ก.ท่องเที่ยวฯ 18 ก.ค.- รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ถือฤกษ์ดี 08.30 น. เข้าทำงานวันแรก นโยบายเร่งด่วนสร้างความมั่นใจ เรื่องความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว
เช้าวันนี้(18ก.ค.) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เดินทางเข้ากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นวันแรก โดยมีปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นำคณะผู้บริหาร ข้าราชการ บุคลากรในสังกัด ให้การต้อนรับและแสดงความยินดี
โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ คนใหม่ ถือฤกษ์ดี 08.30 น.สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์โดยรอบกระทรวง หลังจากนั้นเชิญทุกหน่วยงานในสังกัดเข้าประชุมชี้แจงงานในความรับผิดชอบ พร้อมกำหนดแนวทางทำงาน โดยเป็นการประชุมภายในไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปบันทึกภาพ
นายพิพัฒน์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนก่อนเข้าประชุม ว่า รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เพราะเป็นรัฐมนตรีหน้าใหม่ แต่พร้อมที่จะทำงาน ความท้าทายของงานในตำแหน่งนี้ ส่วนตัวมองว่าต้องไม่มีสิ่งใดที่ยาก ทุกอย่างต้องทำให้ดีที่สุด และจะดูผลงานของรัฐมนตรีที่ผ่านๆ มาเป็นแบบอย่าง อะไรที่ดีก็จะยังคงไว้ ส่วนอะไรที่ยังไม่ดีก็จะพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น
สำหรับการท่องเที่ยวที่เป็นรายได้หลักของประเทศ กระทรวงท่องเที่ยวฯถือเป็นแม่งานสำคัญในการดูแลเรื่องนี้ สิ่งที่จะทำหลังรับตำแหน่ง คือจะต้องทำอย่างไรก็ได้ที่จะทำให้ประเทศไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่
ส่วนเรื่องวาระเร่งด่วนที่จะเข้ามาเร่งดำเนิการคือเรื่องการสร้างความเชื่อมั่น สร้างความปลอดภัย ให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนไทย โดยจะเน้นการมีส่วนร่วมให้คนในชุมชนเห็นความสำคัญและร่วมดูแลความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว มีแนวคิดจะสร้างอาสาสมัครในชุมชน เช่น ตำรวจบ้าน มาทำหน้าคอยสอดส่องดูแลนักท่องเที่ยวเพิ่มเติมนอกเหนือจาก ตำรวจที่กำลังอาจจะไม่เพียงพอ โครงการสร้างความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวตั้งใจจะเริ่มให้เห็นเป็นรูปธรรมได้ในปีนี้
ส่วนเรื่องรายได้จากการท่องเที่ยวปีนี้ที่ตั้งเป้าไว้ก่อนหน้านี้ คือ 3.8 ล้านล้านบาท จะเป็นไปตามเป้าหรือไม่นั้น นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ยังไม่ขอตอบในเรื่องนี้ขอรอฟังนโยบายจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน และเรื่องที่หลายฝ่ายกังวล คือจำนวนยอดการท่องเที่ยวที่ตกลงในช่วงนี้ โดยเฉพาะ นักท่องเที่ยวจีน เนื่องจากเรื่องเศรษฐกิจที่ชะลอตัว จะต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ประกอบการ ซึ่งตนจะเน้นสร้างความสัมพันธ์และรับฟังความเห็นจากภาคเอกชนมากขึ้น รวมถึงจะได้มอบหมายให้หน่วยงานด้านการท่องเที่ยว พยายามชักชวนนักท่องเที่ยวจากชาติอื่นๆ ที่มีเศรษฐกิจดีมาเที่ยวไทยให้มากขึ้น ไม่ใช่หวังจากนักท่องเที่ยวจีนหรือกลุ่มเดิมๆเพียงอย่างเดียว
แต่ส่วนตัวมองว่าประเทศไทยเป็นจุดหมายที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกอยากมาเพราะมีแหล่งท่องเที่ยวจำนวนมากและหลากหลาย นโยบายท่องเที่ยวจะมุ่งเน้นไปที่ชุมชนทั้ง77 จังหวัดมากขึ้น เพราะมีรูปแบบวิถีชีวิตที่แตกต่าง ที่สำคัญรายได้จะเข้าสู่ชาวบ้านโดยตรง
ส่วนกรณีเรื่องค่าเงินบาทแข็งค่าที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลงในช่วงนี้นั้น เรื่องนี้ตนจะไปหารือกับกระทรวงการคลังและผู้ว่าการ ธปท.เพื่อไปปรึกษาถึงความเป็นไปได้ว่าจะมีแนวทางไหนบ้าง ที่ทำให้เงินบาทกลับมามีอยู่ในค่ากลางที่ดีที่สุดกับทุกฝ่ายได้
นอกจากนี้จะมีการพิจารณาขยายเวลา มาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง (VISA ON ARRIVAL:VOA) ให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่เดิมจะหมดสัญญาในปีนี้ โดยอยากจะขยายสัญญาใหม่ให้ออกไปถึงช่วงเดือนเมษายนที่ตรงกับช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยเรื่องนี้จะมีการหารือกันอีกครั้งกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อประเมินครามเป็นไปได้ แต่ส่วนตัวต้องการที่จะดูแลและอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวมากที่สุดอยู่แล้ว
ขณะที่นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) กล่าวว่า สำหรับแนวทางการท่องเที่ยว โดยเฉพาะเรื่องการสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยนับว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ ททท.ให้ความสำคัญและมุ่งเน้นมาตลอด นอกจากนี้เรื่องการขยายกลุ่มนักท่องเที่ยวก็สอดคล้องกับสิ่งที่ ททท.ทำมาตลอด มั่นใจว่าการทำงานภายใต้การนำทัพของรัฐมนตรีคนใหม่จะเป็นไปด้วยดี ทำให้เป้าหมายที่ตั้งไว้ 3.8 ล้านล้านบาทเป็นไปได้ .-สำนักข่าวไทย