กรมการศาสนา 16 ส.ค.-อธิบดีกรมการศาสนา แจงเข้าช่วยเหลือแล้ว หลังปรากฏข่าวมีผู้แสวงบุญจากสงขลา-ปัตตานี ถูกลอยแพ พร้อมเปิดศูนย์อำนวยความสะดวกประจำสนามบิน เปิดศูนย์ฮอตไลน์แจ้งข้อมูล 24 ชั่วโมง
จากกรณีมีการเผยแพร่ข่าวเมื่อ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา ว่ามีกลุ่มผู้แสวงบุญในพื้นที่จ.สงขลาและปัตตานี จำนวน 22 คน ถูกลอยแพที่ท่าอากาศยานหาดใหญ่ไม่สามารถเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ที่ประเทศซาอุดีอาระเบียได้ ซึ่งบริษัทผู้ประกอบการออกมาเปิดเผยว่าสาเหตุมาจาก แซะ หรือผู้นำกลุ่มของกลุ่มผู้แสวงบุญทั้ง 22 คนได้ทิ้ง ผู้แสวงบุญไปและจ่ายเงินให้บริษัทผู้ประกอบการไม่ครบ โดยค้างเงินอยู่อีกเกือบ 2 ล้านบาทนั้น
นายกฤษศญพงษ์ ศิริ อธิบดีกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยในฐานะเลขานุการคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย ว่า รับทราบกรณีดังกล่าวตั้งแต่ช่วงค่ำของวันที่ 15ส.ค.ไม่ได้นิ่งนอนใจ สั่งการให้ทุกฝ่ายเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง เข้าช่วยเหลือผู้แสวงบุญโดยเร็วที่สุด เบื้องต้นตรวจสอบข้อมูลแล้วพบข้อเท็จจริงปรากฏ ดังนี้ 1.กลุ่มผู้แสวงบุญกลุ่มนี้ เป็นผู้แสวงบุญของบริษัท เอส.ที.อาราเบียน มีกำหนดเดินทางวันที่ 25 ส.ค.นี้โดยสายการบินกัลฟ์แอร์ เที่ยวบิน GF 153 เวลา 11.50 น.(ปรากฎตาม สกฮ.5) คือเป็นผู้มีรายชื่อผู้แสวงบุญที่เดินทาง พร้อมวันเวลาเดินทางไปและกลับในระบบฐานข้อมูลของกรมการศาสนา
2.เจ้าหน้าที่กองส่งเสริมกิจการฮัจย์ได้ประสานบริษัทผู้ประกอบกิจการฮัจย์ของผู้แสวงบุญกลุ่มนี้แล้วได้รับยืนยันว่าบริษัทจะรับผิดชอบนำพาผู้แสวงบุญเดินทางไปจำนวน19 คนโดยจัดให้เดินทางเมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา 3 คนแล้ว ส่วนอีก16คน อยู่ระหว่างผู้แสวงบุญตัดสินใจจะเดินทางไปเมื่อใด ส่วนผู้แสวงบุญอีก 3 คนที่เป็นครอบครัวของแซะคือผู้นำกลุ่ม ที่ทิ้งผู้แสวงบุญไป บริษัทผู้ประกอบการจะไม่รับผิดชอบจะพาเดินทางไป
3.กรมการศาสนาแจ้งไปยังคณะทำงานประชาสัมพันธ์กิจการฮัจย์จังหวัดชายแดนภาคใต้และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสงขลาให้ประสานชี้แจงไปยังผู้ร้องเรียนดังกล่าวถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาของกรมการศาสนาแล้ว และขอให้ประสานกับผู้ประกอบกิจการฮัจย์นัดหมายในการเดินทางและอำนวยความสะดวกให้ผู้แสวงบุญที่เหลืออย่างใกล้ชิดทั้งหมดแล้ว ซึ่งกรมอยากให้ผู้แสวงบุญมั่นใจ หากลงทะเบียนผ่านระบบอย่างถูกต้อง แม้ผู้นำกลุ่มหรือแซะ จะไม่ดูแล บริษัทผู้ประกอบการต้องดูแลแทน และกรมจะประสานจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ซึ่งเรื่องนี้ได้รายงานข้อมูลการช่วยเหลือทั้งหมดต่อ รมว.วัฒนธรรม รับทราบแล้ว
ทั้งนี้ คณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทยร่วมกับทุกภาคส่วน เตรียมความพร้อมทุกด้านแก่ผู้แสวงบุญชาวไทยทั้งในประเทศไทยและประเทศซาอุฯ ดังนี้ 1.จัดตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ประจำสนามบินต่างๆ เช่นสุวรรณภูมิ หาดใหญ่ นราธิวาส และภูเก็ต และที่สนามบินเจดดาห์ มะดีนะห์ เพื่อคอยอำนวยความสะดวกแก่ผู้แสวงบุญ ทั้งเที่ยวไปและเที่ยวกลับ 2.จัดตั้งสำนักงานกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย ที่เมืองมักกะห์ และเมืองมะดีนะห์ เพื่อบริการผู้แสวงบุญชาวไทยและผู้เกี่ยวข้อง
3.จัดส่งคณะเจ้าหน้าที่ไทย ประกอบด้วยผู้แทนจากทุกภาคส่วน รวม 130 คน โดยมีนายอรุณ บุญชุม อะมีรุ้ลฮัจย์ ประจำปี 2559 (หัวหน้าคณะผู้แทนฮัจย์ไทย) เดินทางไปเพื่อดูแล อำนวยความสะดวกแก่ผู้แสวงบุญชาวไทยในประเทศซาอุดีอาระเบีย จนสิ้นสุดเทศกาลฮัจย์ เพื่อให้พี่น้องชาวไทยมุสลิมได้ประกอบพิธีฮัจย์ได้อย่างถูกต้อง สมบูรณ์ครบถ้วนตามหลักศาสนาสมดังเจตนารมณ์ที่มุ่งหวังไว้ และ4.จัดตั้งศูนย์ประสานงานและอำนวยความสะดวกผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ณ กรมการศาสนา พร้อมเปิดศูนย์ฮอตไลน์ฮัจย์ให้พี่น้องมุสลิมและผู้สนใจ สามารถติดต่อสอบถามตลอด 24 ชั่วโมง ที่โทร 02-4228795-6 094-9520668 094-9158257 หรือสายด่วนวัฒนธรรม 1765 .-สำนักข่าวไทย