กอ.รมน.กทม.บุกจับบ่อนใหญ่ย่านตลิ่งชัน

กทม.5ก.ค.-กอ.รมน.กทม.บุกเข้าจับกุมบ่อนกลางกรุงย่านตลิ่งชันค่ำวานนี้(4ก.ค.)ได้ของกลาง อุปกรณ์การเล่นพนันจำนวนมาก-สมุดบัญชี-รายชื่อที่ต้องจ่าย แต่ไม่พบนักพนัน เหตุอยู่ซอยลึกมีคนดูต้นทาง


พ.อ.วิโรจน์ หนองบัวล่าง หัวหน้ากลุ่มงานข่าว กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน กทม. กล่าวว่า เมื่อวันที่ 4 ก.ค.62 เวลา 19.25 น.กอ.รมน.กทม.(ท.)ร่วมกับ กกล.รส.ทภ.1 โดย บก.ควบคุม ที่ 3 (พล.ร.9) นำกำลังเข้าตรวจค้นอาคารเลขที่783 ซอยสวนผัก 29 แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน โดยมีนายวิรัช คงจันทร์  เป็นเจ้าของบ้าน


ภายในอาคารพบห้องกว้างประมาณ 4×6 เมตร จำนวน1ห้อง ตรวจสอบพบโต๊ะพร้อมอุปกรณ์เล่นการพนัน จำนวน 1 โต๊ะ  บริเวณข้างเคียงพบศาลา ขนาดประมาณ 3×4 เมตร  ซึ่งศาลานี้ได้จัดให้มีการเล่นการพนันโดยพบโต๊ะพร้อมอุปกรณ์สำหรับการเล่นการพนัน เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพร้อมของกลางเป็นเครื่องเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดจำนวน 4 เครื่อง และจอมอนิเตอร์ จำนวน 5 จอ จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดย้อนหลังพบว่ามีการเปิดเล่นการพนันชนิดไฮโล ตั้งแต่ เม.ย.62 (เท่าที่ขีดความสามารถของกล้องที่บันทึกได้)  

ในการปฏิบัติการครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้เข้าจู่โจมควบคุมผู้ที่ดูต้นทาง ซึ่งเป็นลานจอดรถ มีรถนักเล่นการพนันจอด38 คน ในเวลา19.25 น.แต่เนื่องจาก บ่อนดังกล่าวอยู่ในชุมชน การเข้าถึงบ่อนจะต้องเดินผ่านสะพานคนเดินของชุมชน กว้าง1.5 เมตร ระยะทางประมาณ200 เมตร ทำให้นักการพนัน แยกย้าย กระจายกันไปตามสถานที่ต่างๆ ในชุมชน ในเวลา 19.27 น. 


จากการตรวจสอบในกล้องมีนักเล่นการพนันกำลังเล่น ก่อนการเข้าจับกุม ทั้ง2 โต๊ะ ประมาณ 30 คน ตรวจสอบสมุดบันทึก รายรับ–รายจ่าย พบว่ามีการทำบัญชี ตั้งแต่ 20 เม.ย.62เฉลี่ยแต่ละวันมีรายรับ–รายจ่าย ดังนี้ 

1. รายรับ/วัน

– ค่าเก็บต๋ง (ค่าน้ำ) เฉลี่ยวันละ 125,000.-บาท

– ค่าทองคำ เฉลี่ยวันละ 160,000.-บาท

        รวมรายได้วันละ 285,000.-บาท

2. รายจ่าย

– ค่าเช่าบ้าน เฉลี่ยวันละ 60,000.-บาท

– ค่าแรงคนงาน เฉลี่ยวันละ 20,000.-บาท

– ค่าเบ็ดเตล็ดต่างๆ เฉลี่ยวันละ10,000.-บาท

– อาหาร + เครื่องดื่ม (ฟรี) เฉลี่ยวันละ 2,700.-บาท

– ค่าลูกเต๋า เฉลี่ยวันละ 700.-บาท

รวมรายจ่ายต่อวัน 93,400.-บาท

3. รายได้คงเหลือขั้นต้น (2–1)ต่อวัน 191,600.-บาท 

ต่อเดือน 5,748,000.-บาท

4. ตรวจพบว่าในเดือน มิ.ย.62 มีรายการจ่ายที่บันทึกลงในสมุด (คาดว่า เป็นเงินที่จ่ายในลักษณะส่วย และค่าใช้จ่ายอื่น เช่น เล่นแชร์, เงินกู้ยืมฯลฯ) เป็นเงิน 4,441,000.-บาท โดยมีรายการที่น่าสนใจ ดังนี้

– สารวัตรตู่ 71,000.-บาท

– สารวัตรเอก 100,000.-บาท

– นายกกุ้ง 40,000.-บาท

– จ่าตี๋ 150,000.-บาท

สำหรับเดือน ก.ค.62 มีรายจ่ายที่ทราบตั้งแต่ 29 มิ.ย. – 4 ก.ค. (คือวันเข้าตรวจค้น) จำนวน 1,575,000.-บาท ดังนี้

29มิ.ย.62 ตือบางกะปิ 300,000.-บาท

3 ก.ค.62 ยุทธ ชลบุรี 125,000.-บาท

3 ก.ค.62 พี่บัง 100,000.-บาท

4 ก.ค.62 พี่สุทธิ์ 300,000.-บาท

4 ก.ค.62 พี่ชุปอยู่กับโกเฮง 500,000.-บาท

4 ก.ค.62 ตี่หนึ่ง 100,000.-บาท

4 ก.ค.62 ป๋าตึง 100,000.-บาท

4 ก.ค.62 เฮียจั้ว 50,000.-บาท

รวม  1,575,000.-บาท 

จากการสอบถามนายวิชัย คงจันทร์  ให้การว่าบ่อนนี้เพิ่งเปิดให้บริการแค่ 4 วัน แต่จากหลักฐานในสมุดหมุนเวียนเงิน ซึ่งมีการเปิดบริการมาแล้วอย่างต่อเนื่อง  ประกอบกับมียอดเงินหมุนเวียนในบัญชีค่อนข้างสูงกว่ากายภาพของบ่อนแหล่งนี้ เจ้าหน้าที่จึงได้มีการขยายผลหาแหล่งที่มา   ของเงินที่มีการหมุนเวียนในสมุดบันทึก 

โดยเวลาประมาณ 21.17น. ได้ขยายผลการจับกุมโดยได้เข้าตรวจค้นอาคารไม่ทราบเลขที่ ซึ่งอยู่ห่างจากอาคารที่ถูกตรวจค้นก่อนหน้านี้ ประมาณ 1 กม. ลักษณะด้านนอกล้อมด้วยสังกะสี ตามข่าวที่สถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งได้เสนอเมื่อ  29 มิ.ย.62 เมื่อผ่านรั้วสังกะสีเข้าไปเป็นพื้นที่จอดรถกว้างหลายไร่ จอดรถได้ 400 – 500 คัน 

จากนั้นได้เข้าไปรั้วชั้นที่ 2 พบอาคาร 2 หลัง ซึ่งอาคารทั้ง 2 หลังนี้เคยถูกใช้เป็นบ่อนการพนันมาก่อน (เป็นบ่อนที่เคยจะเข้าจับกุม เมื่อ 28 มิ.ย.62 แต่ข่าวรั่วบ่อนรู้ตัวก่อน) มีรายละเอียดดังนี้

1.อาคารหลังที่1ภายในอาคารพบห้องโถงสำหรับเล่นการพนัน 2 ห้อง แบ่ง เป็นขนาด7×9 จำนวน1ห้องและขนาด 9×9 อีก 1 ห้อง ทั้ง 2 ห้องมีร่องรอยว่าเคยเปิดเล่นการพนัน  โดยยังมีเชือกผูกฝาครอบลูกเต๋าห้อยอยู่และยังพบห้องเก็บอุปกรณ์สำหรับเล่นการพนัน1ห้อง มีอุปกรณ์การพนันบางส่วนที่ยังเหลืออยู่ (ขนย้ายไปไม่หมด) ส่วนอีก1 ห้อง พบตู้เกมส์สล็อต 2 ตู้, ตู้เกมส์ยิงปลาอีก 1 ตู้

2.อาคารหลังที่2 ภายในอาคารเป็นห้องโถงใหญ่ขนาด 12×12 พบโต๊ะ สนุ๊กจำนวน 1 โต๊ะ สามารถดัดแปลงเป็นโต๊ะเล่นพนันได้

ผลการปฏิบัติ จากการตรวจค้นและขยายผล ทั้ง 2 เป้าหมาย เปิดเป็นบ่อนการพนัน  โดยบ่อนแรก ยังคงเปิดให้บริการ  โดยมีนักพนันเดินทางมาเล่นพนันอยู่ ส่วนเป้าหมายที่2ที่ขยายผลพบเป็นสถานที่ที่เคยเปิดเล่นการพนันแต่เนื่องจากมีการเสนอข่าวเมื่อ29 มิ.ย.62 จึงปิดชั่วคราวและย้ายอุปกรณ์มาเล่นที่เป้าหมาย 1 แต่คาดว่าน่าจะมีการกลับมาเปิดให้บริการอีก เมื่อสถานการณ์ได้คลี่คลายลง

โดยในการเข้าจับกุมครั้งนี้ไม่สามารถจับกุมนักพนันได้ ส่วนของกลางทั้งหมดได้ทำการยึดและรวบรวมไว้พร้อมทำลายโต๊ะสำหรับการใช้เล่นการพนันทิ้งเพื่อไม่ให้มีการเปิดให้บริการอีก 

สำหรับ (นายวิรัช คงจันทร์) กอ.รมน.กทม.(ท.)จะเชิญตัวมาพบเพื่อขยายผลต่อไป ซึ่งจากการสอบถามอ้างว่าที่ดินแปลงนี้เป็นของตนเอง เนื้อที่ 84 ตร.วา ตนเองเป็นเพียงผู้ให้เช่าที่ดินเท่านั้น สัญญาเช่าได้ทำหาย ซึ่ง กอ.รมน.กทม.จะแจ้งให้สำนักงานเขตตลิ่งชัน ไปตรวจสอบการก่อสร้างอาคารของทั้ง 2 เป้าหมายต่อไป .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบแล้วบ้าน “พระอลงกต” ที่ขอนแก่น ชาวบ้านเผยเป็นคนใจดี

ขอนแก่น 25 ส.ค. – พบแล้วบ้านของ “พระอลงกต” ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง ชาวบ้านเผย “พระอลงกต” เป็นคนใจดี กลับมาแจกเงินทุกปี พอเห็นข่าวรู้สึกตกใจและสงสาร เพราะเที่เคยสัมผัสเป็นคนใจดี ทีมข่าวตรวจสอบข้อมูลเพื่อตามหาบ้านของพระอลงกต รู้ว่าเป็นคน จ.ขอนแก่น ตั้งแต่กำเนิด สืบค้นที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน พบระบุว่าบ้านเกิดของหลวงพ่ออลงกต อยู่ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบว่าเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง และไปพบบ้านของพ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ซึ่งทุกคนไม่ได้เรียกว่าพระอลงกต แต่จะคุ้นเคยเรียกกันว่าพระจอร์จ และนิสัยของพระพระอลงกตมีแต่เรื่องราวดีๆ มอบให้กับสังคม พระอลงกตจะแวะเวียนมาบอกบุญเสมอปีละครั้ง ในช่วงวันเกิดที่โรงเรียนแก่นนคร ที่พระอลงกตเคยศึกษา อย่างช่วงที่พ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ยังมีชีวิต พ่อเฉยจะทำว่าวให้เด็กๆ ละแวกนี้เล่น เป็นที่รักของคนในชุมชนเช่นกัน พี่สาวของพระอลงกต ขายข้าวแกงอยู่ตรงข้ามบ้านพักข้าราชการ ซึ่งบ้านของครอบครัวพระอลงกต จะอยู่ติดกับรั้วของสำนักงานทางหลวง แต่พอครอบครัวพระอลงกตเกษียณก็พากันย้ายออกไปอยู่ที่อื่น บ้านพักปัจจุบันนี้ไม่มีใครอยู่ และบ้านส่วนตัวก็ไม่มีใครอยู่อาศัยเช่นกัน พระอลงกตออกจากบ้านไปช่วงปี 2527 แต่พระอลงกตจะกลับมาที่บ้านส่วนตัวทุกปี หลังจากเป็นเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อมาทำบุญวันเกิดโรงเรียนแก่นนคร มอบทุนการศึกษาให้กับเด็กๆ เสมอ […]

ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์”

กทม. 24 ส.ค.-ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่า ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยโวยวายและขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ คาดน่าจะเกิดจากมึนเมา กรณีนักแสดงสาว “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่าวัด ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยได้ลงจากรถมาโวยวายขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ทาง พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผกก.สน.วังทองหลาง เผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจ สน.วังทองหลาง ได้ตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ ที่ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ช่วงเวลาประมาณ 02.00-04.00 น. ได้ขอตรวจรถยนต์ยี่ห้อปอร์เช่ สีเขียว ปรากฏว่ามี น.ส.มารี เบรินเนอร์ นักแสดงสาว เป็นผู้ขับขี่ และมีนายอัศม์กรณ์ โดยสารมาด้วย ซึ่งนั่งข้างหน้า และมีผู้หญิงมาด้วยอีก 2 คน เมื่อขอตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ นายอัศม์กรณ์ กลับโวยวาย ขัดขวางไม่ให้ตรวจ และมีการด่าทอด้วยคำที่หยาบคาย แต่ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ในที่สุดตำรวจได้คุมตัวทั้งหมดมายัง สน.วังทองหลาง พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาเมาแล้วขับ กับนางสาวมารี เนื่องจากนางสาวมารี ไม่ยินยอมเป่าเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ จากนั้นนางสาวมารี ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 20,000 บาท […]

“คาจิกิ” ทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่น ส่งผลให้ไทยฝนตกเพิ่มทุกภาค

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- กรมอุตุฯ ออกประกาศระบุ ช่วงเช้าที่ผ่านมา พายุโซนร้อน “คาจิกิ” ในทะเลจีนใต้ ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น เตือน 57 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 24-27 ส.ค.68 นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น “กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนจะขึ้นฝั่งตอนบนของ ประเทศเวียดนาม และ สปป.ลาว ในช่วงวันที่ 25–26 สิงหาคมนี้ ขอบด้านหน้าของพายุ เริ่มส่งผลกระทบต่อไทยตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีเมฆฝนเพิ่มขึ้น จากนั้นจะมีฝนตก ก่อนขยายไปยังภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ ในช่วงวันถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อิทธิพลของพายุ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ […]

“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดี เป็นคลิปตกแต่งเสียง

ทำเนียบ 24 ส.ค.-“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดีศาล รธน. ที่ “ชวน” ได้ยินเป็นคลิปตกแต่งเสียง ฟังกี่รอบก็ชัดว่า “นั่งลงครับ” เตือนประชาชนบิดเบือนข้อมูลใส่ร้าย อย่าโพสต์ ไม่ชัวร์ อย่าแชร์ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี อดีตประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ กล่าวถึง กรณีมีการบิดเบือนคำพูดในวันสืบพยานของนายกรัฐมนตรี โดยหลังจากนายกรัฐมนตรีกล่าวคำสาบานตนแล้ว ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านหนึ่งได้กล่าวคำว่า “นั่งลงครับ” แต่กลับมีกระบวนการนำไปบิดเบือนและตกแต่งเสียง โดยกล่าวหาว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพูดว่า “นั่งลงลูก“ ซึ่งเป็นการบิดเบือน ขณะเดียวกัน ยังพบว่าอดีตประธานรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ได้สัมภาษณ์ให้ความเห็นในกรณีดังกล่าวหลายประเด็น ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า นายชวน หลีกภัย อาจจะยังไม่ได้ฟังคลิปเต็มๆ จริงๆ ในวันดังกล่าว หรือไม่ก็อาจจะได้ฟังจากคลิปที่ถูกบิดเบือนและตกแต่ง ซึ่งความเป็นจริงการบันทึกเสียงทั้งหมดหรือการกล่าวบนบัลลังก์ คนที่นั่งอยู่ในห้องพิจารณาก็ได้ยินตรงกันว่า “นั่งลงครับ” ทั้งสิ้น นายจิรายุ กล่าว ตนในฐานะเคยดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาลองค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ ติดตามการทำงานกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด ไม่มีเหตุผลใดๆ ในกระบวนการยุติธรรมที่จะใช้คำพูดในลักษณะเช่นนี้ […]

ข่าวแนะนำ

แจงยิบข้อดี MOU43 กรอบแนวทางสำรวจปักปันเขตแดน

กต. 25 ส.ค.- อธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ แจงละเอียดยิบข้อดี MOU43 ใช้เป็นกรอบแนวทางการสำรวจปักปันเขตแดน เพื่อทำแผนที่ใหม่ร่วมกันตามหลักสากล เตือนยกเลิกหนีแผนที่ 1 : 200,000 ไม่พ้น และจะวนมาทำ MOU กันใหม่ นายเบญจมินทร์ สุกาญจนัจที อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับนายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ อธิบายถึงที่มาของบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกระหว่างไทยกับกัมพูชา หรือ MOU 43 ว่าเป็นเอกสารพื้นฐานของกรอบการเจรจา ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลกัมพูชา ว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกปี 2543 หรือ MOU2543 หรือ MOU43 อธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ มั่นใจว่า ประเทศไทยได้เปรียบจาก MOU43 เนื่องจาก MOU43 เป็นการกำหนดกรอบความตกลง และกลไกการปักปันเขตแดน เพื่อร่วมกันสำรวจ-จัดทำหลักเขตแดน เพื่อให้ได้แผนที่ที่นำมาใช้ได้จริง โดยใช้หนังสือสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ค.ศ.1904 และ 1907 เป็นเอกสารประกอบ เนื่องจาก หนังสือสัญญาดังกล่าวได้พูดถึงคณะกรรมการปักปันเขตแดน เพื่อให้ไปทำแผนที่ตามหลักสันปันน้ำ แม่น้ำ และแนวเส้นตรง […]

“ภูมิธรรม” รับหนักใจ “กัมพูชา” ตกลงกันแล้วไปพูดอีกอย่าง

ทำเนียบ 25 ส.ค.- “ภูมิธรรม” บอก ประชุม RBC กองทัพภาค 2 เป็นเรื่องเขตแดน ยอมรับหนักใจ “กัมพูชา” ตกลงกันแล้วไปพูดอีกอย่าง ย้ำไม่ยอมให้ใครรุกล้ำอธิปไตย มองเรื่องเขตแดน ไม่เคยจบง่ายบางประเทศใช้เวลาเป็น 100 ปี อย่าไปกังวลใจ ถ้ายังยืนหยัดผลประโยชน์ชาติ พร้อมยกนาฬิกาข้อมือ ก่อนแซวตัวเอง “วันนี้วันที่เท่าไหร่ ดูเวลาทุกวัน จะพ้นตำแหน่งแล้ว” นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค RBC ไทย-กัมพูชาในส่วนของกองทัพภาคที่2ในวันที่ (27 ส.ค.) จะมีการเสนอเงื่อนไขเหมือนกับการประชุม RBC ของกองทัพภาคที่ 1 หรือแตกต่างกันหรือไม่ว่า ก็ไม่มี เป็นการต่อเนื่อง จากการประชุม RBC ครั้งที่แล้ว แต่อาจจะแตกต่างกันบ้างของแต่ละสภาพพื้นที่และสภาพปัญหา และพื้นฐานจะเป็นการประชุมต่อเนื่องจากครั้งก่อน เป็นเรื่องระดับแม่ทัพไปคุยกัน ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเส้นแดน ทำอย่างไรที่จะทำให้ได้ข้อสรุปที่ตรงกันมากที่สุด ส่วนแนวโน้มน่าจะมีสัญญาณที่ดีใช่หรือไม่ เพราะการประชุมครั้งก่อนฝ่ายกัมพูชารับเงื่อนไข แต่การประชุมที่กองทัพภาคที่2 มีเรื่องรั้วลวดหนาม ที่แตกต่างกับกองทัพภาคที่ 1 […]

ชื่นชมผ้าไทยลายกริพเพน

25 ส.ค. – ผ้าไทยลาย “กริพเพน” ออกแบบโดยได้แรงบันดาลใจจากเครื่องบินขับไล่กริพเพน ของกองทัพอากาศไทย ที่ไม่เพียงสะท้อนถึงความงดงามทางวัฒนธรรม แต่ยังประกาศถึงความกล้าหาญและหัวใจนักสู้ของชนชาติไทย เพจกรุงเก่าของชาวสยาม และคุณ Kamon Wan เผยแพร่ภาพผ้าไทยลายเครื่องบินรบกริพเพน โดยกองทัพอากาศ รายงานว่าแนวคิดนี้เกิดขึ้นด้วยแรงบันดาลใจจากเครื่องบินกริพเพน ที่มาร่วมพิทักษ์แผ่นดินไทย ชายแดนไทย-กัมพูชา และถูกถ่ายทอดลงบนผ้าไหมสุรินทร์อันเลื่องชื่อ ผสาน “ความแข็งแกร่ง” ของนักรบกับ “ความงาม” แห่งภูมิปัญญาไทยได้อย่างทรงพลัง ภายใต้คอนเซ็ปต์ “แม่ย่านางกริพเพน” ศิลป์และศรัทธาได้รวมเป็นหนึ่ง ที่ไม่เพียงสะท้อนถึงความงดงามทางวัฒนธรรม แต่ยังประกาศถึงความกล้าหาญและหัวใจนักสู้ของชนชาติไทย นี่คือผลงานที่ย้ำเตือนว่าไทยมิได้มีเพียงกำลังปกป้องผืนแผ่นดิน แต่ยังรักษารากเหง้าวัฒนธรรมอันงดงามไว้คู่กัน เพื่อบอกชัดแก่โลกว่าเราคือประเทศไทยผู้สืบสานวัฒนธรรม ที่จะไม่มีวันให้ใครมาย่ำยี ผู้สื่อข่าวรายงานจากกรุงสตอกโฮล์ม สวีเดน ว่าผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารสวีเดนประจำประเทศไทย และเจ้าหน้าที่ของ SAAB สวีเดน ได้เห็นแล้วปลื้มใจมากที่คนไทยมีความรู้สึกที่ดีกับเครื่องบินกริพเพน และนับเป็นแนวคิดที่สร้างสรรค์ กองทัพอากาศมีกำหนดที่จะลงนามในสัญญาจัดซื้อเครื่องบิน Gripen C/D กับ FMV และ SAAB สวีเดน ในวันนี้ (25 สิงหาคม) นำโดย พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล […]

“คาจิกิ” ขึ้นฝั่งเวียดนามบ่ายนี้ ไทยเตรียมรับฝนหนัก​ 25-27​ ส.ค.

กรุงเทพฯ​ 25 ส.ค.​ – กรมอุตุฯ อัปเดตเส้นทางพายุไต้ฝุ่น “คาจิกิ” คาดขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน ช่วงบ่ายถึงค่ำ วันนี้​ เตือนทั่วไทยฝนฟ้าคะนองเพิ่ม ขณะที่ภาคอีสาน​ตอน​บน​และ​ภาคเหนือ​ เตรียมรับมือฝนถล่ม ช่วง 25​ -​ 27​ ส.ค.​นี้ นายสมควร ต้นจาน ผู้​อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ศูนย์กลางพายุไต้ฝุ่น​คาจิกิอยู่ห่างจากเมืองวิญ ประเทศเวียดนาม ประมาณ 150 กม. เคลื่อนตัวทางตะวันตกค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย คาดว่า​ขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบนช่วง​บ่าย​ถึง​ค่ำ​วันนี้​ และเข้าสู่ สปป ลาว ตามลำดับ เมื่อ​ขึ้นฝั่ง​พายุ​จะ​เริ่ม​อ่อนกำลัง​ลง​ โดยเมื่อเข้า​สู่ประเทศ​ไท​ยจะเป็น​หย่อมความ​กด​อากาศ​ต่ำ​ แต่ไม่รุนแรง​เท่าพายุ​วิภา ทั้งนี้​ ช่วงวันที่ 25–27 ส.ค. 68 ประเทศ​ไท​ยจะมีฝนตก​เพิ่ม​ เริ่มจาก​ขอบของ​พายุ​ ประกอบกับกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดเข้าหาศูนย์กลางของพายุ ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตก​หนัก​ถึง​หนัก​มาก​ โดยเฉพาะ​ภาค​ตะวันออก​เฉียง​เหนือ​ตอน​บน​และ​ภาคเหนือ กรม​อุตุนิยม​วิทยา​ขอให้​ประชาชนติดตามประกาศแจ้ง​เตือน​ลักษณะ​อากาศ​อย่างใกล้ชิด.​ 512​ – สำนักข่าว​ไทย​