สมอ.กำหนดมาตรฐานบังคับกระจก 4 ชนิด

กรุงเทพฯ 3 ก.ค. – สมอ.กำหนดมาตรฐานบังคับกระจก 4 ชนิด “กระจกโฟลตใส กระจกโฟลตสีตัดแสง กระจกเทมเปอร์ กระจกนิรภัยหลายชั้น” เพิ่มการดูแลความปลอดภัยในการใช้งาน


นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ปัจจุบันผลิตภัณฑ์กระจกมีการนำไปใช้งานในการก่อสร้างและประดับตกแต่งทั้งภายในและภายนอกอาคาร บ้านพักอาศัย     คอนโดมีเนียม อาคารสำนักงาน ร้านค้าทั่วไป ห้องแสดงสินค้า และเป็นส่วนประกอบในการผลิตประตู หน้าต่าง รวมทั้งนิยมนำไปใช้เป็นโครงสร้างผนังกระจกสูงขนาดใหญ่ตามอาคารต่าง ๆ จำนวนมากในปัจจุบัน

สำหรับผลิตภัณฑ์กระจกโฟลตใส มอก. 880-2560  และกระจกโฟลตสีตัดแสง มอก. 1344-2560  เป็นผลิตภัณฑ์ที่ สมอ.กำหนดเป็นมาตรฐานบังคับอยู่ก่อนแล้ว และมีการปรับมาตรฐานอีกครั้ง เพื่อให้มีความทันสมัยเหมาะสมกับเทคโนโลยีและการใช้งานปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังได้กำหนดมาตรฐานในกลุ่มกระจกจากเดิมเป็นมาตรฐานทั่วไปกำหนดใหม่เป็นมาตรฐานบังคับเพิ่มเติมอีก 2 มาตรฐาน ได้แก่ มาตรฐานกระจกเทมเปอร์  มอก. 965-2560 และมาตรฐานกระจกนิรภัยหลายชั้น มอก.1222-2560 โดยคำนึงถึงความปลอดภัยในการใช้งานของผู้บริโภคเป็นสำคัญ ได้แก่ กระจกจะต้องมีความแข็งแรงทนต่อแรงกระแทก ทนแสง ทนความร้อน และเมื่อแตกจะต้องไม่ก่อให้เกิดอันตราย โดยกระจกเทมเปอร์เมื่อแตกจะแตกออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ ส่วนกระจกนิรภัยเมื่อแตกจะติดกับแผ่นฟิล์มทำหน้าที่ยึดเกาะกระจกที่แตกไม่ให้หลุดร่วง 


ทั้งนี้ คณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (กมอ.) มีมติเห็นชอบกำหนดมาตรฐานกระจกทั้ง 4 ชนิด ให้เป็นมาตรฐานบังคับ และประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อเดือนเมษายน 2562 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้เมื่อพ้นกำหนด 365 วันนับแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป โดยมาตรฐานกระจกโฟลตใส และกระจกโฟลตสีตัดแสง มีผลบังคับใช้วันที่ 5 เมษายน 2563 ส่วนมาตรฐานกระจกเทมเปอร์ และมาตรฐานกระจกนิรภัยหลายชั้น มีผลบังคับใช้วันที่ 4 เมษายน 2563 จึงขอแจ้งเตือนไปยังผู้ประกอบการทั้งผู้ทำและผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์ให้รีบดำเนินการตามมาตรฐานดังกล่าว หากตรวจพบการกระทำผิดจะดำเนินการตามกฎหมายทันที

เลขาธิการ สมอ. กล่าวเพิ่มเติมว่าในการกำหนด แก้ไข ปรับปรุงมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมต่างๆ นั้นเป็นไปเพื่อให้มาตรฐานมีความทันสมัยและสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน รวมถึงให้ผลิตภัณฑ์นั้นมีคุณภาพที่ดีขึ้นตามการพัฒนาทางเทคโนโลยีที่มีความก้าวหน้าขึ้น เพื่อส่งเสริมคุณภาพผลิตภัณฑ์ที่ผลิตภายใน ประเทศ รวมทั้งคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความปลอดภัยจากการใช้งาน จึงขอฝากถึงผู้บริโภคให้เลือกซื้อสินค้าที่แสดงเครื่องหมายมาตรฐาน ซึ่งติดอยู่บนตัวสินค้า จึงจะมั่นใจได้ว่าสินค้ามีความปลอดภัยในการใช้งาน ทั้งนี้ สมอ. ขอเชิญชวนให้ติดตามข่าวสารด้านการมาตรฐานจาก สมอ. ได้ที่ www.tisi.go.th และ www.facebook.com /tisiofficial.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย