มหาสารคาม 24 มิ.ย.- งานเข้า! นายช่าง อบต.ที่มหาสารคามเจอใบสั่งจราจรถึง 3 ใบ ฐานขับรถเร็วที่ราชบุรี-สมุทรสาคร ยันใช้รถมากว่า 10 ปี ไม่เคยไปใช้เส้นทางดังกล่าว และแจ้งความไว้เป็นหลักฐานแล้ว วอนเจ้าหน้าที่เร่งสืบหา หวั่นต่อไปทำเดือดร้อนกว่านี้
นายสมยศ จันทะรักษ์ นายช่างโยธาอาวุโส องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หัวขวาง อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม นำหลักฐานชี้แจงผ่านสื่อ หลังได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.โกสุมพิสัย กรณีได้รับใบสั่งข้อหาขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด จากสถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง จ.นครปฐม และสถานีตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง จ.เพชรบุรี รวม 3 ใบว่า รถคันที่ปรากฏในใบสั่งมีข้อสังเกตที่ไม่ตรงกับรถของตน คือ รถคันนั้นมีการนำบางสิ่งมาปิดบังหมายเลขทะเบียนรถตัวสุดท้ายไว้ ทำให้สามหมายเลขด้านหน้า ตรงกับทะเบียนรถของตน จึงถูกใบสั่งถึง 3 ใบ ทั้งที่ไม่เคยขับรถไปในเส้นทางดังกล่าวนับตั้งแต่ใช้รถคันนี้มา 12 ปี ส่วนใหญ่ขับจากบ้านมาทำงานเท่านั้น
นายสมยศ เล่าว่า รถตนเป็นเก๋ง ซีวิค ทะเบียน ชป 957 กรุงเทพฯ ครั้งแรกได้ใบสั่งเมื่อ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา จากสถานีตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง จ.เพชรบุรี ข้อหาขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด เหตุเกิด ทล.4 กม.117-118 ต.หนองกระทุ่ม อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี แล่นผ่านกล้องตรวจจับความเร็วอยู่ที่ 163 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ครั้งที่ 2 วันที่ 9 พ.ค. ใบสั่งจากสถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง จ.นครปฐม เหตุเกิดที่ ต.แพรกหนามแดง อ.อัมพวา จ.สมุทรสาคร ความเร็ว 154 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และครั้งที่ 3 วันที่ 30 พ.ค. จากสถานีตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง จ.เพชรบุรี เหตุเกิดที่ ทล.4 กม.117-118 ต.หนองกระทุ่ม อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ความเร็ว 125 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ครั้งนี้รถคันก่อเหตุได้ชูมือออกมานอกรถคล้ายท้าทาย อีกทั้งรถตนไม่มีไฟตัดหมอก แต่รถที่ทำผิดมีไฟตัดหมอก
นายสมยศ กล่าวว่า แม้ได้แจ้งหน่วยงานต้นสังกัดที่ออกใบสั่งให้ทราบข้อเท็จจริงแล้วและได้รับการยกเว้นค่าปรับแต่เกรงว่าหากรถคันดังกล่าวไปทำผิดกฎหมายร้ายแรงเกรงว่าจะทำให้ตนเดือดร้อน จึงได้แจ้งความไว้ก่อนเพื่อเป็นหลักฐานยืนยันความบริสุทธิ์ใจ และขอให้เจ้าหน้าที่เร่งสืบหาของรถคันนั้นโดยเร็ว เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย