ชวน วอนสมาชิกให้ความสำคัญร่างข้อบังคับอื่นมากกว่าการแต่งกาย

หอประชุมทีโอที 10 ก.ค.-“ชวน” วอนสมาชิกให้ความสำคัญร่างข้อบังคับอื่นมากกว่าเรื่องการแต่งกาย ชี้ 87 ปีที่มีสภาไม่เคยมีปัญหา ขณะที่ ส.ส.พปชร.จวก ส.ส.แต่งกายไม่สุภาพ ชี้ต้องเคารพสถานที่และถูกกาลเทศะ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎรในช่วงเย็นวันนี้ (10 ก.ค.) มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นประธานการประชุม ได้พิจารณาร่างข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่คณะกรรมาธิการฯ ยกร่างเสร็จแล้ว

นายวิเชียร ชวลิต ประธานคณะกรรมาธิการฯ ชี้แจงว่า ร่างข้อบังคับการประชุมที่ยกร่างมีจำนวน 194 ข้อ โดยมีการปรับข้อบังคับการประชุมให้สอดรับกับรัฐธรรมนูญปี 2560 รวมถึง พิจาณาญัตติด่วนอีก 24 ญัตติ เช่น ญัตติขอให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อตรวจสอบและศึกษาติดตามการทำงานของหน่วยงานภาครัฐต่อการถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนและถูกประทุษร้ายของประชาชน เรื่องการดำเนินการโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และเรื่องโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่


นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ อภิปรายถึงร่างข้อบังคับว่าด้วยการแต่งกาย ว่า อดทนมาหลายอาทิตย์กับการแต่งกายของ ส.ส.ซึ่งยอมรับว่าเป็นสิทธิ์ และมีคำว่าแฟชั่นเข้ามาเกี่ยวข้อง อย่างสุภาพสตรีก็มีเสื้อผ้าที่มีสีสัน ขณะที่กลุ่มเพศสภาพ แต่งกายสุภาพเรียบร้อย แต่ที่ติดใจคือการแต่งกายของสุภาพบุรุษของพรรคอนาคตใหม่ แต่งกายไม่ให้เกียรติสถานที่ บางคนใส่เสื้อโปโลแล้วใส่สูททับ ไม่ผูกเนคไท ซึ่งเห็นว่าควรต้องให้ความเคารพสถานที่ และเคารพเพื่อนสมาชิก รวมถึงประธานในที่ประชุม และถือว่าให้เกียรติกับประชาชนที่เลือกเข้ามา 

นายปดิพัทธ์ สันติภาด ส.ส.พิษณุโลก พรรคอนาคตใหม่ ซึ่งไม่ใส่เนคไท ลุกขึ้นชี้แจงว่าการไม่ผูกเนคไทและการแต่งกาย ไม่ใช่ประเด็นที่จะชี้วัดคุณค่าของ ส.ส.

อย่างไรก็ตาม นายวีรกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ประท้วงว่า วันนี้เป็นการพิจารณาข้อบังคับ ที่จะกำหนดว่าส.ส.ควรแต่งกายมาประชุมกันอย่างไร 


น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ อภิปรายว่า รัฐสภาไม่เคยถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการแต่งกายมากขนาดนี้มาก่อน ซึ่งเรื่องการแต่งกายเกิดจากสำนึกถูกผิด รากเหง้า และการอบรมสั่งสอนมาจากที่บ้าน ซึ่งการแต่งกายด้วยชุดผ้าไทยไม่ใช่เรื่องผิด แต่ต้องเคารพสถานที่ รู้จักกาลเทศะ รัฐสภาไม่ใช่สถานที่ที่จะมาหมุนตัวเล่นๆ ที่จะมาอวดชุดกัน จึงขอให้ประธานสภาให้ความรู้กับสมาชิกด้วย

นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ได้ลุกประท้วงระบุว่าเรื่องการแต่งกาย คงไม่เท่ากับการเอาลูกมาเลี้ยงในสภา ตนก็ไม่อยากพูด แต่ทุกสิ่งที่ น.ส.ปารีณาอภิปรายนั้น เป็นการเสียดสีรากเหง้า และเฉียดโดนตนทุกข้อ

ในที่สุด นายชวน ซึ่งเป็นประธานในที่ประชุมได้ห้ามปราม สมาชิกที่ถกเถียง พร้อมกล่าวว่า ในข้อบังคับการประชุมนั้น เรื่องการแต่งกายไม่ได้สำคัญที่สุด และที่ผ่านมามี ส.ส.หลายคนมาขออนุโลมเรื่องการแต่งกาย เช่น ส.ส.ที่ใช้ขาเทียม ได้ขออนุโลมใส่กางเกงขาสั้น เพราะหากใส่ขายาวอาจทำให้นั่งลำบาก ทั้งนี้ 87 ปีที่ผ่านมา สภาไม่เคยมีปัญหาเรื่องการแต่งกาย และในยุคของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี มีการอนุญาตให้ใส่เสื้อพระราชทาน และในข้อบังคับก็ระบุชัดเจนว่าให้ใส่ชุดสากลมาประชุม และมีข้อหนึ่งที่เปิดให้ประธานสามารถกำหนดให้ ส.ส.แต่งกายแบบอื่นมาประชุมได้ ซึ่งตนเห็นด้วยกับการใส่ชุดไทยพระราชทาน แต่ค่อยมากำหนดกันหลังจากร่างข้อบังคับมีผล ดังนั้น อยากให้ใช้เวลาในการพิจารณาข้อบังคับอื่น

นายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า รัฐสภาเป็นสถานที่ขัดเกลาจิตใจมนุษย์ ดังนั้น การแต่งกายที่จะเข้าสู่สถานที่อันศักดิ์สิทธิ์เป็นความรู้สึกที่มาจากใต้สำนึกของแต่ละบุคคล ดังนั้น ไม่ควรจะแต่งกายโดยคำนึงถึงแต่แฟชั่น

ด้านนายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน อภิปรายสนับสนุนนายชวนว่าเรื่องการแต่งกายไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดในข้อบังคับการประชุม และตนยืนยันจะรับหลักการร่างข้อบังคับนี้ เพราะร่างมาสอดรับกับรัฐธรรมนูญ ขณะที่เรื่องการแต่งกายถือเป็นเรื่องส่วนบุคคลที่แต่ละคนต้องยอมรับว่า เสื้อผ้าที่สวมใส่จะเป็นการบ่งบอกตัวตนของผู้สวมใส่เอง

นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า อยากให้บัญญัติให้ชัดเจนถึงหลักเกณฑ์การลงมติของ ส.ส. ที่เปลี่ยนใจในภายหลัง ว่าจะต้องมีแนวทางอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต ส่วนเรื่องการแต่งกายถือเป็นสิทธิเฉพาะตัวของบุคคล หากจะสวมชุดชาติพันธุ์ ก็ขอให้สวมทุกครั้งที่มาประชุมสภาหรือหากจะแต่งกายข้ามเพศ ก็ควรใส่สม่ำเสมอ ไม่ใช่ข้ามไปข้ามมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจนถึงเวลา 17.50 น. สมาชิกยังคงอภิปรายในประเด็นดังกล่าวอยู่ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

ลุ้นผลประชุม JBC ไทย-กัมพูชา

14 มิ.ย.- ประชาชน 2 ประเทศลุ้นผลการประชุม JBC ด้านกัมพูชายันหากไทยไม่ไปศาลโลก จะยื่นเอกสารไปฝ่ายเดียว นายเปง สุเพีย ผู้สื่อข่าวกัมพูชา รายงานว่าก่อนการประชุม JBC ไทย-กัมพูชา ขณะนี้เป็นการประชุมกลุ่มเล็ก ผ่านไปกว่า 2 ชม. ยังไม่ออกมา ประชาชนสองประเทศลุ้นผลการประชุม ด้านกัมพูชายันหากไทยไม่ไปศาลโลก จะยื่นเอกสารไปฝ่ายเดียว .-สำนักข่าวไทย

Cambodia and Thailand hold a closed-door meeting ahead of the official meeting of JBC in Phnom Penh

ไทย-กัมพูชา หารือกลุ่มเล็กก่อนประชุม JBC

พนมเปญ 14 มิ.ย. – สื่อกัมพูชารายงานว่า กัมพูชาและไทย ได้เปิดการหารือกลุ่มเล็กฝ่ายละ 5 คน ก่อนการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือเจบีซี (JBC) ที่กรุงพนมเปญ ในวันนี้ เว็บไซต์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานว่า ในการหารือกลุ่มเล็กที่มีผู้ร่วมเข้าเพียง 10 คน ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายเจีย ฬำ  รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบกิจการชายแดน ส่วนฝ่ายไทยนำโดยนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงต่างประเทศด้านกิจการชายแดน ซึ่งเป็นนักการทูตผู้เชี่ยวชาญช่วงข้อพิพาทปราสาทพระวิหาร พร้อมกับเผยแพร่ภาพชุดการหารือดังกล่าว.-814.-สำนักข่าวไทย

รวบแล้ว! โจรชิงทองที่ลำพูน หนีกบดานพัทยา

พัทยา 14 มิ.ย.- หนีไม่รอด! รวบโจรบุกเดี่ยวชิงทอง จ.ลำพูน หนีกบดานพัทยา สารภาพติดการพนันออนไลน์ จากกรณีเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2568 เกิดเหตุคนร้ายรูปร่างสูงประมาณ 160-165 ซม. ทราบชื่อต่อมาคือ นายประกร อายุ 47 ปี ขี่รถจักรยานยนต์สีดำ บุกเดี่ยวเข้าไปชิงทองคำรูปพรรณ จากห้างทองฯ อ.ป่าซาง จ.ลำพูน ได้สร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 5 บาท ไปจำนวน 2 เส้น มูลค่ากว่า 500,000 บาท แล้วหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ล่าสุดตำรวจ สภ.จว.ชลบุรี ได้เบาะแสว่า นายประกร ที่มีหมายจับศาลจังหวัดลำพูน ในข้อหากระทำความผิดฐาน “วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม” หลังก่อเหตุได้หนีมากบดานในพื้นที่จังหวัดชลบุรี จึงนำกำลังออกติดตาม กระทั่งพบตัวนายประกร อยู่ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านพัทยากลาง เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าจับกุม เจ้าตัวให้การยอมรับ เป็นผู้ก่อเหตุวิ่งราวทองจากห้างทองในพื้นที่จังหวัดลำพูนจริง หลังก่อเหตุได้หนีมายังพื้นที่เมืองพัทยาและนำทองไปขายในห้างทองแห่งหนึ่ง ตอนแรก คิดว่าจะเดินทางเข้ามาตัว แต่ก็สายไปเนื่องจากมาโดนเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวได้เสียก่อน ส่วนสาเหตุที่ก่อเหตุลงไปนั้นเนื่องจากตนเองติดการพนันออนไลน์ จนเงินหมด […]

“ทวีวัฒน์” เจ้าของเงิน 12 ล้าน ลาออกจากกรรมการไต่สวนฯ ป.ป.ช.แล้ว

กรุงเทพฯ 14 มิ.ย. – ป.ป.ช. แจง “ทวีวัฒน์” เจ้าของเงิน 12 ล้านบาท ลาออกจากกรรมการไต่สวนฯ ของ ป.ป.ช. แล้ว มีผลตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย. 68 วันนี้ (14 มิ.ย.) นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีการนำเสนอข่าวนายทวีวัฒน์ เส้งแก้ว แสดงตนเป็นเจ้าของเงิน 12 ล้านบาท ที่ถูกทิ้งที่คอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี เป็นอนุกรรมการชุดต่างๆ ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. จำนวน 3 คณะนั้น สำนักงาน ป.ป.ช. ขอชี้แจงว่า นายทวีวัฒน์ เส้งแก้ว ได้ทำหนังสือขอลาออกจากการเป็นกรรมการไต่สวน ในคณะกรรมการไต่สวนของสำนักงาน ป.ป.ช.ทุกคณะแล้ว โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป ทั้งนี้ สำนักงาน […]