กอ.รมน.กทม.บุกจับบ่อนใหญ่ย่านตลิ่งชัน

กทม.5ก.ค.-กอ.รมน.กทม.บุกเข้าจับกุมบ่อนกลางกรุงย่านตลิ่งชันค่ำวานนี้(4ก.ค.)ได้ของกลาง อุปกรณ์การเล่นพนันจำนวนมาก-สมุดบัญชี-รายชื่อที่ต้องจ่าย แต่ไม่พบนักพนัน เหตุอยู่ซอยลึกมีคนดูต้นทาง


พ.อ.วิโรจน์ หนองบัวล่าง หัวหน้ากลุ่มงานข่าว กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน กทม. กล่าวว่า เมื่อวันที่ 4 ก.ค.62 เวลา 19.25 น.กอ.รมน.กทม.(ท.)ร่วมกับ กกล.รส.ทภ.1 โดย บก.ควบคุม ที่ 3 (พล.ร.9) นำกำลังเข้าตรวจค้นอาคารเลขที่783 ซอยสวนผัก 29 แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน โดยมีนายวิรัช คงจันทร์  เป็นเจ้าของบ้าน


ภายในอาคารพบห้องกว้างประมาณ 4×6 เมตร จำนวน1ห้อง ตรวจสอบพบโต๊ะพร้อมอุปกรณ์เล่นการพนัน จำนวน 1 โต๊ะ  บริเวณข้างเคียงพบศาลา ขนาดประมาณ 3×4 เมตร  ซึ่งศาลานี้ได้จัดให้มีการเล่นการพนันโดยพบโต๊ะพร้อมอุปกรณ์สำหรับการเล่นการพนัน เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพร้อมของกลางเป็นเครื่องเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดจำนวน 4 เครื่อง และจอมอนิเตอร์ จำนวน 5 จอ จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดย้อนหลังพบว่ามีการเปิดเล่นการพนันชนิดไฮโล ตั้งแต่ เม.ย.62 (เท่าที่ขีดความสามารถของกล้องที่บันทึกได้)  

ในการปฏิบัติการครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้เข้าจู่โจมควบคุมผู้ที่ดูต้นทาง ซึ่งเป็นลานจอดรถ มีรถนักเล่นการพนันจอด38 คน ในเวลา19.25 น.แต่เนื่องจาก บ่อนดังกล่าวอยู่ในชุมชน การเข้าถึงบ่อนจะต้องเดินผ่านสะพานคนเดินของชุมชน กว้าง1.5 เมตร ระยะทางประมาณ200 เมตร ทำให้นักการพนัน แยกย้าย กระจายกันไปตามสถานที่ต่างๆ ในชุมชน ในเวลา 19.27 น. 


จากการตรวจสอบในกล้องมีนักเล่นการพนันกำลังเล่น ก่อนการเข้าจับกุม ทั้ง2 โต๊ะ ประมาณ 30 คน ตรวจสอบสมุดบันทึก รายรับ–รายจ่าย พบว่ามีการทำบัญชี ตั้งแต่ 20 เม.ย.62เฉลี่ยแต่ละวันมีรายรับ–รายจ่าย ดังนี้ 

1. รายรับ/วัน

– ค่าเก็บต๋ง (ค่าน้ำ) เฉลี่ยวันละ 125,000.-บาท

– ค่าทองคำ เฉลี่ยวันละ 160,000.-บาท

        รวมรายได้วันละ 285,000.-บาท

2. รายจ่าย

– ค่าเช่าบ้าน เฉลี่ยวันละ 60,000.-บาท

– ค่าแรงคนงาน เฉลี่ยวันละ 20,000.-บาท

– ค่าเบ็ดเตล็ดต่างๆ เฉลี่ยวันละ10,000.-บาท

– อาหาร + เครื่องดื่ม (ฟรี) เฉลี่ยวันละ 2,700.-บาท

– ค่าลูกเต๋า เฉลี่ยวันละ 700.-บาท

รวมรายจ่ายต่อวัน 93,400.-บาท

3. รายได้คงเหลือขั้นต้น (2–1)ต่อวัน 191,600.-บาท 

ต่อเดือน 5,748,000.-บาท

4. ตรวจพบว่าในเดือน มิ.ย.62 มีรายการจ่ายที่บันทึกลงในสมุด (คาดว่า เป็นเงินที่จ่ายในลักษณะส่วย และค่าใช้จ่ายอื่น เช่น เล่นแชร์, เงินกู้ยืมฯลฯ) เป็นเงิน 4,441,000.-บาท โดยมีรายการที่น่าสนใจ ดังนี้

– สารวัตรตู่ 71,000.-บาท

– สารวัตรเอก 100,000.-บาท

– นายกกุ้ง 40,000.-บาท

– จ่าตี๋ 150,000.-บาท

สำหรับเดือน ก.ค.62 มีรายจ่ายที่ทราบตั้งแต่ 29 มิ.ย. – 4 ก.ค. (คือวันเข้าตรวจค้น) จำนวน 1,575,000.-บาท ดังนี้

29มิ.ย.62 ตือบางกะปิ 300,000.-บาท

3 ก.ค.62 ยุทธ ชลบุรี 125,000.-บาท

3 ก.ค.62 พี่บัง 100,000.-บาท

4 ก.ค.62 พี่สุทธิ์ 300,000.-บาท

4 ก.ค.62 พี่ชุปอยู่กับโกเฮง 500,000.-บาท

4 ก.ค.62 ตี่หนึ่ง 100,000.-บาท

4 ก.ค.62 ป๋าตึง 100,000.-บาท

4 ก.ค.62 เฮียจั้ว 50,000.-บาท

รวม  1,575,000.-บาท 

จากการสอบถามนายวิชัย คงจันทร์  ให้การว่าบ่อนนี้เพิ่งเปิดให้บริการแค่ 4 วัน แต่จากหลักฐานในสมุดหมุนเวียนเงิน ซึ่งมีการเปิดบริการมาแล้วอย่างต่อเนื่อง  ประกอบกับมียอดเงินหมุนเวียนในบัญชีค่อนข้างสูงกว่ากายภาพของบ่อนแหล่งนี้ เจ้าหน้าที่จึงได้มีการขยายผลหาแหล่งที่มา   ของเงินที่มีการหมุนเวียนในสมุดบันทึก 

โดยเวลาประมาณ 21.17น. ได้ขยายผลการจับกุมโดยได้เข้าตรวจค้นอาคารไม่ทราบเลขที่ ซึ่งอยู่ห่างจากอาคารที่ถูกตรวจค้นก่อนหน้านี้ ประมาณ 1 กม. ลักษณะด้านนอกล้อมด้วยสังกะสี ตามข่าวที่สถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งได้เสนอเมื่อ  29 มิ.ย.62 เมื่อผ่านรั้วสังกะสีเข้าไปเป็นพื้นที่จอดรถกว้างหลายไร่ จอดรถได้ 400 – 500 คัน 

จากนั้นได้เข้าไปรั้วชั้นที่ 2 พบอาคาร 2 หลัง ซึ่งอาคารทั้ง 2 หลังนี้เคยถูกใช้เป็นบ่อนการพนันมาก่อน (เป็นบ่อนที่เคยจะเข้าจับกุม เมื่อ 28 มิ.ย.62 แต่ข่าวรั่วบ่อนรู้ตัวก่อน) มีรายละเอียดดังนี้

1.อาคารหลังที่1ภายในอาคารพบห้องโถงสำหรับเล่นการพนัน 2 ห้อง แบ่ง เป็นขนาด7×9 จำนวน1ห้องและขนาด 9×9 อีก 1 ห้อง ทั้ง 2 ห้องมีร่องรอยว่าเคยเปิดเล่นการพนัน  โดยยังมีเชือกผูกฝาครอบลูกเต๋าห้อยอยู่และยังพบห้องเก็บอุปกรณ์สำหรับเล่นการพนัน1ห้อง มีอุปกรณ์การพนันบางส่วนที่ยังเหลืออยู่ (ขนย้ายไปไม่หมด) ส่วนอีก1 ห้อง พบตู้เกมส์สล็อต 2 ตู้, ตู้เกมส์ยิงปลาอีก 1 ตู้

2.อาคารหลังที่2 ภายในอาคารเป็นห้องโถงใหญ่ขนาด 12×12 พบโต๊ะ สนุ๊กจำนวน 1 โต๊ะ สามารถดัดแปลงเป็นโต๊ะเล่นพนันได้

ผลการปฏิบัติ จากการตรวจค้นและขยายผล ทั้ง 2 เป้าหมาย เปิดเป็นบ่อนการพนัน  โดยบ่อนแรก ยังคงเปิดให้บริการ  โดยมีนักพนันเดินทางมาเล่นพนันอยู่ ส่วนเป้าหมายที่2ที่ขยายผลพบเป็นสถานที่ที่เคยเปิดเล่นการพนันแต่เนื่องจากมีการเสนอข่าวเมื่อ29 มิ.ย.62 จึงปิดชั่วคราวและย้ายอุปกรณ์มาเล่นที่เป้าหมาย 1 แต่คาดว่าน่าจะมีการกลับมาเปิดให้บริการอีก เมื่อสถานการณ์ได้คลี่คลายลง

โดยในการเข้าจับกุมครั้งนี้ไม่สามารถจับกุมนักพนันได้ ส่วนของกลางทั้งหมดได้ทำการยึดและรวบรวมไว้พร้อมทำลายโต๊ะสำหรับการใช้เล่นการพนันทิ้งเพื่อไม่ให้มีการเปิดให้บริการอีก 

สำหรับ (นายวิรัช คงจันทร์) กอ.รมน.กทม.(ท.)จะเชิญตัวมาพบเพื่อขยายผลต่อไป ซึ่งจากการสอบถามอ้างว่าที่ดินแปลงนี้เป็นของตนเอง เนื้อที่ 84 ตร.วา ตนเองเป็นเพียงผู้ให้เช่าที่ดินเท่านั้น สัญญาเช่าได้ทำหาย ซึ่ง กอ.รมน.กทม.จะแจ้งให้สำนักงานเขตตลิ่งชัน ไปตรวจสอบการก่อสร้างอาคารของทั้ง 2 เป้าหมายต่อไป .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย

ล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ถอยหนีชนดะ

ขอนแก่น 3 มิ.ย. – ระทึก ผู้ต้องหาถอยรถหนี ชนจยย.สายตำรวจ ขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ก่อนจนมุมรถไถลข้ามเลนพลิกตะแคง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพรถยนต์สีขาวจอดคุยกับชายคนหนึ่งที่ยืนริมถนนกสิกรทุ่งสร้าง หน้าตลาดจอมพล เขตเทศบาลนครขอนแก่น ทันใดนั้น รถคันดังกล่าวก็ถอยหลังอย่างรวดเร็ว พุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่ขี่อยู่ด้านหลังล้ม 2 คัน และพยายามเร่งเครื่องหลบหนีจนไปชนกับรถคันอื่นอย่างแรง แล้วไถลข้ามเลนพลิกตะแคงอยู่ข้างทาง เมื่อเวลา 22.45 น. วานนี้ (2 มิ.ย.) คนขับปีนออกจากหน้าต่าง มีท่าทีขัดขืน แต่สุดท้ายก็ยอมออกมาจากรถ หลังจากนั้นตำรวจพาเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม และมีชายอีกคนออกมาจากหน้าเป็นรายที่สอง ตำรวจจึงควบคุมตัวที่ข้างทาง ต่อมา รถกู้ชีพมาถึงที่เกิดเหตุและทำการปฐมพยาบาลทั้งชายสองคนและสายลับที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ภายในรถมีบุหรี่ไฟฟ้าวางอยู่ ก่อนจะคุมตัวขึ้นรถกระบะไป สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.พรศักดิ์ งานดี ผู้กำกับการตำรวจสืบสวนจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า นายอนุพงษ์ อายุ 35 ปี เป็นคนขายบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนนายณัฐพล อายุ 37 ปี เป็นคนขับรถยนต์คันที่เกิดเหตุ มีพฤติกรรมลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านเฟซบุ๊กให้กับลูกค้าทั่วไปที่สั่งซื้อ จึงวางแผนล่อซื้อ […]

ทรงพระเจริญ

ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี ร่วมแปรอักษร แสดงพลังความจงรักภักดี

สงขลา 2 มิ.ย. – จังหวัดสงขลา จัดกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” ประชาชนกว่า 5,000 คน ร่วมแปรอักษร “ทรงพระเจริญ คนสงขลารักพระราชินีฯ” แสดงพลังความจงรักภักดีอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 วันนี้ 2 มิถุนายน 2568 เวลา 16.30 น. ที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางปวีณ์ริศา เกิดสม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา นำคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวสงขลากว่า 5,000 คน ร่วมกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ย้ำรัฐบาลยึดหลักอธิปไตย-ประโยชน์สูงสุดของประเทศ

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – นายกฯ ย้ำรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ วันนี้ (4 มิ.ย.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์เรื่องสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ “ดิฉันขอย้ำอีกครั้งว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และได้บูรณาการการทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานความมั่นคง เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างรอบด้าน” นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า เรารวบรวมข้อมูลจากทั้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ภาพแผนที่จากเทคโนโลยีและการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนพิจารณาอย่างเคร่งครัดภายใต้หลักกฎหมายระหว่างประเทศ โดยมีเป้าหมายคือการปกป้องอธิปไตยของชาติและผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ หากมีความคืบหน้า รัฐบาลจะมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดเป็นระยะ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและรอบด้านต่อไป.-314-สำนักข่าวไทย

ม็อบรถบัส 2 ชั้น ขู่บุกกรุง ค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า

ตรัง 4 มิ.ย. – ม็อบรถบัส 2 ชั้น ชุมนุมคัดค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า อ้างไม่ชอบ กม.-เส้นทางไม่เข้าหลักเกณฑ์กำหนด ขู่เคลื่อนขบวนพันคันบุกกรุง หากไม่ได้รับแก้ไข บริเวณอันดามันเกตเวย์ บนเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 เขาพับผ้า เครือข่ายผู้ประกอบการรถบัส 2 ชั้น ในนามสมาคมรถโดยสารสองชั้นไทย กว่า 100 คัน พร้อมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ราว 200 คน ชุมนุมคัดค้านคำสั่ง กรมการขนส่งทางบกที่ห้ามรถบัส 2 ชั้นใช้เส้นทาง 7 แห่งทั่วประเทศ การชุมนุมครั้งนี้ เป็นการรวมตัวของผู้ประกอบการจากทั้งภาคใต้ ภาคกลาง และภาคตะวันออก เพื่อประท้วงคำสั่งที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.68 สำหรับรถทัวร์ และวันที่ 1 มิ.ย.68 สำหรับรถประจำทาง โดยชูป้ายข้อความต่างๆ รวมถึงการเรียกร้องให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและอธิบดีกรมการขนส่งทางบกลาออกจากตำแหน่ง นายสุริยะ แกล้วทนงค์ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารสองชั้นไทย เปิดเผยว่า การสำรวจเส้นทางเขาพับผ้า พบว่าไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่ต้องประกาศห้าม เนื่องจากมีความลาดชัน 8% […]

หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้า กลับลำ ยันไม่มีคนในชี้เป้า

กทม. 4 มิ.ย. – คุมตัว “แบงค์” หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลางกรมศุลฯ ทำแผน เจ้าตัวกลับลำอ้างลงมือครั้งแรก ไม่มีใครชี้เป้า ปัดเจตนาชน รปภ.ดับ กลางดึกที่ผ่านมาตำรวจ สน.ท่าเรือ พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ กว่า 20 นาย ควบคุม 5 ผู้ต้องหาแก๊งปล้นบุหรี่ไฟฟ้า ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณ ตู้คอนเทนเนอร์ ในโกดังสเตเตียม ถนนท่าเรือ 1 เขตคลองเตย จากนั้นในช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คนไปฝากขังผัดแรกที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ส่วนนายแบงค์ หัวโจก พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพอย่างเงียบๆ เพราะเกรงว่านายแบงค์จะถูกญาติ รภป. ผู้เสียชีวิต รุมประชาทัณฑ์ ภายหลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้นแล้ว พนักงานสอบสวนได้คุมตัวนายแบงค์กลับมา คุมขังที่ สน.ท่าเรือ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ผู้สื่อข่าวได้พยายามซักถามว่านายแบงค์ก่อเหตุมาแล้วกี่ครั้ง นายแบงค์ อ้างว่าก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้ามาเพียงครั้งเดียว ส่วนนำไปขายใครนั้น นายแบงค์ไม่ตอบ และยืนยันว่าการก่อเหตุนี้ ไม่มีคนในมาชี้เป้า เพราะบริเวณนั้นใครก็รู้ว่าเป็นพื้นที่เก็บสินค้าที่ต้องการทำลาย พร้อมยกมือไหว้ขอโทษครอบครัว รปภ.ที่เสียชีวิต และยอมรับว่าตนเองไม่ได้ตั้งใจถอยรถชน […]

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ชายแดนติดตามสถานการณ์ไทย-กัมพูชา

อุบลราชธานี 4 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำกองทัพไม่ขัดแย้งรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ลงพื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเกิดกรณีการปะทะกันที่ช่องบก โดยระบุว่า การมาครั้งนี้ตั้งใจมาให้กำลังใจกำลังพลที่อยู่แนวหน้า ซึ่งกำลังเตรียมความพร้อมในการดูแลและป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น รวมถึงดูพื้นที่จริง ซึ่งเบื้องต้นพบว่า ข่าวทหารกัมพูชาวางกับระเบิดเป็นของเก่า เวลานี้เรากำลังใช้ทางออกที่โลกอยากเห็น และเรายังไม่ได้เสียอธิปไตยตรงไหนไป สิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละจุด เราอยากให้มันค่อยๆ คลายไป เรากำลังใช้มาตรการทางการทูตเชิงรุก เริ่มต้นจากเล็กไปหาใหญ่ และมาตรการต่างๆ ที่จะมีเพิ่มขึ้น เราตกลงกันแล้วว่า จะคุยด้วยกันตลอด ไม่ได้มีปัญหาอะไร มันไม่ได้ถึงขั้นนั้น เพราะยังไม่มีอะไร เราคำนึงถึงชีวิตของพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน เราจะใช้กระบวนการสันติวิธีให้ถึงที่สุด ถ้ามีอะไรเกินเลย ฝ่ายที่อยู่แนวหน้าจะต้องแจ้งเรา ซึ่งจะดำเนินการโดยทันทีทันใด ยืนยันกองทัพกับฝ่ายการเมืองไม่มีปัญหากัน .-สำนักข่าวไทย