สระแก้วเริ่มพรุ่งนี้ขนย้ายขยะพ้นป่าโซนซีคุมเข้มทุกขั้นตอนส่งกลับต้นทาง

สระแก้ว 15 ก.ค.- คณะทำงานอำเภอวังน้ำเย็นมีมติเริ่มขนย้ายขยะอุตสาหกรรมวันพรุ่งนี้ หลังถูกนำมาไว้ในเขตป่าโซนซีกว่า 300 ตัน พร้อมวางระบบคุมเข้มทุกขั้นตอนส่งกลับโรงงานต้นทาง ด้านตำรวจเร่งคดีตามที่มีการแจ้งความเอาผิดแล้ว 6 คดี ย้ำหากสาวถึงใครไม่มีละเว้น


นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร นายอำเภอวังน้ำเย็น จ.สระแก้ว เปิดเผยว่า การประชุมวันนี้ (15 ก.ค.) ของคณะทำงานกำกับ ควบคุมและดูแล การขนย้ายวัตถุอันตรายออกจากพื้นที่ มีมติเห็นพ้องให้เริ่มการขนย้ายขยะอุตสาหกรรมกว่า 300 ตัน ในวันพรุ่งนี้ (16 ก.ค.) หลังถูกนำมาไว้โดยไม่ได้รับอนุญาตบริเวณพื้นที่เขตป่าโซนซี เชิงเขาซับพลู-เขาพลูหีบ ต.ตาหลังใน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว เป็นเวลาเกือบ 2 เดือน ส่วนขั้นตอนการขนย้ายเป็นหน้าที่ของบริษัท ซึ่งเป็นเจ้าของขยะต้นทางอยู่ที่จังหวัดชลบุรี โดยจะใช้รถบรรทุกขนย้ายประมาณ 20 คัน ซึ่ง อบต.ได้ประสานกับบริษัทดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว ทั้งระหว่างการขนย้ายจะมีเจ้าหน้าที่และคณะทำงานเข้าไปดูแลทุกขั้นตอนจนถึงปลายทาง รวมทั้งการชั่งน้ำหนัก  คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1-2 วัน 

นายปราชญา กล่าวด้วยว่า  เมื่อขนย้ายขยะออกไปหมดแล้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วได้สั่งการไว้แต่แรกว่าให้อุตสาหกรรมและสิ่งแวดล้อมจังหวัด เป็นหน่วยงานในการแก้ไขที่จะต้องส่งเจ้าหน้าที่เข้าเก็บดิน เก็บน้ำ ไปตรวจอีกครั้ง เพื่อดูว่ามีสารปนเปื้อนตกค้างหรือไม่ เพื่อคลายความวิตกกังวลของชาวชุมชนละแวกดังกล่าว


พ.ต.อ.เศรษฐณัณข์ ทิมวัฒน์ ผกก.สภ.วังน้ำเย็น กล่าวถึงการดำเนินคดีว่า ขณะนี้มีการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษแล้วถึง 6 คดี ฝ่ายผู้เสียหายประกอบด้วยอุตสาหกรรม ป่าไม้ กรมน้ำบาดาล ตำรวจเรื่องการจ้างแรงงาน และอำเภอ รวม 6 คดี ซึ่งรับเรื่องไว้หมดแล้ว โดยจะมีการสอบพยานที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมและรอผลตรวจพิสูจน์ หากพบการทำผิดเพิ่มก็จะดำเนินคดีกับผู้ต้องหาเพิ่ม หากสาวไปถึงหรือมีหลักฐานเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องก็ไม่ละเว้น

ด้านนายสมศักดิ์ กรึงไกร หัวหน้าฝ่ายโรงงานอุตสาหกรรม สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า  ทางอุตสาหกรรมได้เก็บตัวอย่างขยะเมื่อวันที่ 8 ก.ค.ส่งให้ศูนย์วิจัยมลพิษภาคตะวันออก จ.ชลบุรี เพื่อพิสูจน์หาสารปนเปื้อน อีกไม่นานก็จะรู้ผล หากเป็นขยะอันตรายตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย ก็จะแจ้งความเพิ่มเติมในข้อหาครอบครองวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษปรับ 200,000 บาท จำคุก 2 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง