BIG STORY : เดินหน้าบังคับคดี หลังเหยื่อ “แพรวา” ยังไม่ได้รับเยียวยา

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – วันนี้ ทนายความฝ่ายโจทก์คดี “แพรวา” ขับรถเก๋งพุ่งชนรถตู้ จนมีผู้เสียชีวิต 9 คน บาดเจ็บอีก 4 คน แถลงเป็นครั้งแรก หลังคดีสิ้นสุดทั้งอาญาและแพ่ง ซึ่งทางจำเลยยังไม่มีการติดต่อเรื่องการเยียวยา ขณะที่ฝั่งมารดา “แพรวา” เคลื่อนไหวแล้ว ระบุพร้อมขายโฉนดนำเงินมาชดใช้ให้ผู้เสียหาย ยืนยันไม่ได้ประวิงเวลา แต่ก็มีคำถามจากสังคมว่า แล้วทำไมต้องปล่อยให้เวลายาวนานมาถึง 9 ปี 


คดีสะเทือนสังคม เมื่อปลายปี 2553 น.ส.แพรวา ซึ่งขณะนั้นมีอายุ 17 ปี ขับรถเก๋งพุ่งชนรถตู้โดยสาร บนทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ ร่างผู้โดยสารกระเด็นออกจากรถ เสียชีวิต 9 คน บาดเจ็บ 5 คน มีทั้งนักศึกษาและบุคลากรของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ


ในส่วนคดีอาญา ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง พิพากษาจำคุก 2 ปี ให้รอลงอาญา 4 ปี และห้ามขับรถจนกว่าจะมีอายุครบ 25 ปีบริบูรณ์ นั่นหมายความว่าจนถึงวันนี้ ผ่านมาเกือบ 9 ปี จำเลยอายุครบ 25 ปีแล้ว และสามารถกลับมาขับรถได้อีกครั้ง


ส่วนคดีแพ่ง ทนายความศูนย์นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ยื่นฟ้องร้องเรียกค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เสียหายทั้ง 13 คน ต่อมามี 1 คน ถอนฟ้อง ระบุได้รับการเยียวยาแล้ว จึงเหลือผู้เสียหาย 12 คน และมีการสู้คดีกันจนถึงศาลฎีกา ซึ่งมีคำตัดสินไปเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา ให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนทั้งหมดกว่า 25 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ซึ่งจำเลยทั้ง 4 คน ได้แก่ น.ส.แพรวา บิดา มารดา และผู้ครอบครองรถยนต์ ไม่ได้มาฟังคำพิพากษา ทำให้ฝ่ายโจทก์ต้องส่งคำบังคับคดีไปให้

ทนายความโจทก์ ให้ข้อมูลว่า ได้ดำเนินการส่งคำบังคับคดีไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา ล่าสุดมีข้อมูลว่า จำเลยที่ 2 คือ พ.อ.รัฐชัย บิดาของ น.ส.แพรวา รับทราบหมายแล้ว ส่วนจำเลยที่ 1, 3 และ 4 เป็นการส่งหมายข้ามเขต จึงยังต้องรอผล ทั้งนี้ จำเลยทั้ง 4 คน ต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาล ภายใน 30 วัน หลังทราบหมาย หากยังไม่ปฏิบัติตาม ต้องเข้าสู่การบังคับคดี

สำหรับขั้นตอนการสืบทรัพย์ ต้องติดต่อไปยังหน่วยงานต่างๆ อาทิ กรมที่ดิน กรมการขนส่งทางบก ธนาคาร เพื่อตรวจสอบทรัพย์สิน ไม่ว่าจะเป็นบ้าน ที่ดิน รถยนต์ และบัญชีเงินฝาก แต่กังวลว่าอาจมีข้อติดขัด เนื่องจากจำเลยมีการเปลี่ยนชื่อหลายครั้ง

แม้ล่าสุดมารดา น.ส.แพรวา ส่งโฉนดที่ดินมาออกอากาศในรายการโทรทัศน์ ขอประกาศขาย เพื่อนำเงินไปคืนผู้เสียหาย และยืนยันว่าไม่ได้คิดจะประวิงเวลา มีคำถามเกิดขึ้นทันทีว่า ถ้าเช่นนั้นทำไมต้องรอให้เวลาล่วงเลยมาถึง 9 ปี อีกทั้งยังสู้คดีถึงชั้นฎีกา 

มีการตั้งข้อสังเกตอีกว่า การออกมาแสดงตนในครั้งนี้ หลังมีการโพสต์ข้อความของผู้รอดชีวิตว่าไม่ได้รับการเยียวยาเหลียวแล ตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุจนถึงปัจจุบัน

ทีมข่าวสำนักข่าวไทย ตรวจสอบต่อไปยังผู้รอดชีวิตคนอื่นๆ หนึ่งในนั้นคือ สุนทร ปิตาทานัง อายุ 52 ปี สามีของ นฤมล คนขับรถตู้ที่ถูกชน และเสียชีวิตในอุบัติเหตุครั้งนั้น ยอมรับว่า คู่กรณีเคยมาเยี่ยมตอนรักษาตัวในโรงพยาบาลเพียงครั้งเดียว มอบเงินให้ 20,000 บาท และไม่เคยได้รับการติดต่อหรือช่วยเหลือใดๆ อีก แม้รอดชีวิต แต่ร่างกายของสุนทรไม่เหมือนเดิม ขามีอาการเจ็บแปลบ เสียงกระดูกลั่นเมื่อเดิน หรือนั่งนานๆ จึงไม่สามารถทำงานประจำได้ ทำงานเพียงรับจ้างขับรถเป็นครั้งคราว เจ็บแปลบขาเมื่อไรก็จะนึกถึงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ทุกวันนี้ชีวิตลำบากมาก ต้องดูแลลูกทั้ง 3 คน สิ่งที่ต้องการตอนนี้เพียงแค่ให้ผู้ที่ก่อเหตุออกมารับผิดชอบเท่านั้น ไม่เฉพาะกับครอบครัวของเขา แต่รวมถึงทุกครอบครัวที่ต้องสูญเสียจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” คดี “แบงค์ เลสเตอร์”

ผบช.ภ.2 เผยคดี “แบงค์ เลสเตอร์” แจ้งข้อหา “เอ็ม” กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มอบตัวรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา คุมฝากขังค้านประกันตัว

หยุดยาววันแรก การจราจรขาออก กทม. มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่น

เริ่มหยุดยาววันแรก การจราจรบนท้องถนนขาออกกรุงเทพฯ มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่นตั้งแต่เมื่อคืน เช้านี้ ถนนมิตรภาพ ช่วง ต.กลางดง อ.ปากช่อง ชะลอเคลื่อนตัวไปได้เรื่อยๆ ส่วนถนนพหลโยธิน ขาเข้าหนองแค รถเริ่มแน่น

วันแรก ตาย 52 อุบัติเหตุ 322 ครั้ง บาดเจ็บ 318 คน

สถิติวันแรก 10 วันอันตราย ตาย 52 อุบัติเหตุ 322 ครั้ง บาดเจ็บ 318 คน​ “เพิ่มพูน” เน้นทุกฝ่ายช่วยกันดูแลความปลอดภัย อำนวยความสะดวก เข้มเรื่องกฎหมาย