กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – สมอ.เสนอที่ประชุม WTO แก้ปัญหาส่งออกรถยนต์ไทยไปเวียดนาม พร้อมเรียกร้องอียูแก้ไขกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับปาล์มน้ำมันของไทย หวั่นสร้างผลกระทบต่อผู้ประกอบการไทยรุนแรง
นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยว่า สมอ.ได้รับมอบหมายให้เป็นแกนกลางของไทยในการปฏิบัติตามพันธกรณีความตกลงว่าด้วยอุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้า (TBT) ขององค์การการค้าโลก (WTO) โดยปฏิบัติหน้าที่เป็นหน่วยงานกลางในการแจ้งกฎระเบียบ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมรวมถึงมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นในเรื่องมาตรฐานและการตรวจสอบ รับรอง ในการประชุมของ WTO
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 20 – 21 มิถุนายน 2562 คณะกรรมการว่าด้วยอุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้าของ WTO ได้มีการจัดประชุมสมัยสามัญ ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส โดยการประชุมครั้งนี้ สมอ.ได้หยิบยกมาตรการของประเทศสมาชิกที่มีผลกระทบต่อการค้าของไทยเสนอต่อที่ประชุม เพื่อแก้ไขปัญหาและอุปสรรคในการส่งออกรถยนต์ของไทยไปเวียดนาม ซึ่งมีผลกระทบต่อการส่งออกรถยนต์ของไทยอย่างรุนแรง จึงขอเสนอให้เวียดนามผ่อนผันการบังคับใช้มาตรการดังกล่าวออกไปก่อน และขอให้พิจารณานำปัญหาและอุปสรรคของประเทศไทยและประเทศสมาชิก WTO อื่น ไปปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบ ไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อผู้ประกอบการรถยนต์นำเข้า เพื่อให้เป็นไปตามพันธกรณีความตกลงว่าด้วยอุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้า ในการนี้เวียดนามชี้แจงต่อที่ประชุมว่าจะนำข้อกังวลของประเทศสมาชิกไปพิจารณา เพื่อช่วยขจัดปัญหาและความยุ่งยากที่เกิดขึ้นให้มีความสมดุลกับมาตรการด้านความปลอดภัยและคุณภาพต่อไป
เลขาธิการ สมอ. กล่าวเพิ่มเติมว่า สมอ.ยังเรียกร้องให้สหภาพยุโรป (อียู) แก้ไขและตรวจสอบกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับปาล์มน้ำมัน ได้แก่ การกำหนดเกณฑ์การประเมินผลกระทบของพืชน้ำมันที่ใช้เป็นพลังงานทดแทน ในส่วนที่กล่าวอ้างว่าการเพาะปลูกน้ำมันปาล์มมีผลต่อการทำลายป่า และการติดฉลากปลอดน้ำมันปาล์มของประเทศสมาชิกอียู เนื่องจากอาจทำให้ผู้บริโภคเกิดความเข้าใจผิดต่อการบริโภคน้ำมันปาล์มได้ รวมทั้งยังเรียกร้องให้อียูพิจารณาปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์การจำแนกสารที่มีฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของต่อมไร้ท่อให้อยู่บนพื้นฐานของการประเมินความเสี่ยง เพื่อลดผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าเกษตรของไทยไปตลาดอียู.-สำนักข่าวไทย