กอ.รมน.กทม.บุกจับบ่อนใหญ่ย่านตลิ่งชัน

กทม.5ก.ค.-กอ.รมน.กทม.บุกเข้าจับกุมบ่อนกลางกรุงย่านตลิ่งชันค่ำวานนี้(4ก.ค.)ได้ของกลาง อุปกรณ์การเล่นพนันจำนวนมาก-สมุดบัญชี-รายชื่อที่ต้องจ่าย แต่ไม่พบนักพนัน เหตุอยู่ซอยลึกมีคนดูต้นทาง


พ.อ.วิโรจน์ หนองบัวล่าง หัวหน้ากลุ่มงานข่าว กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน กทม. กล่าวว่า เมื่อวันที่ 4 ก.ค.62 เวลา 19.25 น.กอ.รมน.กทม.(ท.)ร่วมกับ กกล.รส.ทภ.1 โดย บก.ควบคุม ที่ 3 (พล.ร.9) นำกำลังเข้าตรวจค้นอาคารเลขที่783 ซอยสวนผัก 29 แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน โดยมีนายวิรัช คงจันทร์  เป็นเจ้าของบ้าน


ภายในอาคารพบห้องกว้างประมาณ 4×6 เมตร จำนวน1ห้อง ตรวจสอบพบโต๊ะพร้อมอุปกรณ์เล่นการพนัน จำนวน 1 โต๊ะ  บริเวณข้างเคียงพบศาลา ขนาดประมาณ 3×4 เมตร  ซึ่งศาลานี้ได้จัดให้มีการเล่นการพนันโดยพบโต๊ะพร้อมอุปกรณ์สำหรับการเล่นการพนัน เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพร้อมของกลางเป็นเครื่องเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดจำนวน 4 เครื่อง และจอมอนิเตอร์ จำนวน 5 จอ จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดย้อนหลังพบว่ามีการเปิดเล่นการพนันชนิดไฮโล ตั้งแต่ เม.ย.62 (เท่าที่ขีดความสามารถของกล้องที่บันทึกได้)  

ในการปฏิบัติการครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้เข้าจู่โจมควบคุมผู้ที่ดูต้นทาง ซึ่งเป็นลานจอดรถ มีรถนักเล่นการพนันจอด38 คน ในเวลา19.25 น.แต่เนื่องจาก บ่อนดังกล่าวอยู่ในชุมชน การเข้าถึงบ่อนจะต้องเดินผ่านสะพานคนเดินของชุมชน กว้าง1.5 เมตร ระยะทางประมาณ200 เมตร ทำให้นักการพนัน แยกย้าย กระจายกันไปตามสถานที่ต่างๆ ในชุมชน ในเวลา 19.27 น. 


จากการตรวจสอบในกล้องมีนักเล่นการพนันกำลังเล่น ก่อนการเข้าจับกุม ทั้ง2 โต๊ะ ประมาณ 30 คน ตรวจสอบสมุดบันทึก รายรับ–รายจ่าย พบว่ามีการทำบัญชี ตั้งแต่ 20 เม.ย.62เฉลี่ยแต่ละวันมีรายรับ–รายจ่าย ดังนี้ 

1. รายรับ/วัน

– ค่าเก็บต๋ง (ค่าน้ำ) เฉลี่ยวันละ 125,000.-บาท

– ค่าทองคำ เฉลี่ยวันละ 160,000.-บาท

        รวมรายได้วันละ 285,000.-บาท

2. รายจ่าย

– ค่าเช่าบ้าน เฉลี่ยวันละ 60,000.-บาท

– ค่าแรงคนงาน เฉลี่ยวันละ 20,000.-บาท

– ค่าเบ็ดเตล็ดต่างๆ เฉลี่ยวันละ10,000.-บาท

– อาหาร + เครื่องดื่ม (ฟรี) เฉลี่ยวันละ 2,700.-บาท

– ค่าลูกเต๋า เฉลี่ยวันละ 700.-บาท

รวมรายจ่ายต่อวัน 93,400.-บาท

3. รายได้คงเหลือขั้นต้น (2–1)ต่อวัน 191,600.-บาท 

ต่อเดือน 5,748,000.-บาท

4. ตรวจพบว่าในเดือน มิ.ย.62 มีรายการจ่ายที่บันทึกลงในสมุด (คาดว่า เป็นเงินที่จ่ายในลักษณะส่วย และค่าใช้จ่ายอื่น เช่น เล่นแชร์, เงินกู้ยืมฯลฯ) เป็นเงิน 4,441,000.-บาท โดยมีรายการที่น่าสนใจ ดังนี้

– สารวัตรตู่ 71,000.-บาท

– สารวัตรเอก 100,000.-บาท

– นายกกุ้ง 40,000.-บาท

– จ่าตี๋ 150,000.-บาท

สำหรับเดือน ก.ค.62 มีรายจ่ายที่ทราบตั้งแต่ 29 มิ.ย. – 4 ก.ค. (คือวันเข้าตรวจค้น) จำนวน 1,575,000.-บาท ดังนี้

29มิ.ย.62 ตือบางกะปิ 300,000.-บาท

3 ก.ค.62 ยุทธ ชลบุรี 125,000.-บาท

3 ก.ค.62 พี่บัง 100,000.-บาท

4 ก.ค.62 พี่สุทธิ์ 300,000.-บาท

4 ก.ค.62 พี่ชุปอยู่กับโกเฮง 500,000.-บาท

4 ก.ค.62 ตี่หนึ่ง 100,000.-บาท

4 ก.ค.62 ป๋าตึง 100,000.-บาท

4 ก.ค.62 เฮียจั้ว 50,000.-บาท

รวม  1,575,000.-บาท 

จากการสอบถามนายวิชัย คงจันทร์  ให้การว่าบ่อนนี้เพิ่งเปิดให้บริการแค่ 4 วัน แต่จากหลักฐานในสมุดหมุนเวียนเงิน ซึ่งมีการเปิดบริการมาแล้วอย่างต่อเนื่อง  ประกอบกับมียอดเงินหมุนเวียนในบัญชีค่อนข้างสูงกว่ากายภาพของบ่อนแหล่งนี้ เจ้าหน้าที่จึงได้มีการขยายผลหาแหล่งที่มา   ของเงินที่มีการหมุนเวียนในสมุดบันทึก 

โดยเวลาประมาณ 21.17น. ได้ขยายผลการจับกุมโดยได้เข้าตรวจค้นอาคารไม่ทราบเลขที่ ซึ่งอยู่ห่างจากอาคารที่ถูกตรวจค้นก่อนหน้านี้ ประมาณ 1 กม. ลักษณะด้านนอกล้อมด้วยสังกะสี ตามข่าวที่สถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งได้เสนอเมื่อ  29 มิ.ย.62 เมื่อผ่านรั้วสังกะสีเข้าไปเป็นพื้นที่จอดรถกว้างหลายไร่ จอดรถได้ 400 – 500 คัน 

จากนั้นได้เข้าไปรั้วชั้นที่ 2 พบอาคาร 2 หลัง ซึ่งอาคารทั้ง 2 หลังนี้เคยถูกใช้เป็นบ่อนการพนันมาก่อน (เป็นบ่อนที่เคยจะเข้าจับกุม เมื่อ 28 มิ.ย.62 แต่ข่าวรั่วบ่อนรู้ตัวก่อน) มีรายละเอียดดังนี้

1.อาคารหลังที่1ภายในอาคารพบห้องโถงสำหรับเล่นการพนัน 2 ห้อง แบ่ง เป็นขนาด7×9 จำนวน1ห้องและขนาด 9×9 อีก 1 ห้อง ทั้ง 2 ห้องมีร่องรอยว่าเคยเปิดเล่นการพนัน  โดยยังมีเชือกผูกฝาครอบลูกเต๋าห้อยอยู่และยังพบห้องเก็บอุปกรณ์สำหรับเล่นการพนัน1ห้อง มีอุปกรณ์การพนันบางส่วนที่ยังเหลืออยู่ (ขนย้ายไปไม่หมด) ส่วนอีก1 ห้อง พบตู้เกมส์สล็อต 2 ตู้, ตู้เกมส์ยิงปลาอีก 1 ตู้

2.อาคารหลังที่2 ภายในอาคารเป็นห้องโถงใหญ่ขนาด 12×12 พบโต๊ะ สนุ๊กจำนวน 1 โต๊ะ สามารถดัดแปลงเป็นโต๊ะเล่นพนันได้

ผลการปฏิบัติ จากการตรวจค้นและขยายผล ทั้ง 2 เป้าหมาย เปิดเป็นบ่อนการพนัน  โดยบ่อนแรก ยังคงเปิดให้บริการ  โดยมีนักพนันเดินทางมาเล่นพนันอยู่ ส่วนเป้าหมายที่2ที่ขยายผลพบเป็นสถานที่ที่เคยเปิดเล่นการพนันแต่เนื่องจากมีการเสนอข่าวเมื่อ29 มิ.ย.62 จึงปิดชั่วคราวและย้ายอุปกรณ์มาเล่นที่เป้าหมาย 1 แต่คาดว่าน่าจะมีการกลับมาเปิดให้บริการอีก เมื่อสถานการณ์ได้คลี่คลายลง

โดยในการเข้าจับกุมครั้งนี้ไม่สามารถจับกุมนักพนันได้ ส่วนของกลางทั้งหมดได้ทำการยึดและรวบรวมไว้พร้อมทำลายโต๊ะสำหรับการใช้เล่นการพนันทิ้งเพื่อไม่ให้มีการเปิดให้บริการอีก 

สำหรับ (นายวิรัช คงจันทร์) กอ.รมน.กทม.(ท.)จะเชิญตัวมาพบเพื่อขยายผลต่อไป ซึ่งจากการสอบถามอ้างว่าที่ดินแปลงนี้เป็นของตนเอง เนื้อที่ 84 ตร.วา ตนเองเป็นเพียงผู้ให้เช่าที่ดินเท่านั้น สัญญาเช่าได้ทำหาย ซึ่ง กอ.รมน.กทม.จะแจ้งให้สำนักงานเขตตลิ่งชัน ไปตรวจสอบการก่อสร้างอาคารของทั้ง 2 เป้าหมายต่อไป .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” แจงย้ำเวทีโลกกัมพูชาเปิดฉากโจมตีก่อน UNSC แนะเจรจาสันติวิธี

กระทรวงการต่างประเทศ 26 ก.ค.- “มาริษ” เผยเวที UNSC ให้ไทยกัมพูชายับยั้งชั่งใจ เจรจา 2 ฝ่ายสันติวิธียุติขัดแย้ง ย้ำแจงเวทีโลกแล้วกัมพูชาละเมิดอธิปไตยไทย-เปิดฉากโจมตีก่อน บอกสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่ได้เป็นการคุกคามสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ สั่งกรมสนธิฯ พิจารณายื่นศาลอาญาโลกฟ้องเขมรฐานอาชญากรสงคราม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการเดินทางเยือนสหรัฐอเมริกา เพื่อนำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมเวทีหารือทางการเมืองระดับสูงว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน ประจำปี ค.ศ. 2025 (High-Level Political Forum on Sustainable Development 2025) หรือ HLPF2025 ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์กว่า ในห้วงการประชุมดังกล่าว ตนเองได้ใช้โอกาสนี้ พบหารือกับผู้แทนระดับสูงจากสหประชาชาติ และผู้แทนระดับสูงประเทศต่าง ๆ เพื่อชี้แจงพัฒนาการชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งตนเองได้ยืนยันให้ทุกประเทศ และผู้แทนระดับสูงของสหประชาชาติได้รับทราบมาโดยตลอดการปฏิบัติภารกิจว่า การปะทะกันเมื่อช่วงเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม ฝ่ายกัมพูชา เป็นผู้เริ่มโจมตีก่อน พร้อมแสดงความกังวล ต่อการโจมตีในสถานที่ที่ไม่ใช่เป้าหมายทางทหาร เช่น โรงพยาบาล ปั๊มน้ำมัน และร้านสะดวกซื้อ ซึ่งสะท้อนการโจมตีพื้นที่พลเรือนไทย […]

องคมนตรีมอบสิ่งของพระราชทาน ศูนย์อพยพ จ.ศรีสะเกษ

ศรีสะเกษ 26 ก.ค.- สถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนศรีสะเกษ ดุเดือดกว่าทุกวัน ขณะองคมนตรีมอบสิ่งของพระราชทานแก่ประชาชนที่ศูนย์อพยพ นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรีเดินทางมายังที่พักอาศัยของผู้อพยพ จ.ศรีสะเกษ มอบสิ่งของพระราชทานให้กับประชาชน พร้อมแจ้งให้ทราบถึงกระแสความห่วงใย หลังทราบข่าวประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ทรงมีความห่วงใยประชาชนและไม่ประสงค์ที่จะเห็นมีการบาดเจ็บล้มตายเพิ่มอีก อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สถานการณ์ยังไม่เรียบร้อย ขอให้ประชาชนอยู่ในพื้นที่อพยพไปอีกสักระยะ ขณะเดียวกัน พยาบาลจากคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเฉลิมกาญจนา ให้บริการตรวจดูแลสุขภาพเบื้องต้นและปฏิบัติการทางจิตรฉรีญาพร้อมมอบสิ่งของให้กับผู้อพยพหลังต้องจากบ้านมาวันนี้เป็นวันที่ 3 แล้ว ซึ่งตามหลักบางรายอาจเกิดความเครียดสะสมขึ้นได้ ปกติแล้วบริเวณศูนย์อพยพแห่งนี้ซึ่งห่างจากชายแดนประมาณ 40 กิโลเมตร จะไม่ได้ยินเสียงปืนใหญ่ แต่วันนี้แม้จะอยู่ที่ศูนย์อพยพก็สามารถได้ยินเสียงปืนใหญ่ดังขึ้น ไม่น้อยกว่า 9 นัดแล้วในขณะนี้ -สำนักข่าวไทย

เชิญธงชาติไทยขึ้นสู่ยอด “ภูมะเขือ” กองทัพยึดคืนพื้นที่เบ็ดเสร็จ

26 ก.ค.- ธงชาติไทยโบกสะบัด! ปักยอด “ภูมะเขือ” หลังทหารไทยเปิดปฏิบัติการเข้าตียึดพื้นที่คืนจากฝ่ายกัมพูชาสำเร็จช่วงเย็นวานนี้ กองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ว่า เมื่อเวลา 09.20 น. ได้มีการเชิญธงชาติไทยขึ้นสู่ยอดภูมะเขือ หลังจากที่ทหารไทยได้เปิดปฏิบัติการเข้าตียึดพื้นที่ภูมะเขือ ซึ่งเป็นบริเวณที่ฝ่ายทหารกัมพูชาได้วางกำลังไว้อย่างหนาแน่น และสามารถยึดพื้นที่ได้สำเร็จเมื่อช่วงเย็นของเมื่อวานนี้ อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความพยายามจากฝ่ายกัมพูชาในการเข้าตีเพื่อแย่งยึดพื้นที่คืนอย่างต่อเนื่อง โดยได้มีการระดมยิงปืนใหญ่และเตรียมการจัดกำลังเข้าตีตอบโต้ฝ่ายไทย -สำนักข่าวไทย

นาวิกโยธินคุมพื้นที่ได้ทั้งหมด ตอบโต้ทหารกัมพูชาหนีกระเจิง

26 ก.ค.- เหตุปะทะชายแดนตราด ทหารนาวิกโยธิน ตอบโต้ทหารกัมพูชาหนีกระเจิง ถอยร่นออกจากพื้นที่อธิปไตยไทย ส่วนประชาชนอพยพไปที่ปลอดภัย เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 26 ก.ค.69 รายงานข่าวจากหน่วยความมั่นคงจังหวัดตราด เปิดเผยว่าถึงสถานการณ์ บริเวณบ้านชำราก จ.ตราด ทหารกัมพูชา ได้วางกำลังรุกล้ำเขตแดนไทย 3 จุดเปิดฉากยิงทหารไทย เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา โดยกำลังทหารนาวิกโยธิน ได้เปิดยุทธการ “ตราดพิฆาตไพรี1” จนสามารถควบคุมพื้นที่ได้ทั้งหมด ผลักดันกำลังทหารกัมพูชา ออกนอกพื้นที่ ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ส่วนประชาชนพื้นที่ อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด ได้อพยพไปพื้นที่ปลอดภัย ในอำเภอเมืองตราด ประมาณ 75 เปอร์เซนต์เมื่อวันที่ 24-25 ก.ค.68 -สำนักข่าวไทย