กทม. 10 ก.ค.- ปอท.แจ้งข้อหา 8 ใน 13 แชร์ข่าว”บิ๊กช้าง”บงการตีหัว”จ่านิว”ขยายผลพบตัวการเบื้องหลังผลิตเนื้อหาข่าวปลอม จ่อจับเร็ววันนี้
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ โฆษกกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) แถลงกรณีโซเชียลมีเดียแชร์ภาพและข้อความระบุ พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอยู่เบื้องหลังเหตุทำร้ายนายสิรวิชญ์ เสริธิวัฒน์ หรือจ่านิว ระบุว่า “เรื่องใหญ่ที่ท่านผู้การกองปราบ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ต้องแก้ปัญหา…ที่มีตำรวจชั้นประทวนในสังกัด กองปฏิบัติการพิเศษกองปราบ 4 คนไปช่วย พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รอง ผบ.ตร.เคยคุมกองปราบมาก่อน เลี้ยงตำรวจโจรในกองปราบไว้ใช้ ได้ก่อเหตุไปดักตีหัว จ่านิวและฟอร์ด กลุ่มเคลื่อนไหวต่อต้านเผด็จการ พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เป็นลูกน้องแขนซ้ายของ พล.อ.ประวิตร นั่นเอง และ รองช้าง หรือพล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย หัวหน้าแก็งค์สีกากี ตามกระทืบนักกิจกรรม เอกชัย,ฟอร์ด,จ่านิว” ว่า ข้อความดังกล่าวไม่เป็นเป็นความจริง บิดเบือน หวังผลให้เกิดความเสียหายต่อ พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมถึงเกิดความตื่นตระหนกในสังคม ซึ่ง ปอท. ได้สืบสวนสอบสวนจนพบกลุ่มบุคคลจำนวน 13 คน ทำหน้าที่นำเข้าข้อมูลดังกล่างสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และช่วยกันแชร์ข่าว ซึ่ง 8 ใน 13 ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน ปอท.มารับทราบข้อกล่าวหาแล้ววานนี้(9 ก.ค.)โดยให้การภาคเสธ คือรับว่าแชร์จริง แต่ไม่ทราบว่าเป็นข่าวปลอม อีกทั้งการสืบสวนยังพบว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดไม่รู้จักกัน แต่ชื่นชอบทางการเมืองเหมือนกัน โดยไม่มีผลประโยชน์ตอบแทนในการส่งต่อข้อความ การกระทำดังกล่าวจึงเข้าข่ายความผิดในข้อหา นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความตื่นตระหนกในหมู่ประชาชนตามมาตรา 14(2) พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีหรือปรับไม่เกิน 100,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้ ยังสืบสวนพบว่าในกลุ่มผู้ต้องหา มี 3-4 คนที่ใช้บัญชีโซเชียลมีเดียปลอมหรืออวตาร เพื่อปกปิดตัวตน ป้องกันตำรวจสืบสวนจับกุม ส่วนอีก 5 คนที่เหลือ จะเข้ามอบตัวภายในสัปดาห์นี้ ส่วนข่าวปลอมเรื่อง เครื่องเจ็ทตำรวจและข่าวทำร้ายจ่านิวจะเป็นขบวนการผลิตข่าวปลอมเดียวกันหรือไม่ หากจับกุมและสอบสวนผู้ที่ผลิตเนื้อหาข่าวปลอมได้จะทำให้ทราบถึงความเชื่อมโยง แม้ทั้งสองข่าวจะมีชื่อหรือภาพถ่ายของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และพล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เหมือนกัน แต่ยังยืนยันไม่ได้ว่าความเชื่องโยงกัน
โฆษก ปอท. ยังระบุว่า ตำรวจยังทราบว่ามีบุคคลที่ทำหน้าที่สร้างเนื้อหาข่าวปลอม เพื่อให้กลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 13 คน แชร์ต่อ คาดจับกุมตัวได้เร็ววันนี้ คดีนี้พนักงานสอบสวน ได้สอบปากคำ รอง ผบ.ตร.และ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผู้การกองปราบ ประกอบสำนวนแล้ว ซึ่ง พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ ก็ให้การไม่ทราบมูลเหตุที่ถูกใช้ในการสร้างข่าวเพื่อให้เกิดความเสียหาย
รองโฆษก ตร. ยังกล่าวอีกว่า คดีทำร้ายร่างกาย จ่านิว พนักงานสอบสวนสอบปากคำพยานไปแล้ว 15-20 ปาก และตรวจสอบกล้องวงจรปิดเส้นทางการหลบหนีของคนร้าย พบว่าบางจุดชำรุดเสียหายจับภาพคนร้ายไม่ได้ อย่างไรก็ตาม จากการสืบสวนคนร้ายน่าจะเตรียมตัวมาอย่างดี อาศัยช่วงที่การจราจรติดขัดลงมือก่อเหตุ ขอให้ผู้เสียหายและสังคมมั่นใจว่าตำรวจยังทำคดีนี้อย่างเต็มที่.-สำนักข่าวไทย
