กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 16 ส.ค.-ปภ.รายงานสถานการณ์อุทกภัย 3 จังหวัดภาคเหนือ แม่ฮ่องสอน น่าน และพะเยา ประสานทุกหน่วยงานเตรียมรับมือภาวะฝนตกหนัก จัดชุดเคลื่อนที่เร็วช่วยเหลือผู้ประสบภัย
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ ส่งผลให้เกิดอุทกภัยใน 3 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน น่าน และพะเยา โดยมีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) 2 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน และน่าน โดย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เกิดฝนตกหนักมีน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำไหลหลากในอำเภอปาย รวม 6 ตำบล 30 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 7,339 ครัวเรือน รถยนต์ 16 คัน รถจักรยานยนต์ 50 คัน ซึ่งปัจจุบันระดับน้ำลดลง แต่ยังคงท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ
อธิบดีกรมป้องกันฯ กล่าวว่า จังหวัดน่านเกิดฝนตกหนักมีน้ำไหลหลาก และดินถล่มในพื้นที่อำเภอสันติสุข รวม 31 ตำบล 198 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,009 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 1 ราย ปัจจุบันระดับน้ำเริ่มลดลง จังหวัดพะเยา เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องทำให้น้ำในลำน้ำงิมไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอปง อำเภอเชียงคำ อำเภอเชียงม่วน และอำเภอภูซาง รวม 16 ตำบล 98 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,405 ครัวเรือน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ผู้สูญหาย 1 ราย ปัจจุบันระดับน้ำเริ่มลดลง
นายฉัตรชัย กล่าวว่า รัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ได้สั่งการให้ปภ. บูรณาการหน่วยงานทุกภาคส่วน เร่งให้การช่วยเหลือและดูแลความปลอดภัยของประชาชน โดยส่งเจ้าหน้าที่สำรวจความเสียหาย แจกจ่ายถุงยังชีพ และเครื่องอุปโภคบริโภค เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในเบื้องต้น รวมถึงระดมสรรพกำลัง วัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยปฏิบัติการช่วยเหลือซ่อมแซมเครื่องยนต์และอาคารบ้านเรือนของประชาชนให้อยู่ในสภาพปลอดภัย
อธิบดีกรมป้องกันฯ กล่าวว่า ปภ.ได้ประสานแจ้งเตือนให้จังหวัดเตรียมพร้อมรับมือภาวะฝนตกหนักและฝนตกสะสมอย่างต่อเนื่อง รวมถึงประสาน แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยบริเวณที่ลาดเชิงเขา ที่ราบต่ำริมน้ำไหลผ่าน และพื้นที่เสี่ยงภัย ให้ติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด ปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด หมั่นสังเกตสัญญาณความผิดปกติทางธรรมชาติ จะได้อพยพหนีภัยทันท่วงที สำหรับประชาชนที่ประสบสาธารณภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง .-สำนักข่าวไทย