กรุงเทพฯ 16 ส.ค. – กรมชลประทานคาด 5 ทุ่มคืนนี้จะมีน้ำล้นตลิ่งที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำบริเวณ อ.เมืองแพร่ เตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ที่ลุ่มน้ำริมแม่น้ำยมใน อ.เมืองแพร่เตรียมรับมือสถานการณ์น้ำเอ่อล้นตลิ่ง
นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำยมในเขตอำเภอปง จังหวัดพะเยา ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำยม จังหวัดแพร่ สูงขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. (16 ส.ค. 59) ระดับน้ำในแม่น้ำยมที่สถานีวัดน้ำ Y. 20 บ้านห้วยสัก อำเภอสอง วัดได้ 9.00 เมตร ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 3.00 เมตร (ระดับตลิ่ง 12.00 เมตร) ปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,287 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (ปริมาณสูงสุดที่รับได้ 3,100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที) ถัดลงมาที่สถานีวัดน้ำ Y.1C บ้านน้ำโค้ง อำเภอเมืองแพร่ วัดระดับน้ำได้ 5.86 เมตร ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 2.34 เมตร (ระดับตลิ่ง 8.20 เมตร) ปริมาณน้ำไหลผ่าน 687 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (ปริมาณสูงสุดที่รับได้ 1,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที) แนวโน้มสถานการณ์น้ำที่สถานี Y.20 ระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่องแล้วตั้งแต่ช่วงเช้าของวันนี้ ส่วนระดับน้ำที่สถานี Y.1C ยังคงสูงขึ้น
ทั้งนี้ จากการประเมินสถานการณ์น้ำในแม่น้ำยม หากไม่มีฝนตกหนักลงมาเพิ่มในพื้นที่ตอนบนของแม่น้ำยม คาดการณ์ว่าระดับน้ำในพื้นที่ตอนบนบริเวณอำเภอปง จังหวัดพะเยา และที่สถานี Y.20 บ้านห้วยสัก อำเภอสอง จังหวัดแพร่ จะลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่วนที่สถานี Y.1C บ้านน้ำโค้ง อำเภอเมืองแพร่ คาดว่าคืนนี้เวลาประมาณ 23.00 น.ระดับน้ำในแม่น้ำยมจะเริ่มล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ ซึ่งเป็นพื้นที่นอกเขตคันกั้นน้ำ และเวลาประมาณ 07.00 น. ของวันที่ 17 สิงหาคม 2559 คาดว่าระดับน้ำจะสูงสุดประมาณ 9.50 เมตร สูงกว่าตลิ่งต่ำนอกคันกั้นน้ำประมาณ 1.30 เมตร และต่ำกว่าพื้นที่เศรษฐกิจประมาณ 0.50 เมตร จากนั้นระดับน้ำจะเริ่มลงลง เข้าสู่ภาวะปกติภายในช่วงเย็นวันเดียวกัน
กรมชลประทานจึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำยม นอกเขตคันกั้นน้ำบริเวณอำเภอเมืองแพร่ ให้เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำเอ่อล้นตลิ่งที่จะเกิดขึ้น โดยยกสิ่งของและทรัพย์สินไว้บนที่สูง พร้อมกับขอให้ติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิดด้วย ทั้งนี้ ทางผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการจัดทำทำนบกั้นน้ำตามจุดเสี่ยงต่าง ๆ แล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเอ่อท่วมพื้นที่ชั้นในตัวเมืองแพร่
ปริมาณน้ำในแม่น้ำยมจากจังหวัดแพร่จะไหลลงสู่พื้นที่จังหวัดสุโขทัยเป็นลำดับต่อไป คาดว่าปริมาณน้ำก้อนใหญ่จะเดินทางถึงบริเวณสถานี Y.14 อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย วันที่ 18 สิงหาคม 2559 ในเกณฑ์ประมาณ 1,200 – 1,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และเพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน จะใช้ประตูระบายน้ำแม่น้ำยม (บ้านหาดสะพานจันทร์) อำเภอสวรรคโลก ในการบริหารจัดการน้ำด้วยการพร่องน้ำหน้า ปตร.แม่น้ำยมให้ลดต่ำลง เพื่อให้มีพื้นที่รับน้ำหลาก รวมทั้งผันน้ำส่วนหนึ่งด้านเหนือ ปตร.แม่น้ำยม เข้าสู่คลองหกบาทในอัตรา 180 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ไปลงคลองยม – น่านและแม่น้ำยมสายเก่า อัตรา 80 และ 100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีตามลำดับ ก่อนจะระบายน้ำลงสู่แม่น้ำน่านด้านท้ายเขื่อนนเรศวร ซึ่งได้ลดปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนลง เพื่อให้น้ำที่ระบายผ่านคลองยม-น่าน ไหลลงสู่แม่น้ำน่านได้สะดวกมากขึ้น
พร้อมกันนี้จะควบคุมปริมาณน้ำให้ไหลผ่าน ปตร.แม่น้ำยมในเกณฑ์ประมาณ 600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อลดปริมาณน้ำที่จะไหลลงสู่ตัวเมืองสุโขทัย จากนั้นจะรับน้ำบางส่วนเข้าคลองสาขาเหนือตัวเมืองสุโขทัย ในเกณฑ์ 50 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที คงเหลือปริมาณน้ำผ่านตัวเมืองสุโขทัยประมาณ 550 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ตามความจุของลำน้ำที่ไหลผ่านตัวเมืองสุโขทัย รวมปริมาณน้ำที่กรมชลประทาน ใช้ ปตร.แม่น้ำยมในการบริหารจัดการทั้งสิ้น 780 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ปริมาณน้ำส่วนที่เหลืออีกประมาณ 10 ล้านลูกบาศก์เมตร จะใช้พื้นที่ด้านเหนือ ปตร.แม่น้ำยม เก็บกักและชะลอน้ำไว้ รอจนกว่าปริมาณน้ำในระบบชลประทานลดลงแล้ว จึงค่อยระบายน้ำส่วนที่เหลือนี้โดยไม่ให้เกิดปัญหาน้ำท่วมต่อไป.-สำนักข่าวไทย