ตลท. 17 ส.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่าดัชนีหุ้นไทยปิดการซื้อขายวันนี้ (17 ส.ค.) ที่ระดับ 1,531.63 ล้านบาท ลดลง 5.89 จุด หรือ ร้อยละ 0.38 มูลค่าการซื้อขาย 60,261.74 ล้านบาท โดยดัชนีเคลื่อนไหวแดนลบเป็นส่วนใหญ่สูงสุดของวันที่ระดับ 1,539.89 จุด และต่ำสุดที่ 1,529.99 จุด
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด เปิดเผยว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยสะท้อนปัจจัยบวกราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น หลังรัสเซียเตรียมหารือกับซาอุดิอาระเบียและประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายอื่นเกี่ยวกับการรักษาเสถียรภาพตลาดน้ำมัน และกลุ่มโอเปกจะจัดประชุมวันที่ 26 – 28 กันยายน เพื่อรักษาสมดุลของราคาน้ำมันดิบส่งผลบวกเชิงจิตวิทยาต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน ขณะเดียวกันนักลงทุนต่างชาติมีการซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยในช่วง 2 เดือน (ก.ค.-ส.ค.) มูลค่า 69,000 ล้านบาท แม้จะขายสุทธิสลับออกมาบ้าง
ส่วนปัจจัยส่งผลเชิงลบต่อทิศทางตลาดหุ้นไทย คือ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งอาจส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 1 ครั้งในปีนี้สอดคล้องกับความเห็นของประธานธนาคารกลางสหรัฐสาขานิวยอร์กและแอตแลนตาส่งสัญญาณว่าอาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ย นอกจากนี้ ยังคงต้องจับตารายงานการประชุมของเฟด วันที่ 18 สิงหาคมที่จะรายงานผลการประชุมเมื่อวันที่ 26-27 กรกฎาคมที่ผ่านมา และวันที่ 26 สิงหาคมจะมีการประชุมประจำปีของเฟด ซึ่งนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด จะขึ้นกล่าวในการประชุมครั้งนี้ โดยอาจมีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยปีนี้
ด้านสัดส่วนนักลงทุน สถาบัน ขายสุทธิ 4,550.60 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 877 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิ 1,309.78 ล้านบาท และนักลงทุนภายในประเทศ ซื้อสุทธิ 2,363.83 ล้านบาท .-สำนักข่าวไทย