กรุงเทพฯ 18 ก.ค.- ตม.สนามบินแจงโพส แอนดรูว์ โวยสุวรรณภูมิ แน่น !!
ตามที่มีการเผยแพร่ข้อความ Twitter ของนาย แอนดรูว์ บิ๊ก ครูสอนภาษา และพิธีกรชื่อดังเมื่อวันที่ 17 ก.ค.2562 ปรากฏข้อความตำหนิการทำงานของ ตม.สนามบิน เช่น ” หลายช่องปิดขณะชั่วโมงเร่งด่วน ไม่เข้าใจ” “ผมนับ 7 ช่องที่ไม่เปิดในเวลานี้ สุวรรณภูมิ..แดนนรกสำหรับนักท่องเที่ยว” และล่าสุดเมื่อ 18 ก.ค.2562 ได้โพสต์ข้อความ “สุวรรณภูมิ..ไม่ใช่แดนนรก แต่เป็นประตูขาเข้าสูู่เมืองไทยที่รักของเรา…เมื่อวานผมไม่พอใจมากกับสิ่งที่เห็น เพราะเป็นห่วงภาพลักษณ์ของไทย ” ในสายตานักท่องเที่ยวที่เพิ่งมา ขอฝากปัญหานี้กับเจ้าหน้าที่ครับ เชื่อว่าเราแก้ได้ ”
จากข้อความดังกล่าว ทำให้มีผู้โพสข้อความแสดงความคิดเห็นวิจารณ์ในมุมมองต่างๆ จำนวนมาก
กรณีดังกล่าว พ.ต.อ.เชิงรณ ริมผดี รอง ผบก.ตม.2 ในฐานะรองโฆษก สตม.และ โฆษก บก.ตม.2 เปิดเผยว่า พล.ต.ต.พฤทธิพงษ์ ประยูรศิริ ผบก.ตม.2 ได้สั่งตรวจสอบเรื่องดังกล่าว พบว่า นายแอนดรูว์ บิ๊ก ได้เดินทางเข้าประเทศไทย ทางด่าน ตม.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ด้วยเที่ยวบิน WE0577 เมื่อวันที่ 17 ก.ค.2562 ซึ่งช่วงที่นายแอนดรูว์ลงเครื่อง เป็นช่วงที่มีเที่ยวบินหนาแน่น ระหว่าง 12.00 – 14.00 น. โดยมีเที่ยวบินลง 44 เที่ยวบิน ผู้โดยสารประมาณ 4,500 คน ซึ่งปกติ ทาง ตม.จะมีการระดมกำลังเท่าที่มีทุกนายเข้าประจำช่องตรวจและบริหารจัดการ โดยเฉลี่ยผู้โดยสารกระจายแต่ละโซนเพื่อเร่งระบายให้เร็วที่สุด จนท.ตม.จะตรวจคัดกรอง ประมาณ 8 ขั้นตอน ตั้งแต่ตรวจหนังสือเดินทาง เทียบเคียงใบหน้า ดูวีซ่า เช็คแบล็กลิสต์ สแกน ถ่ายภาพ ประทับตราอนุญาต สัมภาษณ์ ในเวลารายละไม่เกิน 50 วินาที ซึ่งในช่วงเที่ยวบินหนาแน่น จะสามารถระบายผู้โดยสารกว่า 2,000 คน ภายในเวลาประมาณ 1 ชม. ในขณะที่ จนท.ตม.ต้องระวังชาวต่างชาติที่มักอาศัยโอกาสช่วงหนาแน่นแฝงตัวเข้าประเทศ ซึ่งเคยมีการจับกุมและปฏิเสธการเข้าเมืองจำนวนมาก
ส่วนกรณี นายแอนดรูว์ พบว่าเครื่องบินถึงสนามบิน เวลา 12.45 น. มีการใช้ช่องทาง Bus gate โดยรถบัสรับจากเครื่องบินมาเทียบที่ตัวอาคารเมื่อเวลา 13.01 น. จากนั้น นายแอนดรูว์ ได้เดินเข้าพื้นที่ ตม. เริ่มเข้าแถวรอคิวรับการตรวจหนังสือเดินทางเมื่อ 13.06 น. และได้รับการตรวจเสร็จสิ้นเมื่อเวลา 14.06 น.รวมรอเวลารับการตรวจไม่เกิน 1 ชม. ซึ่งอาจเป็นเหตุให้ไม่พอใจ
ขณะที่ โถงรอตรวจหนังสือเดินทางของ ตม.สุวรรณภูมิ ฝั่งทิศตะวันตกที่นายแอนดรูว์ โพสต์ สามารถจุผู้โดยสารได้ประมาณ 560 คน แต่ขณะนั้น มีผู้โดยสารจากเที่ยวบินที่ลงพร้อมกันกว่า 20 เที่ยวบิน จำนวนกว่า 1,200 คน จึงมีสภาพล้นยาวจากโถงตรวจออกมาตามภาพ โดยกรณีช่วงวิกฤติ จนท.ตม.ทุกนายในผลัดจะลงไปนั่งประจำช่องตรวจไม่เว้นแม้แต่ เจ้าหน้าที่ควบคุมระดับ supetvisor ซึ่งอาจมีบางช่วงที่จำเป็นต้องลุกออกไปช่วยแก้ปัญหา ให้ จนท.ช่องอื่น ตามแต่กรณี จนเป็นเหตุให้นายแอนดรูว์ เข้าใจผิด คิดว่าไม่มี จนท.นั่ง และถ่ายภาพโพสต์ดังกล่าว
ทั้งนี้ พ.ต.อ.เชิงรณฯ กล่าวว่า พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง รรท.ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.พฤทธิพงษ์ ประยูรศิริ ผบก.ตม.2 ได้ให้ความสำคัญกับข้อห่วงใยของนายแอนดรูว์ฯครั้งนี้ ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลเสียต่อภาพลักษณ์ของหน่วยงาน โดย ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ ได้ให้ความสำคัญเรื่องภาพลักษณ์การอำนวยความสะดวกการตรวจหนังสือเดินทาง โดยไม่กระทบต่อหลักความมั่นคง มาอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมา มีการออกแผนรองรับสถานการณ์ผู้โดยสารในช่วงเที่ยวบินหนาแน่น โดยมีการบริหารจัดการด้วยการใช้กำลังพลที่มีเต็มอัตรา มีการตัด จนท.ตม.ที่พักเวรมาเสริมนอกเวลา มีการจัดอาสาสมัครช่วยแนะนำการกรอกข้อมูล การจัดเจ้าหน้าที่เกลี่ยผู้โดยสารไปโซนที่มีปริมาณน้อยกว่า การจัดช่องทางสำหรับกลุ่ม priority เช่น คนพิการ เด็กเล็ก คนท้อง คนชรา ส่วนคนไทย ฮ่องกง สิงคโปร์ ซึ่งมีข้อมูลทะเบียนราษฏร์ และ ข้อมูลลงทะเบียนไว้แล้ว สามารถใช้ช่องตรวจอัตโนมัติซึ่งใช้เวลาเพียง 20 วินาทีได้เลย และในอนาคตกำลังพิจารณาขยายรองรับคนสัญชาติอื่นๆได้อีก รวมถึงการใช้แผนฉุกเฉินหากมีสถานการณ์ที่ได้ผลมาแล้ว เช่น การรองรับระงับเที่ยวบินชั่วคราวจากสภาพอากาศ ที่ดอนเมือง และสุวรรณภูมิ ตามที่เคยเป็นข่าวช่วงเดือนที่ผ่านมา เป็นต้น
นอกจากนั้น ทาง บก.ตม.2 ยังได้มีการหารือกับทาง การท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และกลุ่มสายการบินต่างๆ เพื่อหามาตรการรองรับการแก้ปัญหาผู้โดยสารหนาแน่น จากเที่ยวบินและผู้โดยสารที่เพิ่มสูงขึ้นปีละกว่าร้อยละ 6 และการเตรียมรองรับในระบบโครงสร้างภาคพื้นทั้งระบบ โดยในส่วนของ สตม.ได้มีการรับกำลังพลจากข้าราชการตำรวจและ บุคคลภายนอก มาเพิ่มที่สนามบิน โดยระหว่างนี้ ทาง พล.ต.ท.สมพงษ์ฯได้สั่งการให้ จนท.ตม.ที่ย้ายออกไปหน่วยอื่นใน สตม.ยังคงช่วยปฏิบัติงานที่สนามบิน จนถึง 30 ก.ย.2562 ทั้งนี้จะติดต่อนายแอนดรูว์เพื่อเข้าพบและหารือแลกเปลี่ยนข้อมูล และจะนำความคิดเห็นไปหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ปัญหาโดยภาพรวมทั้งระบบต่อไป.-สำนักข่าวไทย
