กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – แอร์บัสเตรียมหารือรัฐมนตรีคมนาคมใหม่ ร่วมทุนศูนย์ซ่อมอากาศยานอู่ตะเภา ยอมรับอยู่ระหว่างคุยข้อกฎหมาย 2 ฝ่าย
นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความคืบหน้าการร่วมทุนศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภากับบริษัท Airbus S.A.S (แอร์บัส) ว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็นทั้ง 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายการบินไทย โดยรัฐบาลไทยและฝ่ายแอร์บัส ซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุปร่วมกัน เนื่องจากทั้ง 2 ฝ่ายยังมีบางประเด็นที่เห็นไม่ตรงกัน ทั้งในเรื่องของข้อกฎหมายและเรื่องทั่วไปที่จะเข้ามาร่วมทุน เพราะกฎหมายไทยมีข้อกำหนดหรือความเข้าใจอย่างหนึ่ง ต่างประเทศไม่สามารถเข้าใจในแง่มุมกฎหมายของไทยเหมือนที่เราเข้าใจ เป็นต้น ดังนั้น ขณะนี้จึงยังไม่สามารถสรุปเรื่องการร่วมทุนได้อย่างชัดเจนต้องรอให้ได้ข้อสรุปความคิดเห็นของทั้ง 2 ฝ่ายตกผลึกก่อน
ส่วนประเด็นการดำเนินโครงการล่าช้า เนื่องจากการบินไทยต้องรอนโยบายที่ชัดเจนจากรัฐบาลชุดใหม่ก่อนนั้น การบินไทยและแอร์บัสไม่ได้รอ เพียงแต่ขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็นของทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่ได้ข้อสรุปมากกว่า การจะลงทุนร่วมกันโครงการนี้ถือเป็นโครงการขนาดใหญ่ ดังนั้น การที่จะทำอะไรจะต้องรอบคอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าปัญหาที่ไม่สามารถสรุปการดำเนินการในโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภาได้นั้น เนื่องจากรัฐบาลที่ผ่านมากระทรวงคมนาคมยังไม่สามารถสรุปแผนการจัดซื้อจัดหาเครื่องบิน 38 ลำของการบินไทยได้ว่าจะจัดซื้อเครื่องบินของแอร์บัสหรือไม่อย่างไร และหากจัดซื้อจะซื้อจำนวนเท่าใด เป็นสาเหตุหลักที่ไม่สามารถผลักดันโครงการเดินหน้าตามนโยบายของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ ตามแผนลงทุนของการบินไทยพบว่าโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานจะดำเนินการบนพื้นที่ประมาณ 210 ไร่ เป็นพื้นที่ของกรมธนารักษ์อยู่ในความครอบครองของกองทัพเรือ โดยแบ่งการลงทุนออกเป็นระยะแรกช่วงปี 2565-2583 จะลงทุนประมาณ 6,400 ล้านบาท โดยการบินไทยลงทุนเอง 2,000 ล้านบาท ที่เหลือจะเป็นการลงทุนของภาคเอกชน เพื่อใช้ก่อสร้างโรงซ่อมบำรุง และจัดซื้ออุปกรณ์นอกจากนี้ จะรองรับการซ่อมบำรุงอากาศยานได้ 80-100 ลำ ตามแผนคาดว่าจะเปิดดำเนินการปี 2565 มีเป้าหมายสร้างรายได้ปีแรก 400-500 ล้านบาท จากการซ่อมอากาศยาน 10 ลำ และประเมินว่าจะมีการเติบโตของรายได้เฉลี่ยอีกปีละ 2% และในช่วง 50 ปีจะมีรายได้รวม 200,000 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย