fbpx

จัดระเบียบที่ดินบนดอยม่อนแจ่ม

เชียงใหม่ 11 ก.ค.- มาตรการจัดระเบียบที่ดินบนดอยม่อนแจ่ม ที่ จ.เชียงใหม่ ทำให้ชาวบ้านซึ่งเป็นเจ้าของโฮมสเตย์ วิตกว่าอาจถูกดำเนินคดี และถูกสั่งให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างบนพื้นที่ที่อาศัยอยู่มานาน


สภาพดอยม่อนแจ่มช่วงกลางฤดูฝน ยังคงมีนักท่องเที่ยวไปสัมผัสทัศนียภาพและอากาศเย็นสบาย ท่ามกลางสายหมอกกับฝนโปรย โฮมสเตย์รีสอร์ตเกือบ 50 แห่ง ที่กระจายอยู่ตามเนินเขา 2 วันก่อนชุดพยัคฆ์ไพรสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นลงพื้นที่ตรวจสอบ แต่วันนี้ยังเปิดรับนักท่องเที่ยวตามปกติ


โฮมสเตย์ที่บ้านหนองหอยใหม่แห่งนี้ เป็นจุดแรกๆ ที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ ปลูกสร้างเป็นอาคาร 2 ชั้น เพื่ออยู่อาศัยและมีห้องพักบริการนักท่องเที่ยวอีก 2 หลัง เจ้าของโฮมสเตย์ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรม่อนแจ่ม ยืนยันว่าครอบครัวอยู่อาศัยและทำกินในที่ดินแปลงนี้ เนื้อที่เพียง 2 งาน มาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ มีเอกสารแสดงการครอบครองและใช้ประโยชน์ในที่ดิน ตามมติคณะรัฐมนตรีปี 2541 แต่ได้ปรับเปลี่ยนจากการทำเกษตรมาเปิดโฮมสเตย์เมื่อ 5-6 ปีก่อน


ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยงเชิงเกษตรม่อนแจ่ม บอกว่า การลงพื้นที่ตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ สร้างความวิตกให้ชาวบ้านอย่างมาก ยืนยันว่าโฮมสเตย์ทั้ง 44 แห่งที่ถูกตรวจสอบ เป็นของชาวบ้านซึ่งเป็นชาวไทยภูเขาเผ่าม้งทั้งหมด ที่ดินไม่ได้ถูกซื้อขายเปลี่ยนมือไปให้นายทุน และที่ผ่านมายังไม่มีการสำรวจและปักหมุดแนวเขตที่ดินอย่างชัดเจน หากจะมีการจัดระเบียบที่ดินบนม่อนแจ่ม ชาวบ้านต้องการให้ภาครัฐกำหนดแนวเขตป่า พื้นที่อยู่อาศัย แปลงเกษตร และโซนที่พักรองรับนักท่องเที่ยวอย่างชัดเจน แทนการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างเพียงอย่างเดียว

ล่าสุด คณะทำงานของกรมป่าไม้และจังหวัดเชียงใหม่เร่งสำรวจการถือครองและใช้ประโยชน์ในที่ดินบนดอยม่อนแจ่ม ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ริม เดิมผ่อนผันให้ชาวไทยภูเขาเผ่าม้งใช้เป็นที่ดินทำการเกษตร ภายใต้การส่งเสริมของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย แต่ปัจจุบันสถานการณ์ ปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าขยายวงกว้าง มีการนำพื้นที่บางส่วนไปใช้ในเชิงธุรกิจท่องเที่ยว ด้วยการสร้างบ้ านพักตากอากาศ คล้ายกับปัญหาที่ภูทับเบิก หลังการสำรวจแปลงที่ดินเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลการถือครองพื้นที่ที่มีอยู่เดิม จึงจะดำเนินการจัดระเบียบ โดยผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ป่าและเข้าร่วมโครงการกับมูลนิธิโครงการหลวงแต่เดิมประมาณ 200 ราย ผู้ที่อาศัยทำกินในพื้นที่ป่าก่อนมติคณะรัฐมนตรีปี 2541 รวมทั้งผู้ยากไร้ ให้อนุญาตอยู่อาศัยทำกินตามหลักเกณฑ์ พร้อมทั้งเร่งดำเนินคดีทั้งหมดกับนายทุนที่ขึ้นไปหาประโยชน์บนดอยม่อนแจ่ม.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โผ ครม. “เศรษฐา 2” ลงตัว ก.คลัง จัด รมช. 3 เก้าอี้

โผ ครม. เศรษฐา 2 ลงตัว ก.คลัง จัด รมช. 3 เก้าอี้ เดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต ขณะที่ พปชร. ยึด ก.เกษตรฯ ด้าน “สุชาติ” นั่ง รมช.พาณิชย์ พร้อมทาบ “พวงเพ็ชร” ที่ปรึกษานายกฯ โค้งสุดท้ายสลับ “สุดาวรรณ” นั่ง ก.วัฒนธรรม “เสริมศักดิ์” ไป ก.ท่องเที่ยวฯ

รวบ 2 ใน 4 อุ้มฆ่าหนุ่มไทใหญ่ทิ้งป่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

รวบแล้ว 2 ใน 4 ผู้ต้องหาอุ้มฆ่า “จ๋อมวัน” หนุ่มไทใหญ่ ก่อนนำศพไปทิ้งในป่าที่ จ.เชียงใหม่ ปมสังหารอ้างไม่พอใจถูกแซวเรื่องหญิงคนสนิท

มหาวิทยาลัยแจงเหตุ นศ.สาวปี 3 แทงแฟน นศ.ปี 1 สาหัส

มหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีนักศึกษาหญิงทำร้ายนักศึกษาชาย ในหอพักจนบาดเจ็บสาหัส ด้านตำรวจยืนยันนักศึกษาหญิงที่ก่อเหตุมอบตัวแล้ว ยอมรับเป็นแฟนและทะเลาะกัน

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ข่าวแนะนำ

โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ครม. “เศรษฐา 1/1”

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ โปรดเกล้าฯ ครม.เศรษฐา 1/1 แล้ว “พิชัย” รองนายกฯ ควบ รมว.คลัง โยก “สมศักดิ์” นั่ง รมว.สธ. แทน “นพ.ชลน่าน”

อาลัย “ดาบต้าร์” ตร.ทางหลวง เสียชีวิตแล้ว

ข่าวเศร้าเช้าวันหยุด ด.ต.ปิยะนันท์ สีเสื้อ หรือ “ดาบต้าร์” เสียชีวิตแล้ว หลังบาดเจ็บสาหัสจากเหตุเก๋งพุ่งชนขณะอำนวยการจราจรช่วงสงกรานต์

ไฟไหม้ “วิน โพรเสส” ยังคงพบไอระเหยสารเคมี 10 ชนิด

กรมควบคุมมลพิษ เผยผลตรวจติดตามผลกระทบทางสุขภาพและสิ่งแวดล้อมจากเหตุเพลิงไหม้โกดังโรงงานเก็บกากของเสียอุตสาหกรรมและสารเคมีอันตราย ล่าสุดยังคงพบไอระเหยสารเคมี 10 ชนิด ในปริมาณเล็กน้อย แต่บางจุดพบสารบางชนิดในระดับจะส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ ระคายเคืองตาและผิวหนัง พร้อมร่วมกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม เตรียมแผนรับมือช่วงฤดูฝน ที่อาจจะมีวัตถุอันตรายหลุดออกมานอกพื้นที่

ราคาไข่ไก่ปรับขึ้นอีก 20 สตางค์ แตะ 3.80 บาท

เครือข่ายสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ ประกาศปรับขึ้นราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มอีก 20 สตางค์ โดยเป็นการขยับราคาห่างจากรอบที่แล้วไม่ถึง 2 สัปดาห์ สาเหตุเพราะช่วงนี้อากาศร้อนยิ่งขึ้นอีก ปริมาณไข่ไก่ลดและขนาดฟองเล็กลง ประกอบกับสงครามในต่างประเทศ ทำให้ราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์สูงขึ้น สมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ วอนผู้บริโภคเข้าใจและขออย่าตกใจ ปริมาณไข่ไก่แม้น้อยลง 5-10% แต่ยังเพียงพอบริโภค