บช.ตชด.23 ก.ค.-กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนร่วมกับ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “โครงการจัดสรรเงินอุดหนุนนักเรียนยากจนแบบมีเงื่อนไข และพัฒนาคุณภาพครู” ให้กับโรงเรียนในสังกัดกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนทั้ง 218 แห่ง
พล.ต.ท.วิชิต ปักษา รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน เปิดเผยว่า โรงเรียนในสังกัดกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนประสบภาวะความยากลำบากและข้อจำกัดหลายด้าน ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการจัดการเรียนการสอน และคุณภาพของเด็กนักเรียน ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาของไทย โดย รร.กว่าร้อยละ 20 เป็นโรงเรียนที่เดินทางยากลำบากมาก ไม่สามารถเข้าถึงได้โดยรถยนต์ในทุกฤดู นักเรียนส่วนใหญ่มีฐานะยากจนด้อยโอกาส และส่วนหนึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยไม่รู้ภาษาไทย จึงเป็นอุปสรรคต่อการจัดการเรียนการสอน เด็กนักเรียนมักขาดเรียนบ่อย สาเหตุจากการเดินทางที่ยากลำบาก มีการอพยพย้ายตามผู้ปกครอง และประสบปัญหาโภชนาการ และสุขภาพอนามัยที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของร่างกายและการเรียนรู้ อุปสรรคสำคัญอีกประการหนึ่งคือ การไม่ได้รับงบประมาณสนับสนุนเพื่อการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาที่เพียงพอ เนื่องจากกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนไม่ใช่หน่วยงานหลักในการจัดการศึกษา นอกจากนี้ ยังพบว่า ครู รร.ตชด.ส่วนใหญ่ไม่มีวุฒิทางการศึกษา หรือไม่ตรงตามสาขาวิชา แม้ได้มีความพยายาม พัฒนาครู รร.ตชด. ให้ได้รับวุฒิทางการศึกษา เช่น การให้ทุนสนับสนุน การปรับเวลาเรียนให้สอดคล้องกับสภาพการทำงาน การศึกษาทางไกล แต่ด้วยข้อจำกัด เช่น ภาระงานที่หนักหลายด้านจึงทำให้ครูส่วนหนึ่งต้องตัดสินใจหยุดการศึกษากลางคัน ภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางยังทำให้ไม่สามารถศึกษาต่อได้ การจัดหลักสูตรเป็นมาตรฐานเดียว ทำให้รายวิชาตามหลักสูตรไม่สอดคล้องกับสภาพจริงในการปฏิบัติงานของครู รร. ตชด. ซึ่งความร่วมมือกับ กสศ.ในครั้งนี้ จะช่วยสนับสนุนและให้โอกาสทางการศึกษาแก่นักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ให้ได้รับโอกาสทางการศึกษาอย่างเสมอภาค รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการเรียนการเรียนการสอนและช่วยยกระดับคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ให้ดียิ่งขึ้น
นพ.สุภกร บัวสาย ผู้จัดการ กสศ.กล่าวว่า ตลอดเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาครูสังกัด ตชด.กว่า 2,000 คน จาก 218 โรงเรียน ได้ลงพื้นที่ค้นหา คัดกรองนักเรียนที่มีความยากลำบากซึ่งอยู่ในพื้นที่ตามแนวตะเข็บชายแดนทั้งหมด โดยใช้ระบบสารสนเทศเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาหรือ iSEE ของกสศ. ทำให้ขณะนี้ กสศ.มีฐานข้อมูลที่สามารถชี้เป้านักเรียนที่มีความยากลำบากใน รร.ตชด. ซึ่งระบบการคัดกรองจะเป็นไปตามมาตรฐานเดียวกับโรงเรียนสังกัดอื่นๆที่ร่วมโครงการกับกสศ.ทั้งหมด และสามารถติดตามผลการช่วยเหลือได้เป็นระยะ ทั้งการมาเรียน ผลการเรียน สุขภาพ ที่ผ่านมา นักเรียนในโรงเรียนสังกัด บช.ตชด. ไม่เคยได้รับการจัดสรรเงินอุดหนุนปัจจัยพื้นฐานนักเรียนยากจนมาก่อน ในขณะที่สภาพความเป็นจริงนักเรียนส่วนใหญ่มีฐานะทางบ้านยากจนด้อยโอกาส ต้องดิ้นรนทำงานเพื่อการยังชีพเป็นหลัก อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยตามแนวตะเข็บชายแดน ทำให้นักเรียนเหล่านี้มีความเสี่ยงหลุดออกจากระบบการศึกษา
ภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือนี้ ในปีการศึกษา 2562 กสศ.จะจัดสรรเงินอุดหนุนแบบมีเงื่อนไขให้แก่นักเรียนทุนเสมอภาคในโรงเรียนสังกัด บช.ตชด. จำนวน 15,787 คน คัดกรองเรียบร้อยแล้วจำนวน 13,037 คน คิดเป็นร้อยละ82 โดยนักเรียนกลุ่มนี้ มาจากครอบครัวที่มีรายได้เฉลี่ย 1,200 /คน/เดือน ขณะนี้อยู่ระหว่างการประมวลผลการคัดกรองโดยจะมีการแจ้งรายชื่อนักเรียนทั้งหมดที่ผ่านเกณฑ์การคัดกรองของ กสศ.ภายในปลายเดือนกรกฎาคมนี้ โดยแบ่งเป็น นักเรียนระดับชั้นอนุบาล-ประถมศึกษา จัดสรรในภาคเรียนนี้ละ 1,500 บาทต่อคน นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาจัดสรรภาคเรียนละ2,500 บาทต่อคน โดยทั้งหมดนี้จะอุดหนุนไปที่นักเรียนโดยตรง 50% เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการครองชีพ ค่าเดินทาง ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้า ขณะที่ อีก 50% จัดสรรให้กับโรงเรียนเป็นค่าอาหาร ค่ากิจกรรมพัฒนาทักษะอาชีพ ทักษะชีวิตเพื่อโรงเรียนนำไปขยายผล นำเงินอุดหนุนไปต่อยอดให้เกิดประโยชน์แก่เด็กนักเรียนอย่างยั่งยืน ทั้งนี้หากภาคเอกชนรายใดสนใจที่จะร่วมบริจาค สมทบสอบถามรายละเอียดได้ที่ กสศ.หมายเลขโทรศัพท์ 0-2 079-5475” ผู้จัดการ กสศ. กล่าว.-สำนักข่าวไทย