กรุงเทพฯ 4 ก.ค. – สสว.เผยดัชนีความเชื่อมั่นเอสเอ็มอี พ.ค.ปรับตัวลดลง เหตุยอดขาย-กำไรลดลง กังวลปัญหาการเมือง-สงครามการค้า-เงินบาทแข็งค่า
สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (สสว.) เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการภาคการค้าและบริการ (TSSI) เดือนพฤษภาคม 2562 พบว่าดัชนีฯ อยู่ที่ระดับ 87.2 ปรับตัวลดลงจากเดือนเมษายน 2562 ที่อยู่ระดับ 100 สะท้อนถึงผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นต่อการดำเนินธุรกิจหดตัวลงและยังคงระมัดระวังการใช้จ่าย จากยอดขายและกำไรปรับตัวลดลงมาก ขณะที่การเมืองยังไม่ชัดเจนและยังไม่สามารถดำเนินนโยบายต่าง ๆ ได้ ส่วนสงครามทางค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ยังบั่นทอนการส่งออกไทย รวมทั้งกำลังซื้อของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เกิดจากการแข็งค่าของเงินบาทอย่างต่อเนื่อง และบางพื้นที่เริ่มประสบปัญหาภัยแล้ง ส่งผลกระทบต่อผลิตทางการเกษตร และกำลังซื้อภาคการเกษตรที่มีอยู่น้อยให้น้อยลงไปอีก
ทั้งนี้ จำแนกตามสาขาธุรกิจ พบว่า สาขาธุรกิจส่วนใหญ่มีความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์ทางธุรกิจโดยรวมลดลง คือ ค่าดัชนีปรับตัวลดลงและมีค่าน้อยกว่าค่าฐานที่ 100 จะมีเพียงสาขาธุรกิจค้าส่งสินค้าเกษตร วัสดุก่อสร้าง และค้าปลีกรถยนต์/รถจักรยานยนต์ ที่ผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น แต่ค่าดัชนีความเชื่อมั่นยังคงอยู่ต่ำกว่าค่าฐานที่ 100
ส่วนดัชนี TSSI คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า ความเชื่อมั่นปรับตัวลดลงอยู่ที่ระดับ 100.8 ผู้ประกอบการมีความเห็นว่าอีก 3 เดือนข้างหน้าจะขายสินค้าและบริการ รวมถึงมีกำไรลดลงเมื่อเทียบกับเดือนนี้ เนื่องจากเดือนสิงหาคม 2562 อยู่ในช่วงมรสุมพัดผ่านประเทศไทยโดยทั่วกัน อาจก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในหลายพื้นที่ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการคมนาคมขนส่ง และการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัจจัยเกื้อหนุนในการกระตุ้นการใช้จ่ายในช่วงเดือนสิงหาคม คือ วันแม่แห่งชาติ ซึ่งเป็นวันหยุดติดต่อกัน และมักจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปท่องเที่ยวสูงกว่าปกติ อีกทั้งภาครัฐและเอกชนมักมีการจัดกิจกรรมเกี่ยวกับวันแม่ ซึ่งอาจช่วยกระตุ้นการบริโภคได้บางส่วน
ส่วนปัญหาที่ผู้ประกอบการต้องการเร่งให้แก้ไข 5 อันดับแรก ได้แก่ 1. ราคาสาธารณูปโภคสูงขึ้น 2. ค่าวัตถุดิบในการประกอบการที่สูงขึ้น 3. ราคาเชื้อเพลิงสูงขึ้น 4. ค่าจ้างแรงงานสูงขึ้น และ 5. ค่าขนส่งสูงขึ้น.-สำนักข่าวไทย