ญาติหญิงชราเหยื่อข่มขืนให้การเพิ่ม ยืนยันเอาเรื่องผู้ก่อเหตุถึงที่สุด

ตรัง 3 ก.ค.- ญาติหญิงชราวัย 89 ปีที่ตรัง ยันเอาเรื่องถึงที่สุด กรณีชายเพื่อนบ้านวัย 71 ปี บุกทำร้ายและข่มขืนหญิงชราวัย 89 ปี จนสำเร็จความใคร่ โดยก่อนหน้าถูกญาติรุมทำร้ายด้วยความโกรธ


ความคืบหน้ากรณีนายหมาด อายุ 71 ปี ถูกญาติของผู้เสียหายวัย 89 ปี รุมทำร้ายจนต้องหามส่งโรงพยาบาล หลังจากที่นายหมาด บุกเข้าไปต่อยที่ท้องของผู้เสียหาย ซึ่งเป็นเพื่อนบ้าน บ้านอยู่ติดกัน ก่อนจะลงมือข่มขืน โดยขณะเกิดเหตุมีบุตรสาวของผู้ก่อเหตุนั่งล้างจานอยู่หลังบ้าน


หลังเกิดเหตุ ญาติของผู้เสียหายและบุตรสาวของผู้ก่อเหตุพาตัวผู้เสียหายวัย 89 ปี ไปตรวจร่างกาย พร้อมกับแจ้งความที่ สภ.ปะเหลียน ซึ่งเมื่อญาติๆ ของผู้เสียหายทราบข่าวจึงเข้ามารุมทำร้ายผู้ก่อเหตุจนต้องหามส่งโรงพยาบาลในสภาพบอบช้ำ เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาข่มขืนและกระทำชำเราหญิงอื่นที่ไม่ใช่ภรรยา โดยผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพ ขณะที่ผู้เสียหายมีอาการทรุดลงหลังถูกข่มขืน


เช้าวันนี้ (3 ก.ค) ตำรวจ สภ.ปะเหลียน เชิญตัวบุตรสาวของผู้ก่อเหตุที่เห็นเหตุการณ์บางช่วง พร้อมด้วยลูกสาวของผู้เสียหาย มาสอบปากคำเพิ่มเติม ขณะที่หลานสาวของผู้เสียหายและเป็นคนทำร้ายร่างกายผู้ก่อเหตุ ชี้จุดที่เกิดเหตุซึ่งเป็นแคร่สูงจากพื้นดินเพียงนิดหน่อย อยู่บริเวณหน้าบ้านชั้นเดียวครึ่งปูนครึ่งไม้ พร้อมกล่าวว่า รับไม่ได้กับสิ่งที่เขาทำ จึงบันดาลโทสะ ใช้ด้ามไม้กวาดฟาดเข้าไป 4-5 ครั้ง ก็อยากฝากไปถึงตำรวจให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ส่วนผู้เสียหายในขณะนี้หลังจากเกิดเหตุมีอาการอาเจียนตลอดเวลา และกินข้าวไม่ได้ จนต้องหามส่งโรงพยาบาลอีกรอบ ขณะที่ชาวบ้านรายหนึ่งเปิดเผยว่า เคยมีคนในพื้นที่ถูกผู้ก่อเหตุลวนลามมาแล้วหลายราย.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย