ตม.รวบอินเดียแสบถูกขึ้นแบล็กลิสต์10ปีแอบเปลี่ยนชื่อทำพาสปอร์ตใหม่หลบเข้าไทย

กรุงเทพฯ 15 ก.ค.- ตม.จับผู้ต้องหาทำดวงตราประทับและใบรับรองที่อยู่ปลอมให้ชาวต่างชาติ พร้อมจับ หนุ่มอินเดียใช้หนังสือเดินทางเล่มใหม่เปลี่ยนชื่อหลบหนีเข้าประเทศ หลังชื่อถูกขึ้นแบล็กลิสต์ห้ามเข้าประเทศ 10 ปี ขณะที่การใช้ระบบไบโอแมทริกซ์ จับผู้กระทำความผิด ตั้งแต่วันที่ 1พฤษภาคม-14 กรกฎาคม2562  ได้จำนวน 7,765 ราย 


ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.ชลบุรี จับกุมหนุ่มชาวอินเดียใช้พาสปอร์ตใหม่เปลี่ยนข้อมูลส่วนตัวลักลอบประเทศไทย โดยการยื่นเปลี่ยนประเภทวีซ่าจากท่องเที่ยว เป็น ธุรกิจ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองได้ตรวจสอบความถูกต้องของบุคคลนำข้อมูลเข้าระบบ “ไบโอแมทริกซ์”  ตรวจอัตลักษณ์บุคคลทางกายภาพ กระทั่งทราบว่า หนุ่มอินเดีย เคยถูกจับกุมในข้อหาโอเว่อร์สเตย์ (อยู่เกิน 1,549 วัน) และ ถูกผลักดันออกนอกราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2561 โดยไม่ให้เข้ามาในราชอาณาจักรเป็นเวลา 10 ปี จนถึง 8 กันยายน 2571 แต่พบว่าหนุ่มอินเดียลักลอบเข้าไทย เมื่อ 28 มีนาคม 2562 จึงจับตัวดำเนินคดีและเร่งผลักดันออกนอกประเทศ

ส่วนนางสาววิกานดา มุ่งหาเงิน อายุ 44 ปี สัญชาติไทย ถูกตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.ชลบุรี  จับกุมในข้อหา ทำปลอมขึ้นซึ่งตราหรือรอยตราของเจ้าพนักงาน และ ปลอมแปลงเอกสาร หลังทำตราประทับและใบรับรองที่อยู่ปลอมในนามสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ให้ชาวต่างชาตินำไปใช้ประกอบธุรกรรมกับหน่วยงานราชการ


พลตำรวจโทสมพงษ์ ชิงดวง รักษาราชการแทนผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยว่า ผู้ต้องหา รับทำเอกสารปลอมสำหรับคนต่างด้าวเพื่อใช้ในการประกอบธุรกรรมกับหน่วยงานราชการ เช่นใบขับขี่ และ เปลี่ยนแปลงข้อมูลทะเบียนเกี่ยวกับรถ อีกทั้งมีการปลอมดวงตาประทับบริษัทต่างๆ ซึ่งผู้ต้องหาได้ใช้ดวงตาประทับของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองที่จัดทำปลอมขึ้นประทับบนเอกสารดังกล่าวตามที่ลูกค้าต้องการ อีกทั้งยังปลอมลายมือชื่อของเจ้าหน้าที่ผู้อนุญาต จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า รับจ้างปลอมเอกสารให้กับลูกค้าชาวต่างชาติทั้งสัญชาติรัสเซีย/ ยูเครน /จีน /เวียดนาม / นอร์เวย์ /สวีเดน /โปแลนด์ /เบลเยียม /อังกฤษ ซึ่งค่าบริการผู้ต้องหาคิดรายละ 1,000-3,000 บาท 

สำหรับการใช้ไบโอแมทริกซ์ Biometrics จัดการฐานข้อมูลภาพถ่ายใบหน้าและลายนิ้วมือ ผู้เข้า-ออกนอกประเทศ สามารถจับผู้กระทำความผิด ตั้งแต่วันที่ 1พฤษภาคม-14 กรกฎาคม2562  ได้รวม 7,765 ราย ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ 141 ราย //ผู้ต้องหาโอเวอร์สเตย์ 7,417 ราย และ ผู้ต้องหา watchlist 66 ราย และ แบล็คลิส 141 ราย .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

ชายแดนไทย-เมียนมา ยังระอุ ปะทะเดือดใกล้จุดแตกหัก

ทหารกะเหรี่ยงใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีฐานทหารเมียนมา ตรงข้าม อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 800 เมตร โรงเรียนในฝั่งไทย ซึ่งอยู่ติดแนวปะทะ หยุดการเรียนการสอน 1 วัน ขณะที่มีชาวเมียนมาหนีภัยสู้รบเข้าไทยกว่า 400 คน

ทร.จับเรือประมงเมียนมารุกล้ำน่านน้ำไทย

ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือระนอง จับกุมเรือประมงสัญชาติเมียนมา พร้อมลูกเรือและกัปตันเรือ 6 คน ขณะรุกล้ำน่านน้ำไทย บริเวณน่านน้ำเกาะช้าง จ.ระนอง ก่อนควบคุมเรือลำดังกล่าวมาตรวจสอบที่ท่าเรือน้ำลึกระนอง

แจ้งความเอาผิดขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ผอ.องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ลุยเอง ยื่นหลักฐานให้ตำรวจ ปปป. เอาผิดขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก ระบุทำกันมานานเกือบ 10 ปี พบทั้งข้าราชการ-อดีตข้าราชการ เอี่ยวประมาณ 20 คน

รู้เบาะแสคนร้ายชิงทอง 102 บาท คาดเป็นคนในพื้นที่

ตำรวจรู้เบาะแสคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง 102 บาท ภายในห้างดังกลางเมืองแม่สอด คาดยังหลบอยู่ในพื้นที่ สั่งคุมเข้มแนวชายแดน ป้องกันคนร้ายหลบหนี พร้อมยกระดับมาตรการดูแลร้านทอง-ห้างสรรพสินค้า ป้องกันเหตุซ้ำรอย