เร่งพัฒนาอาชีพประมงกว๊านพะเยา

พะเยา 20 ก.ค. – “ธรรมนัส” กำชับกรมประมงส่งเสริมอาชีพชาวบ้านกว๊านพะเยา เพิ่มปริมาณสัตว์น้ำ จัดระเบียบการทำประมงน้ำจืด เพิ่มพูนรายได้ให้สูงขึ้น


ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า เดินทางมายังกว๊านพะเยาร่วมกับนายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง เพื่อหาแนวทางพัฒนาอาชีพประมงน้ำจืดแก่ชาวบ้าน นายอดิศรรายงานว่า กว๊านพะเยาเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ในเขตภาคเหนือตอนบน อยู่ที่อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยามีพื้นที่ประมาณ 12,831 ไร่ เป็นแหล่งรับน้ำจากลำน้ำ 10 ลำน้ำ ได้แก่ ลำน้ำแม่ปืม แม่เหยี่ยน แม่ตุ้ม แม่ต๋ำ แม่ต๋อม แม่ตุ่น แม่นาเรือ แม่ใส แม่ต๊ำ และมีลำน้ำแม่อิงป็นลำน้ำสายหลัก จากการสำรวจพบสัตว์น้ำประมาณ 28-36 ชนิดพันธุ์ ได้แก่ กลุ่มปลาสร้อย ปลาตะเพียน และปลานิล มีชาวประมง 17 ชุมชน 344 ครอบครัว โดยการทำประมงส่วนใหญ่จะใช้เป็นเครื่องมือประมงพื้นบ้าน เช่น แห ข่าย ยอ เบ็ด ตุ้ม เป็นต้น  รายได้จากการทำประมงโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณครัวเรือนละ 7,000 – 9,000 บาทต่อเดือน 

ปัจจุบันกว๊านพะเยาได้รับผลกระทบจากสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงมากขึ้น ได้แก่ ปัญหาที่ดินทำกิน การบุกรุกพื้นที่ การขยายตัวของวัชพืช คุณภาพน้ำเสื่อมโทรม และที่สำคัญที่สุด คือ ภาวะภัยแล้งทำให้ชนิดและปริมาณของสัตว์น้ำลดลง ที่ผ่านมากรมประมงได้แก้ปัญหาโดยขุดลอกกำจัดตะกอนดินที่ทับถมใต้ท้องน้ำ สร้างฝายพับเพื่อยกระดับน้ำให้สูงขึ้น กำจัดวัชพืช เฝ้าระวังคุณภาพน้ำ และบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยลงสู่กว๊านพะเยา


 ร้อยเอกธรรมนัส ได้กำชับให้จัดระเบียบการทำประมงในกว๊านพะเยา เช่น การบังคับใช้กฎหมาย การจัดทำทะเบียนเรือ และทะเบียนเครื่องมือประมง กำหนดเครื่องมือการทำประมงที่เหมาะสม ตลอดจนสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนในทุกภาคส่วนทั้งหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน และประชาชนในพื้นที่ เพื่อร่วมกันพัฒนาและการบริหารจัดการทรัพยากรประมง โดยสร้างแหล่งอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำ สร้างแหล่งสมดุลของระบบนิเวศประมง และการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเพื่อเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำเพื่อพัฒนาให้กว๊านพะเยาเป็นแหล่งน้ำที่มีความอุดมสมบูรณ์ สร้างรายได้ให้กับประชาชนโดยรอบ พร้อมกันนี้ได้ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ 150,000 ตัว ได้แก่ ปลาสร้อยขาว ปลาตะเพียนขาว ปลาเทพา เป็นต้น ลงสู่กว๊านพะเยา  

ร้อยเอกธรรมนัส ได้เชิญสมาคมประมงแห่งประเทศไทย (สปท.) เข้าพบเพื่อรับทราบปัญหาและหารือถึงแนวทางแก้ไข ซึ่งนายมงคล สุขเจริญคณา ประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย ได้ยื่นข้อเสนอที่สมาชิกและชาวประมง 22 จังหวัดชายทะเลต้องการให้รัฐบาลแก้ไข ได้แก่ ปัญหากฎหมายประมงที่รุนแรง แม้เป็นการกระทำความผิดโดยไม่มีเจตนา แต่ถูกดำเนินคดีและเสียเงินค่าปรับเป็นเงินหลักแสนถึงหลายล้าน อีกทั้งยังถูกยึดสัตว์น้ำที่ประมงอย่างถูกต้องทั้งหมดแต่ละครั้ง และอาจจะต้องถูกคำสั่งพักใบหรือเพิกถอนใบอนุญาตอีกด้วย กลุ่มเรืออวนรุนเดิมที่ถูกกฎหมาย ถูกศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหารการทำประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) มีคำสั่งให้ยกเลิกใบอนุญาตภายในเวลา 2 สัปดาห์ ในช่วงปี 2558 จำนวน 342 ลำ โดยไม่มีมาตรการรองรับที่ดีพอ ทำให้หลายคนต้องหมดหนทางประกอบอาชีพและมีหนี้สินจำนวนมาก 


กลุ่มเรือที่ถูกกฎหมายเจ้าท่าฉบับใหม่ที่ออกมาแล้วกำหนดให้ยกเลิกทะเบียนเรือประมงที่เลยกำหนดการต่อใบอนุญาต หรือไม่ได้ต่อใบอนุญาต โดยชาวประมงไม่ได้รู้กฎหมายฉบับใหม่ อีกทั้งไม่เข้าใจกฎหมาย เช่น เรือประมงที่งดใช้เรือประมง เพราะไม่ได้ออกไปทำการประมงก็ไม่ทราบว่าจะต้องต่อใบอนุญาตใช้เรือทุก ๆ ปี จึงไม่ได้ไปต่อใบอนุญาตใช้เรือแต่ละปี แต่กฎหมายใหม่กำหนดให้ต้องต่อใบอนุญาตทุกปี หากเลยกำหนดจะต้องถูกยกเลิกทะเบียนเรือประมงไป ทำให้เป็นเรือประมงไม่มีทะเบียนไม่สามารถออกทำการประมงได้ รวมทั้งไม่สามารถขายเรือได้อีกด้วยซึ่งเรือประมงนั้นเป็นทรัพย์สินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ถือได้ว่า เป็นการยกเลิกทรัพย์สินของชาวประมงไปโดยไม่เป็นธรรม กลุ่มเรือประมงฝั่งอ่าวไทยที่ต้องการจะไปทำการประมงฝั่งอันดามันที่ยังไม่สามารถข้ามฝั่งได้ เช่นเดียวกับกลุ่มเรือประมงฝั่งอันดามันที่ต้องการจะข้ามกลับมาทำประมงฝั่งอ่าวไทยก็ไม่สามารถที่จะกลับมาทำประมงได้ กลุ่มผู้ประกอบการโรงงานแปรรูปสัตว์นำที่มีใช้แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายจะต้องถูกสั่งปิดโรงงานชั่วคราวและถาวรได้โดยง่ายตาม พ.ร.ก.การประมง มาตรา 11 และมาตรา 11/1 และกรณีที่มีใช้แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายจะต้องถูกปรับสูงถึง 400,000-800,000 บาทต่อแรงงานต่างด้าว 1 คน ตามกฎหมาย พ.ร.ก.การประมง มาตรา 124 ซึ่งจะเห็นได้ว่าเป็นการออกกฎหมายที่ขัดกับหลักการความเสมอภาคในการประกอบอาชีพ ตามกฎหมายของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

นายมงคล กล่าวเพิ่มเติมว่า ยังได้เสนอให้ยกเลิกคำสั่ง คสช.ทั้งหมดเกี่ยวกับการประมง เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนของกฎหมายแก้ไข พ.ร.ก.การประมงฯ ให้สอดคล้องกับความเป็นจริงที่ไม่ขัดแย้งกับวิถีการประมงและความยั่งยืนของอาชีพและทรัพยากรประมง ยกร่างกฎหมายประมงฉบับใหม่ของชาวประมงที่สอดคล้องกับความเป็นจริง แก้ปัญหาราคาสินค้าสัตว์น้ำตกต่ำเนื่องมาจากสินค้าของประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาขายในราคาต่ำกว่า อีกทั้งต้องควบคุมให้สินค้าที่นำเข้ามาจะต้องมาจากประเทศที่ผ่านการแก้ไขปัญหา IUU แล้วและอยู่ในมาตรฐานเดียวกับประเทศไทยเพื่อตรวจสอบย้อนกลับได้ เป็นต้น ซึ่งร้อยเอกธรรมนัสได้รับเรื่องและระบุว่าหลังรัฐบาลแถลงนโยบายจะตั้งคณะกรรมการศึกษาผลกระทบจากกฎหมายประมงเพื่อแก้ไขอย่างจริงจัง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

ผู้รอดชีวิตจากแอร์อินเดียเผยหนีออกทางประตูฉุกเฉินที่เสียหาย

นิวเดลี 13 มิ.ย. – ผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวจากเหตุเครื่องบินแอร์อินเดียตก ซึ่งมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 240 คน กล่าวว่า เขาเดินออกมาจากประตูฉุกเฉินที่พังเสียหาย หลังจากเครื่องบินชนเข้ากับหอพักวิทยาลัยแพทย์ในเมืองอาห์เมดาบัด นายราเมศ วิศวาศกุมาร ซึ่งตำรวจระบุว่า เขานั่งอยู่ที่นั่ง 11เอ (11A) ใกล้ประตูฉุกเฉิน และสามารถหนีรอดมาได้ทางช่องทางประตูฉุกเฉินที่ชำรุดเสียหาย เขาถูกบันทึกภาพไว้หลังเหตุเครื่องบินตกเมื่อวันพฤหัสบดี ขณะกำลังเดินกะเผลกๆ อยู่บนถนนในสภาพเสื้อยืดเปื้อนเลือดและมีรอยฟกช้ำบนใบหน้า คลิปภาพชาวอังกฤษเชื้อสายอินเดียผู้นี้ที่เผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ ถูกนำไปออกอากาศในสถานีข่าวเกือบทั้งหมดของอินเดีย หลังจากเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ ลำดังกล่าวเกิดอุบัติเหตุตกหลังออกเดินทางจากสนามบินได้ไม่นาน นายวิศวาศกุมาร ให้สัมภาษณ์ขณะนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลว่า เขาไม่อยากจะเชื่อว่ารอดชีวิตมาได้อย่างไร และคิดว่าต้องตายแน่ ๆ แต่พอเขาลืมตา เขาก็รู้สึกตัวว่ายังไม่ตาย และพยายามปลดเข็มขัดนิรภัย เพื่อออกจากที่นั่ง และพยายามหนีออกมาจากตัวเครื่องบิน นายวิศวาศกุมาร เล่าว่า เครื่องบินดูเหมือนจะหยุดนิ่งกลางอากาศเป็นเวลา 2-3 วินาที หลังจากที่ขึ้นบินไปในอากาศ และไฟในห้องโดยสารที่เป็นสีเขียวและสีขาวก็สว่างขึ้น เขารู้สึกได้ว่าแรงขับเคลื่อนของเครื่องยนต์เพิ่มขึ้น แต่แล้วเครื่องบินก็ชนเข้ากับหอพักด้วยความเร็ว แพทย์ระบุว่า นายวิศวาศกุมารไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงใด ๆ ในขณะที่เขากล่าวว่า เขาเดินออกจากจุดเครื่องบินตก โดยบาดเจ็บจากบาดแผลไฟไหม้ที่แขนซ้ายเท่านั้น นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี […]

ทหารยิงปะทะคาราวานขนยาเสพติด คนร้ายดับ 4

เชียงใหม่ 13 มิ.ย. – ทหารยิงปะทะคาราวานขนยาเสพติด บริเวณเส้นทางบ้านขอบด้ง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ คนร้ายเสียชีวิต 4 ราย ยึดยาบ้า 400,000 เม็ด ทหารหน่วยเฉพาะกิจไชยานุภาพ เข้าตรวจสอบจุดปะทะ บริเวณเส้นทางบ้านขอบด้ง ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ หลังลาดตระเวนพบคาราวานขนยาเสพติด เป็นกลุ่มชายฉกรรจ์ 6-8 คน แบกเป้เข้ามาตามช่องทางธรรมชาติ ช่วงเช้ามืดวันนี้ (13 มิ.ย.) จึงส่งสัญญาณให้หยุด แต่ขบวนการดังกล่าวเปิดฉากยิงเข้าใส่ ทหารจึงยิงตอบโต้ ทำให้เกิดการปะทะกันประมาณ 10 นาที ก่อนกลุ่มคนร้ายล่าถอย จากการตรวจสอบพื้นที่พบศพกลุ่มขบวนการ 4 ราย ยึดยาบ้า 400,000 เม็ด โดยกองกำลังผาเมืองนำเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจพื้นที่จุดปะทะอย่างละเอียดอีกครั้งเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ เชื่อกัมพูชาเข้าใจผิด ตัดไฟ-เน็ต ส่ง กต.เคลียร์

ถนนวิทยุ 13 มิ.ย.- นายกฯ เชื่อกัมพูชาเข้าใจผิด ไทยออกแถลงการณ์ “ตัดไฟ-เน็ต” เผยแค่มาตรการเตรียมพร้อม ส่ง กต.เคลียร์ หลัง “ฮุน เซน” งัด 6 มาตรการโต้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สมเด็จฯฮุนเซน ประกาศ 6 มาตรการตอบโต้ประเทศไทย หากไม่ยอมเปิดด่านพรมแดน ซึ่งล่าสุดได้มีการปิดด่านที่จังหวัดจันทบุรีโดยไม่มีการแจ้งให้ทางการไทยทราบก่อน โดยนายกฯระบุว่าตอนแรกทางกัมพูชาได้ยินว่าไทยจะตัดน้ำตัดไฟ(ตัดไฟตัดเน็ต) แต่จริงๆแล้ว เรื่องนี้ต้องอยู่ในมาตรการที่ต้องผ่านความเห็นชอบจากสภาความมั่นคงแห่งชาติหรือ สมช. ก่อน และเรายังไม่ได้มีการประกาศออกไป แต่ยอมรับว่ามีการเตรียมความพร้อมเรื่องนี้ และย้ำว่าเรายังไม่ได้ทำแบบนั้น ซึ่งอาจมีความเข้าใจผิดเกิดขึ้น จึงได้มีการพูดคุยกับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องและคณะทำงานว่าเกิดอะไรขึ้น จนทำให้เข้าใจผิดว่ารัฐบาลออกแถลงการณ์ว่าจะตัดน้ำตัดไฟ ซึ่งไม่จริง ซึ่งก่อนหน้านี้ที่มีการพูดคุยกันก็มีการตกลงกันว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะปรับกำลัง และจะรอการพูดคุยในการประชุม JBC วันพรุ่งนี้ (14 มิ.ย.) จึงอยากให้สื่อมวลชนช่วยสื่อสารด้วยว่าเรื่องดังกล่าวไม่ใช่แถลงการณ์จากรัฐบาล ส่วนนายกรัฐมนตรีจะต้องประสานโดยตรงกับกัมพูชา หรือมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานงานเพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกันหรือไม่ นายก รัฐมนตรี กล่าวว่า จะมอบหมายกระทรวงการต่างประเทศประสานไปทางกัมพูชาว่าข้อมูลดังกล่าวมาได้อย่างไร มีกระบวนการอย่างไร เพราะจริงๆแล้วเราได้มีการเตรียมการทุกสถานการณ์และเมื่อผ่านความเห็นชอบจาก สมช. […]

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]