กทม. 26 มิ.ย.-นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ แถลงยืนยันการตั้ง”บิ๊กโจ๊ก”เป็น อนุกรรมการ ก.ตร.เพราะความรู้ ความสามารถ
พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำแถลงชี้แจงกรณีปรากฏชื่อพลตำรวจโทสุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นหนึ่งในคณะอนุกรรมการข้าราชการตำรวจ เกี่ยวกับกฎหมายและระเบียบ ชุดที่มีพลตำรวจโทวิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธาน
ซึ่งพลตำรวจเอกวิระชัย ยืนยัน พลตำรวจโทสุรเชษฐ์ ถือเป็นตัวแทนจากสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเข้าเกณฑ์ในการคัดสรรบุคคล มาดำรงตำแหน่งในคณะอนุกรรมการ ก.ตร.การชุดนี้ และพลตำรวจโทสุรเชษฐ์ เป็น คณะอนุกรรมการ ชุดนี้ มาแล้ว 4 ครั้ง ตามธรรมเนียมปฎิบัติ แล้ว จะไม่ค่อยมีการแปลงแปลงรายชื่อ ยกเว้นมีการลาออก ขณะเดียวกัน เมื่อมี 1ในคณะอนุ กรรมการ ก.ตร คือ พลตำรวจตรีกฤษกร พลีธัญญวงศ์ ขอลาออกไป จึงได้แต่งตั้ง พลตำรวจโทอำนวย นิ่มมะโน เข้ามาแทน ที่ประชุม จึงเสนอชื่อ คณะอนุ กรรมการทก.ตร ให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พิจารณา ในคราวเดียวกันพร้อมกับคณะอนุกรรมการ ก.ตร.ชุดอื่นๆ อีก 5 ชุด ก่อนให้ประธาน ก.ตร.ลงนาม. พร้อมยืนยัน พลตำรวจโทสุรเชษฐ์ มีความรู้ความสามารถ เพราะดำรงตำแหน่งมาหลายสมัย. อย่างไรก็ตามโดยส่วนตัว ยังจะไม่เสนอให้ถอดชื่อ พลตำรวจโทสุรเชษฐ์ ออก แต่ทั้งนี้ ให้เป็นอำนาจของประธาน ก.ตร.ที่จะพิจารณา ตามความเหมาะสมในช่วงบ่ายวันนี้
ด้านพลตำรวจโทนิทัศน์ ลิ้มศิริพันธ์ ผู้บัญชาการสำนักงานข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร.ยืนยัน หลักเกณฑ์ในการพิจารณาการทำหน้าที่ของประธานคณะอนุกรรมการ ก.ตร.ทั้ง 7 คณะโดยอำนาจ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะมอบหมายให้ จเรตำรวจแห่งชาติ และรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธาน และประธานแต่ละคณะ จะคัดเลือกกรรมการในแต่ละชุด ซึ่งคณะอนุกรรมการ ก.ตร.แต่ละชุด มีหน้าที่ในการพิจารณาประเด็นต่างๆ เพื่อส่งต่อไปยัง ก.ตร.ชุดใหญ่มีความเห็นชอบตามขั้นตอน ขณะเดียวกันวันนี้ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธาน ก.ตร.เป็นประธาน จะประชุม ก.ตร.โดยการนัดประชุมวันนี้ เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน โดยเลื่อนขึ้นมาจากวันศุกร์ที่ 28 มิถุนายน เพื่อพิจารณาวาระพิจารณาถอนชื่อ พลตำรวจโทสุรเชษฐ์ ออกจากการเป็นกรรมการ อนุ ก.ตร.เกี่ยวกับกฎหมายและระเบียบ โดยเฉพาะ สำหรับการแต่งตั้งพลตำรวจโทสุรเชษฐ์ นั้น พลเอกประวิตร ลงนามแต่งตั้ง ตามมติที่ประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 5/2562 ซึ่งมีนายตำรวจและบุคคลอื่นอีก 15 คน โดยคณะอนุกรรมการชุดนี้ มีอำนาจหน้าที่ คือ การพิจารณาข้อกฏหมายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มีความเกี่ยวข้องกับหน่วยงานราชการอื่น และให้คำปรึกษาหารือข้อกฏหมาย ที่ออกโดย ก.ตร. เพื่อให้นำเข้าสู่ ที่ประชุม ก.ตร.ชุดใหญ่เห็นชอบตามขั้นตอน
มีรายงานยืนยันจากแหล่งข่าวใน ก.ตร.ว่า การดำรงตำแหน่งในคณะอนุกรรมการ ก.ตร.ไม่มีผลต่อการให้คุณให้โทษ ในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ เพราะการแต่งตั้งนายตำรวจชั้นนายพล ไม่จำเป็นต้องผ่านการพิจารณา จากคณะอนุกรรมการ ก.ตร.ชุดใด เนื่องจาก เป็นอำนาจหน้าที่ของ บอร์ดกลั่นกรอง ที่มีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พิจารณาคุณสมบัติ เพื่อนำรายชื่อผู้เหมาะสมเข้าสู่ที่ประชุม ก.ตร.ชุดใหญ่พิจารณาต่อไป.-สำนักข่าวไทย