันทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานซึ่งได้กระทำการตามหน้าที่ โดยพนักงานสอบสวนจะรวบรวมพยานหลักฐาน รอผลตรวจพิสูจน์ที่เกี่ยวข้องมาประกอบคดี และจะดำเนินการสืบสวนสอบสวนในระยะเวลาตามกรอบกฎหมาย จากนั้นจะมีความเห็นทางคดีส่งสำนวนสอบสวนตามขั้นตอนกระบวนการยุติธรรม.-สำนักข่าวไทย