เตือนหญิงท้องเลี่ยงนวด หากปวดเมื่อย ออกกำลังกายเบา ๆ

กรมอนามัย 22ก.ค.-ห่วงสุขภาพหญิงตั้งครรภ์ แนะหลีกเลี่ยงการนวดถ้าไม่จำเป็น หากรู้สึกปวดเมื่อย ใช้วิธีการออกกำลังกายเบา ๆ แทน ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของระบบไหลเวียนเลือด ระบบหายใจและกล้ามเนื้อ นอนหลับสนิท


พญ.พรรณพิมล  วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากกรณีที่หญิงตั้งครรภ์ 6 เดือน ใช้บริการร้านนวดแล้วเกิดช็อกหมดสติ ส่งผลให้แท้งลูก กลายเป็นเจ้าหญิงนิทราและเสียชีวิตในเวลาต่อมานั้น โดยปกติหญิงตั้งครรภ์จะมีการเปลี่ยนแปลงทางสรีระวิทยาขณะตั้งครรภ์ในช่วงอายุครรภ์ 3 เดือนแรก ไม่ควรนวด เพราะการนวดจะกระตุ้นให้มดลูกบีบรัดตัวอาจทำให้แท้งได้


ส่วนอายุครรภ์ 4-6 เดือน สามารถนวดได้ แต่ต้องนวดกับผู้ที่ผ่านการอบรมแล้วเท่านั้นสำหรับหญิงที่อายุครรภ์ 6 เดือนขึ้นไป มดลูกจะไปกดเส้นเลือดดำ เส้นเลือดแดงในท้องไม่ควรนวดร้านทั่วไป แต่หากจำเป็นควรนวดผ่านหมอแผนไทยที่เรียนมาไม่น้อยกว่า 800 ชั่วโมง หรือเพื่อความปลอดภัย  

หญิงตั้งครรภ์ที่มีอาการปวดเมื่อย หรือต้องการผ่อนคลายภาวะเครียดจากการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยา ควรหันมาใช้วิธีการออกกำลังกายเบา ๆ แทนจะดีกว่า เพื่อช่วยเพิ่มความแข็งแรงของระบบไหลเวียนเลือด ระบบหายใจและกล้ามเนื้อ ช่วยให้นอนหลับสนิทและช่วยให้คลอดบุตรง่าย  โดยหญิงตั้งครรภ์ที่ไม่เคยออกกำลังกายมาก่อนควรทำเมื่ออายุครรภ์ได้ 2 เดือน 


ส่วนผู้ที่มีประวัติการแท้งง่ายติดต่อกัน หากต้องการออกกำลังกาย แนะนำให้เริ่มหลังจากตั้งครรภ์ได้ 3 เดือนไปแล้ว โดยให้เริ่มออกกำลังกายจากเบาไปหนักหรือช้าไปเร็ว เช่น ทำงานบ้าน     การเดิน โดยเริ่มออกกำลังกายต่อเนื่องวันละ 10 – 15 นาที 3 วันต่อสัปดาห์ แล้วค่อย ๆ เพิ่มเวลาจนครบวันละ    30 นาที 5 วันต่อสัปดาห์ ไม่ควรหักโหม หรือออกกำลังกายติดต่อกันนานเกินไป ควรแบ่งทำเป็นช่วง ช่วงละ 15 นาที

“สำหรับหญิงที่อายุครรภ์ 4 เดือนไปแล้ว ไม่ควรออกกำลังกายในท่านอนหงายนานเกิน 5 นาที หรือท่าเบ่งหรือกลั้นหายใจ เพราะทำให้เลือดไหลกลับเข้าสู่หัวใจน้อยลงและเป็นลมได้  ควรดื่มน้ำอย่างเพียงพอระหว่าง     ออกกำลังกาย และหลังจากออกกำลังกายทุกครั้งควรผ่อนคลายกล้ามเนื้อ (Cool down) ด้วยการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ 3 – 5 นาที เพื่อป้องกันการหดตึงของกล้ามเนื้อที่จะส่งผลทำให้เกิดการบาดเจ็บ ที่สำคัญขณะ ออกกำลังกาย หากมีอาการปวดท้อง ปวดหลัง หายใจไม่ทัน เจ็บหน้าอก อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ใจสั่น หน้ามืด จะเป็นลม มีเลือดออกทางช่องคลอด ต้องหยุดออกกำลังกายในขณะนั้นทันทีและควรไปพบแพทย์ ส่วนหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะโรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน หัวใจและหลอดเลือด ระบบทางเดินหายใจ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนออกกำลังกาย” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว

ด้าน นพ.อุดม อัศวุตมางกุร ผู้อำนวยการกองกิจกรรมทางกายเพื่อสุขภาพ กล่าวเสริมว่า ก่อนออกกำลังกายทุกครั้งหญิงตั้งครรภ์ควรมีการเตรียมความพร้อม โดยให้สังเกตร่างกายตนเองก่อน และขอเน้นย้ำหากมีอาการปวดท้อง อ่อนเพลีย หน้ามืดจะเป็นลม มีเลือดออกทางช่องคลอด ในวันนั้นควรเลี่ยงออกกำลังกาย หากอากาศร้อนและชื้นเกินไปควรออกกำลังกายในระดับเบา เช่น การเดิน ควรแต่งกายให้เหมาะสมกับการ ออกกำลังกาย เช่น สวมใส่รองเท้าผ้าใบเพื่อรองรับน้ำหนัก ลดแรงกระแทก ใสกางเกงพยุงท้อง เสื้อผ้าที่ไม่รุ่มร่าม  ใส่สบายเพื่อป้องกันการหกล้ม และก่อนออกกำลังกายทุกครั้งควรอบอุ่นร่างกายโดยการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ   (Warm up) ครั้งละ 3 – 5 นาที และไม่ควรกินอาหารมื้อหนักก่อนออกกำลังกาย 2 ชั่วโมงเพราะจะทำให้เกิดการ  จุกเสียดแน่นท้องได้ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทักษิณเหยียดผิว

“อังคณา” จี้ “ทักษิณ” ขอโทษ หลังปราศรัยเหยียดสีผิว-เชื้อชาติชาวแอฟริกัน

“อังคณา” จี้ “ทักษิณ” ขอโทษ หลังปราศรัยเหยียดสีผิว-เชื้อชาติชาวแอฟริกัน ชี้เสี่ยงทำประเทศไทยถูกนานาชาติตั้งคำถาม ขัดหลักการสิทธิมนุษยชน

ข่าวแนะนำ

จนท.นำตัว “ซิงซิง” ถึง กทม.แล้ว ขอบคุณรัฐบาลไทยช่วยเหลือ

เจ้าหน้าที่นำตัว “ซิงซิง” ดาราหนุ่มจีน วัย 32 ปี เดินทางถึงกองบินตำรวจ 3 ย่านดอนเมือง หลังพบตัวที่ฝั่งเมียนมา เจ้าตัวขอบคุณรัฐบาลไทยที่ให้การช่วยเหลือ พร้อมย้ำว่าปลอดภัยดี เผยรอยที่ขาคือปาน ไม่ใช่แผลจากการถูกทำร้าย

ยิงกระสุนยางสยบชายคลั่งทำร้ายภรรยา-จับลูก 5 ขวบ ขังในบ้าน

ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยาง สยบชายคลั่งซ้อมภรรยา และจับลูกวัย 5 ขวบ เป็นตัวประกันขังไว้ในบ้าน ขู่ตัดสายแก๊สฆ่ายกครัว

รับตัว “ซิงซิง” จากเมียนมากลับฝั่งไทยแล้ว

เจ้าหน้าที่รับตัว “ซิงซิง” นักแสดงจีน จากเมียนมาข้ามมาฝั่งไทยแล้ว หลังหายตัวลึกลับจนญาติแจ้งความที่จีน พบโผล่ที่ไทยและข้ามแดนไปยังเขตเศรษฐกิจพิเศษในเมียนมา ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบปากคำจุดประสงค์การข้ามแดน หลังไม่พบข้อบ่งชี้ถูกบังคับ โดยเจ้าตัวจ้างแท็กซี่จากสนามบินไปชายแดน อ.แม่สอด ด้วยตนเอง

พระราชพิธีสมมงคล

นายกฯ เชิญชวนประชาชนร่วมงาน “พระราชพิธีสมมงคล” 14 ม.ค.นี้

นายกฯ เชิญชวนประชาชนร่วมงาน “พระราชพิธีสมมงคล” 14 ม.ค.นี้ ทั่วประเทศ พร้อมเลื่อนประชุม ครม. สัปดาห์หน้า เป็นวันจันทร์ที่ 13 ม.ค. แทน