ฝนทิ้งช่วง มันสำปะหลังที่โคราชกว่า 2,000 ไร่ ยืนต้นตาย

ภูมิภาค 12 ก.ค.-ฝนทิ้งช่วง ภัยแล้งเริ่มคุกคาม มันสำปะหลังกว่า 2,000 ไร่ ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ไร้น้ำ ยืนต้นตาย ขณะที่ขอนแก่น นาข้าวใน ต.บ้านหว้า อ.เมืองขอนแก่น หลายร้อยไร่ ขาดน้ำมาเป็นเวลากว่า 1 เดือนแล้วเช่นกัน


นายอำเภอครบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอครบุรี และผู้นำชุมชนตำบลลำเพียก ออกตรวจสอบไร่มันสำปะหลังของชาวบ้าน ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง ทำให้มันสำปะหลังยืนต้นตายเป็นบริเวณกว้าง พบว่าภัยแล้งเริ่มคุกคาม มันสำปะหลังที่ชาวบ้านที่เพิ่งลงมือเพาะปลูกไปได้เพียง 2 เดือน ต้องประสบกับปัญหาภัยแล้ง เนื่องจากไม่มีฝนตกลงมาเลย จนมันสำปะหลังกว่า 2,000 ไร่ ขาดน้ำยืนต้นตาย ครอบคลุมพื้นที่ทั้ง 12 หมู่บ้านในตำบลลำเพียก มีเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบประมาณ 400 ราย เร่งหาทางช่วยเหลือเยียวยา


ส่วนที่ จ.ขอนแก่น ชาวบ้านกำลังได้รับความเดือดร้อนจากภาวะฝนทิ้งช่วงเช่นกัน นาข้าวของชาวนาในตำบลบ้านหว้า อำเภอเมืองขอนแก่น หลายร้อยไร่ อยู่ในสภาพพื้นดินแห้ง ต้นข้าวที่หว่านไว้ มีลำต้นเล็ก โตช้า และใกล้ยืนต้นตาย เนื่องจากขาดน้ำมาเป็นเวลากว่า 1 เดือนแล้ว จากภาวะฝนทิ้งช่วง


นายมงคล ผองสูงเนิน บอกว่า เริ่มทำนาด้วยวิธีไถหว่านมาตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายน แต่ต้องประสบปัญหาภัยแล้งฝนไม่ตกลงมานานเดือนกว่าแล้ว ทำให้ต้นข้าวที่ปลูกไว้โตช้ากว่าปกติและใกล้ยืนต้นตาย พื้นดินก็แห้งเป็นดินทราย หากไม่มีฝนตกลงมาภายใน 2 สัปดาห์ ข้าวที่ปลูกไว้ก็จะแห้งตายทั้งหมด แต่เมื่อดูจากการคาดพยากรณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาแล้ว บอกว่าฝนจะตกลงมาอีกประมาณต้นเดือนสิงหาคม จึงจำเป็นต้องติดตั้งเครื่องสูบน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติเข้าที่นา เพื่อหล่อเลี้ยงต้นข้าวให้รอดพ้นไปอีกสักระยะ จนกว่าจะมีฝนตกลงมา

เช่นเดียวกับชาวนารายอื่นๆ ที่มีที่น่าติดกับแหล่งน้ำ ต้องใช้เครื่องสูบน้ำเข้านาเลี้ยงต้นข้าว ทำให้มีค่าใช้จ่ายจากการซื้อเชื้อเพลิงวันละ 300 บาท แลกกับการให้ต้นข้าวมีชีวิตรอด ขณะที่ชาวนาหลายคนที่ไม่มีที่นาติดกับแหล่งน้ำ ก็ทำใจว่าหากไม่มีฝนตกลงมาอีก ข้าวที่ปลูกไว้ทั้งหมดก็คงตาย และคงไม่มีผลผลิตให้เก็บเกี่ยว

ส่วนสถานการณ์น้ำตรวจสอบล่าสุดปริมาณน้ำในแหล่งน้ำรวม 39,352 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 48% แนวโน้มลดลง แบ่งเป็น ภาคเหนือ 9,607 ล้าน ลบ.ม.  (36%), ภาคกลาง 509 ล้าน ลบ.ม. (21%), ภาคอีสาน 4,386 ล้าน ลบ.ม. (34%), ภาคตะวันออก 1,131 ล้าน ลบ.ม. (38%), ภาคใต้ 5,434 (60%), ภาคตะวันออก 1,131 ล้าน ลบ.ม. (38%) ทุกภาคมีแนวโน้มปริมาณน้ำลดลง ยกเว้นภาคตะวันตกที่มีปริมาณน้ำ 18,286 ล้าน ลบ.ม. (68%) มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น 

ส่วนสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ อยู่ในภาวะปกติ 20 แห่ง มีอยู่ 15 แห่งที่ต้องเฝ้าระวังน้ำน้อย คือมีน้ำต่ำกว่า 30% แต่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 9 แห่ง มีพื้นที่ประกาศภัยแล้ง 2 จังหวัด คือ ตาก และมหาสารคาม.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]