ภูมิภาค 27 มิ.ย. – ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ยังคงเกาะติดคดี “สารวัตรแย้” เข้าไปพัวพันมีชื่อบนพัสดุไปรษณีย์ซุกซ่อนยาเสพติด เบื้องต้นจากข้อมูลพบว่าช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีพัสดุไปบ้านแม่ “สารวัตรแย้” ประมาณ 7-8 ครั้ง ส่วนใหญ่มาจาก กทม.
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย เดินทางลงพื้นที่ไปยัง สภ.พยุหะคีรี เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี “สารวัตรแย้” โดย พ.ต.อ.อดิศักดิ์ สุนทรารักษ์ ผู้กำกับการ สภ.พยุหะคีรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการสอบข้อเท็จจริงกรณี พ.ต.ท.พิเชษฐ เสาแบน หรือ “สารวัตรแย้” มีชื่อเป็นผู้รับพัสดุซุกซ่อนยาเสพติดว่า ขณะนี้ สภ.พยุหะคีรี อยู่ระหว่างรอผลการตรวจวัตถุพยานจาก สภ.สตึก จ.บุรีรัมย์ และ ปส.ภาค 6 เพื่อนำมาประกอบกับผลการสอบสวน “สารวัตรแย้” เบื้องต้นที่สอบปากคำไปวานนี้ เจ้าตัวอ้างถึงแก๊งค้ายาเสพติดที่เคยจับกุมขณะปฏิบัติงานด้านปราบปรามยาเสพติดทั้งที่นครสวรรค์และสุโขทัย ที่ทำให้ได้รับโทษหลายกลุ่ม แต่ไม่ได้มีการระบุตัวบุคคลและไม่มีหลักฐานประกอบ เพียงเป็นการกล่าวอ้างด้วยวาจา และรอผลการตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์มือถือของ “สารวัตรแย้” ที่มอบให้กับเจ้าหน้าที่ พร้อมเปิดเผยเพิ่มเติมว่า ชุดสืบสวน สภ.พยุหะคีรี และ ปส. เพิ่งเดินทางกลับจากการขอหลักฐานและผลการสอบสวนผู้ต้องหาที่เป็นผู้ส่งพัสดุซุกซ่อนยาเสพติดดังกล่าว และจะประชุมหารือกันอีกครั้ง
นอกจากนี้ ล่าสุดได้รับข้อมูลจากไปรษณีย์ว่าในช่วง 2 ปีมานี้ คือ ตั้งแต่ปี 2561 ถึงปัจจุบัน มีพัสดุมาส่งที่บ้านแม่ “สารวัตรแย้” ในพยุหะคีรี 7-8 ครั้ง โดยมีทั้งเป็นชื่อแม่ ชื่อพ่อ และชื่อสารวัตรแย้ 4-5 ครั้ง ส่วนใหญ่เป็นพัสดุที่ส่งจากกรุงเทพมหานคร และมีส่งจากนครสวรรค์ 1 ครั้ง แต่ยังไม่มีข้อมูลว่าภายในบรรจุสิ่งใด
ผู้กำกับการ สภ.พยุหะคีรี บอกว่าคดีนี้ไม่ยาก แต่ต้องอาศัยข้อมูลจากหลายที่มาประกอบกัน จากนั้นจึงจะสรุปผลการสอบสวนว่า “สารวัตรแย้” มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดที่ส่งมา หรือถูกกลั่นแกล้งตามที่กล่าวอ้าง
ตำรวจภูธรภาค 6 ได้เบาะแส “ไบเล่” ต้นตอจ้างวานส่งพัสดุ
ขณะที่ พล.ต.ท.พรหมธร ภาคอัต ผู้ช่วยผู้บัญชาตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้าคดี “สารวัตรแย้” ว่า ขณะนี้ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดทั้งจากข้อมูลการให้ปากคำ รวมถึงกรุ๊ปไลน์ค้ายาเสพติดที่ “สารวัตรแย้” อ้างว่าถูกดึงเข้าไปอยู่ในกลุ่มโดยไม่รู้ตัว ซึ่งภาพรวมอาจมีการกลั่นแกล้งกันได้ จึงต้องตรวจสอบอย่างละเอียด
ขณะที่ พล.ต.ต.วันชัย สุวรรณศิริเขต รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบคดีนี้ กล่าวว่า ผู้ต้องหาที่ถูกว่าจ้างให้ส่งยาเสพติดทางไปรษณีย์ให้ “สารวัตรแย้” จาก ปณ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ได้ซัดทอดไปยังบุคคลที่ชื่อว่า “ไบเล่” เป็นผู้ว่าจ้างจากพิษณุโลก จากรายงานพบว่าพ่อค้ายาชื่อ “ไบเล่” มีตัวตนจริง แต่ไม่ได้อยู่ที่พิษณุโลก กบดานในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ซึ่งต้องตรวจสอบและขยายผลอีกครั้ง ขณะที่วันพรุ่งนี้ (28 มิ.ย.) ตำรวจภาค 6 จะประชุมร่วมกับ ป.ป.ส.ภาค 6 เพื่อสรุปข้อมูล
ฝากขังมือส่งพัสดุซุกยาเสพติดให้ “สารวัตรแย้”
ส่วนความเคลื่อนไหวที่ จ.บุรีรัมย์ พนักงานสอบสวน สภ.สตึก คุมตัวนายอนุศักดิ์ มิ่งเมือง อายุ 25 ปี พร้อมภรรยา ไปขอศาลจังหวัดบุรีรัมย์ฝากขังเป็นครั้งแรก พร้อมคัดค้านการประกันตัว หลังเป็นผู้ส่งยาเสพติดไปที่บ้านของแม่ “สารวัตรแย้” จนกลายเป็นคดีความ เบื้องต้นทั้งคู่ถูกแจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในความครอบครอง ขณะที่จากการสอบปากคำผู้ต้องหาพบว่าให้ข้อมูลเป็นประโยชน์ต่อการสางคดี “สารวัตรแย้”. – สำนักข่าวไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
►เร่งสอบสวน “สารวัตรแย้” ชี้แจงความบริสุทธิ์ ปมพัสดุซุกยาเสพติดส่งถึงบ้าน
►เร่งขยายผลจับคนส่งพัสดุซุกยาเสพติดให้ “สารวัตรแย้” พ่อแม่เครียดความดันขึ้น