ยกศาสตร์พระราชาฯ พัฒนาเกษตรอย่างยั่งยืน

อิตาลี 30 มิ.ย. –  รมว.เกษตรฯ ขึ้นเวที FAO ยกศาสตร์พระราชาในหลวงรัชกาลที่ 9 และ 10 พัฒนาเกษตรยั่งยืน ขจัดความยากจน 


นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เข้าร่วมประชุมสมัชชาใหญ่ องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ 2019 (FAO Conference 2019) ที่สำนักงานใหญ่ FAO กรุงโรม ประเทศอิตาลี โดยกล่าวถ้อยแถลงถึงนโยบายของรัฐบาลไทยที่น้อมนำศาสตร์พระราชาพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 และพระบรมราโชบาย พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 มาพัฒนาภาคการเกษตร โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินโครงการต่าง ๆ ทั้งสร้างความมั่นคงทางอาหาร การพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน การขจัดปัญหาความยากจนอย่างเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎรในชนบท รวมทั้งการแก้ไขปัญหาการอพยพย้ายถิ่นอย่างเต็มที่


ในการประชุม FAO ครั้งนี้ให้ความสำคัญต่อปัญหาการอพยพย้ายถิ่นที่เกี่ยวเนื่องกับภาคการเกษตร ซึ่งรัฐมนตรีเกษตรฯ กล่าวบนเวทีว่า ปัญหาการอพยพย้ายถิ่นฐานมีสาเหตุทั้งจากปัญหาทางเศรษฐกิจ การเมือง สังคม และสภาพแวดล้อมในอดีตเมื่อ 30 ปีก่อนประเทศไทยเคยเผชิญปัญหาผู้อพยพจากประเทศเพื่อนบ้านที่มีปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองและสงครามอินโดจีน ทำให้ไทยต้องดูแลเลี้ยงดูผู้อพยพจำนวนนับแสนคน แต่ประเทศไทยได้รับความช่วยเหลือจากองค์การข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) รวมถึงมิตรประเทศต่าง ๆ เข้ามาช่วยเหลือเพื่อนำผู้ลี้ภัยเหล่านั้นไปตั้งถิ่นฐานในประเทศที่ 3

รัฐมนตรีเกษตรฯ กล่าวว่า ปัจจุบันปัญหาการอพยพย้ายถิ่นฐานมีสาเหตุจากปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคม โดยเฉพาะแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านที่อพยพเข้ามาหางานทำในไทย หวังพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้นประกอบด้วยแรงงานภาคเกษตร ภาคอุตสาหกรรม และภาคบริการ ทั้งนี้ รัฐบาลไทยดูแลคนแรงงานต่างชาติตามหลักมนุษยธรรม โดยแก้ไขปัญหาหลบหนีเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย ด้วยการขึ้นทะเบียนและอนุญาตให้แรงงานต่างด้าวสามารถประกอบอาชีพในประเทศไทยได้อย่างถูกต้อง ตั้งแต่ พ.ศ.2558 ไทยปรับเปลี่ยนโครงสร้างที่สำคัญในการแก้ไขปัญหาการประมงที่ผิดกฎหมาย ไร้การรายงาน และไร้การควบคุม (IUU) และปัญหาแรงงานในอุตสาหกรรมประมง ทั้งนี้ จากนโยบายด้านแรงงาน ประเทศไทยยังผ่อนปรนให้สิทธิในการมีถิ่นที่อยู่ถาวรแก่บุคคลต่างด้าว ซึ่งอาศัยในประเทศไทยไม่น้อยกว่า 30 ปี และประสงค์ที่จะทำงานในประเทศไทย รวมทั้งบุตรหลานที่เกิดในประเทศไทยให้ได้รับสิทธิการถือสัญชาติไทย สิทธิในการศึกษา และการรักษาพยาบาลเช่นเดียวกับประชาชนไทย ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวนั้นองค์กรสหประชาชาติและ องค์กรพัฒนาเอกชน (NGOs) เข้ามามีส่วนร่วมกับรัฐบาลไทยในการแก้ไขปัญหาจนมีความก้าวหน้าอย่างมาก 

รัฐมนตรีเกษตรฯ กล่าวย้ำต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่ FAO ว่า รัฐบาลไทยให้ความสำคัญต่อแก้ไขปัญหาการประมง IUU ซึ่งไทยขอขอบคุณ FAO สหภาพยุโรป (EU) และองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ที่ให้ความช่วยเหลือทางวิชาการในการแก้ไขปัญหา IUU และปัญหาการค้ามนุษย์และการกดขี่แรงงานในอุตสาหกรรมประมง


นอกจากนี้ ประเทศไทยได้ดำเนินงานร่วมกับสมัชชาความร่วมมือทรัพยากรดินโลกและ FAO เพื่อขับเคลื่อนงานด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติทั้งดินและน้ำ การอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากความหลากหลายทางชีวภาพเพื่อสร้างความมั่นคงอาหารและการพัฒนาเกษตรอย่างยั่งยืน รัฐบาลไทยยืนยันว่าจะขับเคลื่อนวาระการพัฒนาทรัพยากรดินอย่างเต็มที่ เพื่อให้สามารถจัดตั้งเป็นองค์กรถาวรภายใต้ธรรมนูญของ FAO ต่อไป สำหรับแนวทางการพัฒนาชนบทและภาคเกษตรกรรมซึ่งรัฐบาลไทยให้ความสำคัญอย่างยิ่งนั้นจะนำมาซึ่งการสร้างงาน สร้างโอกาส สร้างอาชีพให้แก่เกษตรกรที่ปัจจุบันคนรุ่นหนุ่มสาวสนใจมากขึ้น ตลอดจนสนับสนุนการสร้างรายได้แก่ผู้หญิงในชนบท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การพัฒนาชนบทและการแก้ไขปัญหาการอพยพย้ายถิ่นฐานของไทย

ในโอกาสนี้รัฐมนตรีเกษตรฯ เข้าพบหารือกับนายโฮเซ กราเซียโน ดาซิลวา ผู้อำนวยการใหญ่ FAO คนปัจจุบัน ชาวบราซิลซึ่งดำรงตำแหน่งมา 2 สมัยเป็นเวลานานกว่า 8 ปี ทั้งนี้ผู้อำนวยการใหญ่ FAO ได้สนับสนุนผลักดันโครงการและแผนงานของประเทศไทยต่างๆ ของไทยมาตลอดได้แก่ สนับสนุนการประกาศกำหนดให้ทุกวันที่ 5 ธันวาคมของทุกปีเป็น “วันดินโลก” ร่วมผลักดันให้มีการจัดตั้งและมอบรางวัลคิงภูมิพลวันดินโลก อีกทั้งขอบคุณ FAO ที่สนับสนุนและร่วมมือทางวิชาการกับไทยในการแก้ไขปัญหาประมง IUU ด้วย

ในการประชุมสมัชชาใหญ่ FAO 2019 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทยได้ร่วมลงคะแนนเลือกตั้งผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO Director General) คนใหม่ ซึ่งมีประเทศสมาชิก 191 ประเทศ จากทั้งหมด 194 ประเทศเข้าร่วมการเลือกตั้งผู้อำนวยการใหญ่ในครั้งนี้ ผลปรากฏว่านายฉู ดองหยู ผู้สมัครของจีนได้รับชัยชนะการเลือกตั้งในที่ประชุมสมัชชาใหญ่ของ FAO โดยได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนด้วยเสียงข้างมาก 108 คะแนน จาก 191 ประเทศที่เข้าร่วมประชุม โดยผู้สมัครจากฝรั่งเศส ได้ 71 คะแนน และจอร์เจีย ได้ 12 คะแนน และงดออกเสียง 1 ประเทศ จากนั้นรัฐมนตรีเกษตรฯ ไทยได้กล่าวแสดงความยินดีกับนายฉู ดองหยู ผู้อำนวยการใหญ่เอฟเอโอคนใหม่ ในนามกลุ่มประเทศเอเชีย ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยทำหน้าที่ประธานกลุ่มเอเชียใน FAO.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระดูกเทียมไทเทเนียม นวัตกรรมไทยช่วยทหารกล้าชายแดน

กรุงเทพฯ 16 ส.ค.-สินค้า IP ไทยสุดเลิศ ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อยอดส่งออกสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยในระยะยาว นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับบริษัท เมติคูลี่ จำกัด ผู้ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผู้ป่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จำนวน 4 ราย ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าตามลำดับ เพื่อให้ทหารกล้าของไทยฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยเร็ว “ความร่วมมือครั้งนี้ เริ่มจากกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีเยี่ยมผู้ประสบภัย ชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2568 จากนั้นได้ประสานกับ เมติคูลี่ ซึ่งได้รับเลือกจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ให้เป็น IP Champion ในสาขาสิทธิบัตรการประดิษฐ์ประจำปีนี้ มอบแผ่นปิดกะโหลกเทียมไทเทเนียมออกแบบเฉพาะบุคคล และกระดูก มือเทียมไทเทเนียมเฉพาะบุคคลให้ทางโรงพยาบาลเพื่อให้นายทหารที่ผ่านการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ 3 ราย และผ่าตัดข้อมือ 1 ราย ได้รับการรักษาที่มีความแม่นยำสูง ด้วยการออกแบบกระดูกที่มีขนาดจำเพาะกับสรีระผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยฟื้นฟูร่างกายได้ดีขึ้น และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติ โดยกระทรวงฯ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2” […]

“นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก

กทม.16 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เผย “นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก สั่งการเร่งขยายผลต่อเนื่อง พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ว่าจากการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด ในวันนี้ทางจังหวัดนราธิวาสร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ได้มีการแกะรอย และตรวจค้นรถกระบะที่มีการลักลอบขนส่งยาเสพติด บริเวณอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส สามารถตรวจจับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ซุกซ่อนอยู่ในรถกระบะขนผัก จำนวน 30 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 900 กิโลกรัม และได้ทำการควบคุมตัวตัวผู้ต้องหาไว้ได้แล้ว นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามการดำเนินงานและร่วมแถลงผลการจับกุมในวันที่ 16 ส.ค.นอกจากนี้ยังได้ให้กำลังใจผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด ไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านที่ทำหน้าที่อย่างเข้มข้น ตั้งใจ จนสามารถจับกุมกรณีการลักลอบขนส่งยาเสพติดล็อตใหญ่นี้ได้ และได้ให้ติดตามเพื่อขยายผลการจับกุมต่อไป.-319.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียน-ปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียน รับเงินช่วยเหลือ

ทำเนียบฯ 16 ส.ค. – รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียนปีการผลิต 2568/69 พร้อมรอรับเงินช่วยเหลือตามนโยบายรัฐบาล นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เห็นชอบโครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตข้าวของเกษตรกรปลูกข้าวปีการผลิต 2568/69 และนาปรังปีการผลิต 2568 โดยจะจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาต้นทุนการผลิตสูงและราคาข้าวที่ตกต่ำ ซึ่งเกษตรกรที่ทำนาปรังและนาปี จะได้รับเงินหลังจากลงทะเบียนและตรวจสอบสิทธิแล้วเสร็จ ทั้งนี้ คาดว่าจะเกษตรกรที่ทำนาปรังจะได้รับเงินเร็วที่สุดภายในเดือนกันยายน 2568 ส่วนเกษตรกรที่ทำนาปี จะได้รับในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีงบประมาณ 2569 รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอเชิญชวนเกษตรกรทั่วประเทศ เร่งดำเนินการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ประจำปีการผลิต 2568/69 โดยเกษตรกรสามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกรผ่านช่องทางการบริการของรัฐโดยไม่มีค่าใช้จ่ายดังนี้ วิธีที่ 1 แจ้งกับเจ้าหน้าที่ สำหรับเกษตรกรรายเดิม แปลงเดิม สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อม และร่วมเป็นหน่วยสนับสนุนที่เกษตรกรมีพื้นที่การเกษตรอยู่ รวมถึงแจ้งข้อมูลผ่านผู้นำชุมชนหรือตัวแทนอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ส่วน เกษตรกรรายใหม่ และรายเดิม แต่เพิ่มแปลงใหม่ […]

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

เตือนฝนฟ้าคะนองทั่วไทย – 6 จังหวัดตะวันออกหนักสุด

กทม. 17 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยฝนฟ้าคะนองทั่วไทย เตือน 6 จังหวัดภาคตะวันออก แม่ฮ่องสอน ตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ จันทบุรี ตราด รับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนอยู่ในเกณฑ์กระจายถึงเกือบทั่วไปและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ จันทบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 17 ส.ค. นี้ไว้ด้วย – สำนักข่าวไทย

ทุ่นระเบิดใหม่ตอกย้ำกัมพูชาละเมิดกติกาสากล

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – วันนี้ รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูตภาคีอนุสัญญาออตตาวา ลงพื้นที่ดูปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิด บนภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมเรียกร้องให้ตัดงบช่วยเหลือกัมพูชา หลังใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ผู้บริจาค ขณะที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ยืนยันเป็นทุ่นระเบิดใหม่ที่เพิ่งพบช่วงเหตุปะทะล่าสุด.-สำนักข่าวไทย

ผลถก RBC กัมพูชาเมินกู้ทุ่นระเบิด-ปราบสแกมเมอร์

ตราด 16 ส.ค. – กัมพูชายังไม่ให้ความร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิด หลังฝ่ายไทยผลักดันในเวที “RBC ไทย-กัมพูชา” พื้นที่ชายแดนจันทบุรี-ตราด พร้อมการแก้ไขปัญหาสแกมเมอร์ แขวนไว้หารือในการประชุมครั้งต่อไป พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า วันนี้ (16 สิงหาคม 2568) พลเรือโท อภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด และพลตรี อุย เฮียง ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 3 ของกองทัพบกกัมพูชา ตลอดจนคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคของทั้งสองฝ่าย จัดให้มีการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ (Regional Border Committee) หรือ RBC ณ ประเทศไทย ที่บ้านทะเลภูรีสอร์ท อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด เพื่อร่วมกันหารือในการแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ และการดำเนินชีวิตของประชาชนทั้งสองประเทศด้วยสันติวิธี โดยได้ลงนามใน “บันทึกความตกลงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ราชอาณาจักรไทย กับภูมิภาคที่ 3 […]

วัดเครือวัลย์ ตั้งโต๊ะแจงดำเนินคดีอดีตไวยาวัจกร ยักยอกเงินวัด 56 ล้านบาท

กทม. 16 ส.ค.-ไวยาวัจกรฝ่ายกฎหมายวัดเครือวัลย์ ตั้งโต๊ะชี้แจงการดำเนินคดีกับอดีตไวยาวัจกร ยักยอกเงินวัด 56 ล้านบาท ตรวจสอบประวัติย้อนหลัง 10 ปี พบปลอมลายมือชื่อเจ้าอาวาส 240 ครั้ง ด้านเจ้าอาวาสยอมรับเสียใจ ผิดหวังที่ไว้ใจคนใกล้ตัว ไวยาวัจกรวัดฝ่ายกฎหมาย ตั้งโต๊ะชี้แจง กรณีที่มีบุคคลภายในวัดปลอมลายมือชื่อเจ้าอาวาสวัดเครือวัลย์วรวิหาร ไปถอนเงินออกจากบัญชีวัดกว่า 240 ครั้ง ยักยอกเงินกว่า 56 ล้านบาท ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน ปี 67 ที่ผ่านมา ในส่วนการดำเนินการขณะนี้แบ่งเป็น 3 คดี คดีแรก พบการกระทำความผิดคือเมื่อเดือนเมษายน 2567 ทางวัดได้รับบริจาคจากกองทัพเรือเป็นแคชเชียร์เช็ค 1.5 ล้านบาท ลงวันที่ 10 เมษายน 2567 โดยในแคชเชียร์เช็คระบุว่ามอบให้ทางวัด จึงต้องเอาเข้าบัญชีวัด ทางเจ้าอาวาสจึงมีการมอบให้นายกฤษณ์ ที่เป็นไวยาวัจกรวัดในตอนนั้น เอาแคชเชียร์เช็คดังกล่าวไปขึ้นเงินและเอาเข้ายังบัญชีของวัด ต่อมาทางเจ้าอาวาสได้ทวงถามไปยังนายกฤษณ์ เพราะในขณะนั้นจำเป็นจะต้องบูรณะศาสนสถาน แต่นายกฤษณ์ อ้างว่าไม่ว่าง และได้มอบหมายให้นายชัยณรงค์ ซึ่งเป็นผู้ช่วยไวยาวัจกรในตอนนั้นนำเงินไปเข้าธนาคาร ทางเจ้าอาวาสเลยมีการติดต่อไปยังนายชัยณรงค์ เพื่อทวงถามเรื่องเงิน แต่ก็บ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด […]