ศูนย์บริการประชาชน 8 ก.ค.- “เรืองไกร” ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ให้ใช้ม. 44 เอาผิด “อุตตม” ในความผิดอนุมัติปล่อยกู้ให้เครือกฤษดามหานคร ยืนยันมีหลักฐานศาลฎีกาในการช่วยเหลือให้เงินกู้ จี้ทบทวนแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคไทยรักษาชาติ ยื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ผ่านศูนย์บริการประชาชน เรียกร้องให้ใช้มาตรา 44 พิจารณาว่านายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มีความเหมาะสมจะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีหรือไม่ เนื่องจากเห็นว่า นายอุตตม มีความผิดครั้งเป็นกรรมการบริหารธนาคารกรุงไทย ในการปล่อยกู้เงินให้กับเครือกฤษดามหานคร วงเงินกว่า 9,900 ล้านบาท แม้นายอุตตมจะไม่ถูกดำเนินคดี ขณะที่กรรมการบริหารธนาคารกรุงไทย 3 ใน 5 คนถูกดำเนินคดี และมีหลักฐานสำคัญชัดเจนว่านายอุตตมมีส่วนเกี่ยวข้อง คือรายงานการประชุมในวันที่ 18 ธ.ค. 2546 ที่นายอุตตมเซ็นชื่อรับรอง พร้อมทั้งตั้งข้อสังเกตว่าคดีนี้เหตุใด จึงไม่พิจารณาเอาผิดคณะกรรมการทั้งหมด ซึ่งแตกต่างจากคดีหวยบนดินที่มีการพิจารณาทั้งหมด
นายเรืองไกร กล่าวว่า นายอุตตมเคยถูกคณะอนุกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ตั้งข้อกล่าวหา แต่มีมติให้ข้อกล่าวหาตกไป เพราะไม่มีพยานหลักฐาน ซึ่งข้อมูลนี้ตรงข้ามกับที่นายอุตตม ระบุว่าไม่มีผิด เพราะในการพิจารณาของศาลฎีกาลงความเห็นไว้ชัดเจนว่าการกระทำของคณะกรรมการบริหารกรุงไทยกระทำการฝ่าฝืน มีเจตนาช่วยเหลืออนุมัติเงินกู้ ซึ่งเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่จะตั้งคณะกรรมการไต่สวนเอาผิดต่อไป แต่กลับไม่มีการดำเนินการ ดังนั้นการที่นายกรัฐมนตรีจะตั้งนายอุตตม เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังนั้น จึงถือว่าไม่เหมาะสม และขอให้ยับยั้ง หรือใช้มาตรา 44 ดำเนินการกับนายอุตตม ซึ่งหากนายกรัฐมนตรีไม่ทบทวนการแต่งตั้ง และให้นายอุตตมได้เป็นรัฐมนตรีจะไปยื่นเรื่องกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาคุณสมบัติต่อไป
นายเรืองไกร กล่าวว่า ส่วนกรณีนายธรรมนัส พรหมเผ่า ที่คุณสมบัติอาจจะขัดต่อการเป็น ส.ส.นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน.-สำนักข่าวไทย