เปิด 5 อาชีพมาแรงในปี 2025

สำนักข่าวไทย 24 มิ.ย.-เปิด 5 อาชีพมาแรงในอีก 6 ปีข้างหน้า หรือปี ค.ศ.2025 กับทักษะที่ต้องมี เตรียมคว้าโอกาสที่มากกว่าก่อนใคร
           บทความนี้จะพานั่งไทม์แมชชีนไปดู 5 อาชีพสุดปัง ที่กำลังจะมาแรงในปี 2025 กับทักษะที่ต้องมี  หากไม่อยากตกงานในอนาคต สำหรับน้องๆ ที่สนใจว่าจะมีอาชีพอะไรที่น่าสนใจบ้าง และควรจะเตรียมพร้อมอย่างไร 
ไปดูกันเลย 
           1.นักบริหารความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หลายบริษัทมีส่วนงานที่เชื่อมโยงกันระหว่างประเทศ นอกจากการติดต่อประสานงานกันตามหน้าที่หลักของบริษัทแล้ว (core job) การบริหาร รักษาความสัมพันธ์ รวมถึงแก้ไขความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการทำงานของทั้งสองบริษัท ก็เป็นอีกหนึ่งงานสำคัญที่จะทำให้เกิดความสัมพันธ์ระหว่างระยะยาวระหว่างสองบริษัท ที่จะส่งผลดีต่อการเจรจา และการทำธุรกิจร่วมกันในระยะยาว นักบริหารความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จึงจำเป็นต้องมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับประเทศนั้นๆ อย่างลึกซึ้ง รู้จักการสื่อสารระหว่างวัฒนธรรม เพื่อทำหน้าที่เป็นตัวกลาง ประสานผลประโยชน์ระหว่างทั้งสององค์กร รวมทั้งรักษาผลประโยชน์สูงสุดของบริษัท
         2.ผู้เชี่ยวชาญการท่องเที่ยว  เทรนด์การท่องเที่ยวประเทศไทยเติบโตขึ้นอย่างมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากในแต่ละปีที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย จากสถิติของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พบว่า ประเทศที่ครองแชมป์นักท่องเที่ยวมาเยือนประเทศไทยสูงสุดอย่างต่อเนื่องคือ ประเทศจีน ในปีที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาเยือนไทยจำนวนกว่าสิบล้านคน ส่วนอีกหนึ่งประเทศที่น่าจับตามอง ในแง่ของประเทศที่ดึงดูดเม็ดเงินด้านการท่องเที่ยวเข้าประเทศไทยได้อย่างก้าวกระโดด ได้แก่ ประเทศอินเดีย โดยในปีที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวอินเดียทำเงินให้กับประเทศไทยสูงกว่า 5.6 หมื่นล้านบาท หรือสูงขึ้นร้อยละ 16.55 เมื่อเทียบกับปี 2560 ซึ่งนักท่องเที่ยวจากประเทศเหล่านี้ มีความต้องการเฉพาะในการมาท่องเที่ยวประเทศไทย จึงเริ่มมีธุรกิจบางประเภทที่เล็งเห็นโอกาสจากนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้  
   
         3.นักการตลาดออนไลน์ระหว่างประเทศหากพูดถึงสายงานที่มาเป็นอันดับ1 อย่างต่อเนื่อง ย่อมหนีไม่พ้น “งานขาย” ซึ่งในอีก 5 ปีข้างหน้า งานขายยังคงมาแรงอย่างต่อเนื่อง แต่มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนไปอยู่บนแพลตฟอร์มออนไลน์หรือE-Commerce มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ตลาด E-Commerce ของจีนที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ตั้งแต่ปี 2557-2561 มีการเติบโตเริ่มจากร้อยละ 13-28.6 เมื่อเปรียบเทียบกับมาร์เก็ตแชร์ของรีเทลธรรมดา และในอีก 5 ปีข้างหน้าการค้าขายบนแพลตฟอร์มนี้จะเติบโตขึ้นอย่างมาก อาชีพนักการตลาดออนไลน์ระหว่างประเทศจึงเป็นอีกอาชีพที่น่าสนใจ ผู้ที่จะเป็นนักการตลาดออนไลน์ระหว่างประเทศได้ ต้องมีความเข้าใจความต้องการ พฤติกรรมของผู้บริโภคในประเทศนั้นๆ รวมถึงธรรมเนียมการค้าระหว่างประเทศ ประกอบกับความสามารถด้านการจัดการข้อมูล และด้านไอที เพื่อวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในประเทศนั้นๆ
       4.นักวิเคราะห์ข้อมูลบิ๊กดาต้า อีกหนึ่งอาชีพที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน และเป็นที่พูดถึงกันอย่างมากก็คือ นักวิเคราะห์ข้อมูลบิ๊กดาต้า เนื่องด้วยในปัจจุบันเราอยู่ในยุคที่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายและรวดเร็ว หรือที่เรียกว่า “สภาวะข้อมูลท่วมท้น” การวิเคราะห์เซ็ตข้อมูลขนาดใหญ่ หรือบิ๊กดาต้า และนำมาเชื่อมโยงกับเทรนด์ทางการตลาด ความต้องการของผู้บริโภคจะช่วยให้บริษัทสามารถตัดสินใจทางธุรกิจ รวมทั้งปรับปรุงการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากทักษะด้านการวิเคราะห์ข้อมูลบิ๊กดาต้า (Big Data Analytics) ที่ต้องมีแล้ว ความสามารถทางด้านการสื่อสารกับคนนอกวงการไอทีให้รู้เรื่อง ทักษะด้านการนำเสนอ การทำงานเป็นทีม ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่คนทำงานด้านไอทีไม่ควรมองข้าม
        5.เจ้าของธุรกิจ ด้วยไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่รักอิสระ ต้องการเป็นนายตัวเอง ประกอบกับผู้ประกอบการในยุคนี้ นิยมจ้าง outsource มากขึ้น เนื่องจากสามารถลดค่าใช้จ่ายได้ถึงร้อยละ 60 เมื่อเทียบกับการจ้างงานประจำ ทำให้ในปัจจุบัน มีผู้ประกอบอาชีพฟรีแลนซ์ในไทยมากกว่า 2 ล้านคน และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้น 3-6 แสนคนในทุกปี โดยหมวดหมู่งานฟรีแลนซ์ 5 อันดับแรก ได้แก่ กราฟิกดีไซน์ การตลาดออนไลน์และโฆษณา เว็บและโปรแกรมมิ่ง งานเขียนและแปลภาษา และงานภาพและเสียง นอกจากความสามารถในแต่ละหมวดหมู่อาชีพ (Hard Skill) ที่ต้องมีแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่จะทำให้คนประกอบอาชีพฟรีแลนซ์มีความโดดเด่นและแตกต่างจากคนทำอาชีพฟรีแลนซ์เหมือนกัน ก็คือทักษะทางด้านสังคม (soft skill) หรือความสามารถในการติดต่อสื่อสาร การรู้จักเจรจาต่อรองอย่างมีศิลปะ หากมีทักษะทั้งหมดนี้ จะทำให้เติบโตในสายงานฟรีแลนซ์อย่างแน่นอน
         อย่างไรก็ตามการเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่โลกการทำงานเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง ทั้งการเรียนรู้ด้านวิชาการ ความสามารถในการปรับตัวได้ และความมีทัศนคติแบบสากลนิยม จะช่วยเสริมสร้างคุณสมบัติที่องค์กรทั่วโลกต้องการ 
         นอกจากการคาดการณ์ 5 อาชีพที่จะมาแรงในอีก 5 ปีข้างหน้า 5 ทักษะที่คนรุ่นใหม่ต้องมีเพื่อคว้าโอกาสในการทำงานในอนาคตไว้ ได้แก่ 1. ความสามารถทางด้านภาษา 2. ความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ 3. การคิดเชิงวิพากษ์ 4. ความรู้ในหลากหลายศาสตร์ และ 5. ความสามารถทางการสื่อสารด้านวัฒนธรรม หากมีทักษะทั้งหมดนี้ รับรองว่าจะเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานทั่วโลก .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” ลั่นฟ้อง “ธนพร” อยู่ที่ทนายหากขอโทษแล้วจบหรือไม่

ทำเนียบ 21 ส.ค.-“ภูมิธรรม” ลั่นฟ้อง “ธนพร” อยู่ที่ทนายหากขอโทษแล้วจบหรือไม่ ย้ำวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่สุจริต ไม่มีข้อเท็จจริง ต้องรับผิดชอบ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมอบอำนาจทนายความยื่นฟ้อง นายธนพร ศรียากูล ผอ.สถาบันวิเคราะห์การเมือง ฐานความผิดหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ถ้า นายธนพร ขอโทษ จะเลิกแล้วต่อกันหรือไม่ว่า แล้วแต่ทนายความตนได้มอบหมายไปแล้วเมื่อวานนี้ (20 ส.ค.) ส่วนจะฟ้องเฉพาะนายธนพร หรือจะมีบุคคลอื่นด้วยหรือไม่นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า อะไรที่เกินเลยเป็นการพูดที่ไม่รับผิดชอบทำลายเกียรติยศ เกียรติภูมิ ของผู้อื่น ก่อให้เกิดความสับสนเป็นภัยต่อปัญหาของประเทศก็คงฟ้อง เมื่อถามว่าที่ผ่านมาก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันแต่ไม่เคยมีการส่งฟ้องกันใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า ไม่จริง มีการฟ้องกันมาเยอะแล้ว ถ้าไปทำลายเกียรติภูมิของเขาหรือครอบครัวเขาก็ฟ้องกันทั้งนั้น ถ้าเป็นการวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริตไม่ผิดอะไร แต่ถ้าวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่สุจริต นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จอันนี้เป็นเรื่องที่ควรรับผิดชอบ และต้องถามผู้ที่วิจารณ์ว่า วิจารณ์ไปโดยที่ไม่มีข้อเท็จจริงเป็นที่ประจักษ์ ทำอย่างนี้ได้หรือเปล่า ต้องย้อนไปถามผู้ทำผิดอย่ามาย้อนถามผู้เสียหาย.-316.-สำนักข่าวไทย

รวบแล้ว! มือยิง “กำนันเล้น” หนีกบดานเกาะลันตา

กระบี่ 21 ส.ค. – ไล่ล่าเกือบ 20 วัน จับได้แล้วมือยิง “กำนันเล้น” กำนันคนดัง จ.ตรัง หนีกบดานเกาะลันตา จ.กระบี่ เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกดดัน 3 วัน 3 คืน สุดท้ายไม่รอด เจ้าหน้าที่บุกจับ นายธวัชชัย อายุ 33 ปี ผู้ต้องหายิง นายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนัน ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เสียชีวิต เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา คดีนี้อุกอาจและสะเทือนขวัญคนในพื้นที่มาก เพราะคนร้ายไปรอดักยิงกำนันถึงหน้าบ้าน ขณะที่กำนันกำลังขับรถเข้าบ้าน และใช้อาวุธสงคราม M16 ในการก่อเหตุ ซึ่งกำนันเล้น เป็นกำนันคนดังในจังหวัด และเป็นประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด หลักฐานสำคัญในตอนนั้น คือ ภาพจากกล้องวงจรปิด โดยคนร้ายใส่ชุดดำ สวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า บุกไปก่อเหตุหน้าบ้านกำนัน […]

“ไชยา” สั่งปิดประชุมดื้อๆ หนีถกญัตติด่วน MOU 43-44

รัฐสภา 21 ส.ค.- งงทั้งห้องประชุม! “ไชยา” สั่งปิดประชุมดื้อๆ หนีถกญัตติด่วน MOU 43 และ 44 ด้านประธานวิปรัฐบาลบอกไม่รู้เรื่อง ยันไม่ได้ส่งสัญญาณให้ปิดประชุม ขณะที่ “ไชยา” อ้างเป็นข้อตกลง 2 วิปขอปิดประชุมเอง การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม ภายหลังจากการพิจารณากระทู้ถามสด และกระทู้ถามทั่วไป เสร็จสิ้นแล้ว จึงเข้าสู่วาระพิจารณารับทรารายงานการประชุม เรื่องรายงานประจำปี 2567 ของกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ โดยมีการตกลกระหว่างวิปรัฐบาลกับวิปฝ่ายแล้วว่า หลังจากจากเสร็จสิ้นวาระรับทราบการประชุมแล้ว จะเข้าสู่การประชุมลับ เพื่อพิจารณาญัตติด่วนเรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาบันทึกข้อตกลง MOU 43 และ 44 ของนายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย แต่ปรากฏว่าภายหลังที่ประชุมรับทราบรายงานการประชุมกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เสร็จเรียบร้อยแล้ว นายไชยากล่าวต่อที่ประชุมว่า ใช้เวลาการประชุมมาพอสมควรแล้ว และสั่งปิดประชุมดื้อๆ ในเวลา 14.59 น. สร้างความงุนงงให้กับสส. เพราะตกลงกันเรียบร้อยแล้วว่า จะพิจารณาญัตติด่วนเรื่อง MOU 43 […]

นายกฯ พกยาดม เข้าไต่สวนปมคลิปเสียง

ศาล รธน. 21 ส.ค.-“แพทองธาร” นายกฯ พกยาดม เข้าไต่สวนปมคลิปเสียง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 11.34 น ที่ศาลรัฐธรรมนูญได้กลับมาเผยแพร่โทรทัศน์วงจรปิดอีกครั้ง หลังจากไต่สวนนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ พยานในคดีปมคลิปเสียงสนทนา ระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เสร็จสิ้นโดยใช้เวลาไต่สวนนายฉัตรชัย ประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นได้เบิกตัวนางสาวแพทองธาร มาไต่สวนต่อ โดยเริ่มจากการกล่าวสาบานตน ก่อนให้การ ซึ่งเป็นที่สังเกตว่านางสาวแพทองธาร ได้พกยาดมสีเหลืองวางไว้ใกล้มือด้วย โดยหลังสาบานตนเสร็จก็ได้มีการตัดสัญญาณถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ อีกครั้ง.-319.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

RBC ไทย-กัมพูชา (ทภ.1) เห็นพ้อง 13 ข้อหยุดยิง ตอบรับเพิ่ม 3 ประเด็น

สระแก้ว 22 ส.ค.- ประชุม RBC ไทย-กัมพูชา ฝั่งกองทัพภาคที่ 1 เห็นพ้อง 13 ข้อตกลงหยุดยิง GBC ฝ่ายกัมพูชา ตอบรับ 3 ข้อเสนอ เก็บกู้ทุ่นระเบิด ปราบสแกมเมอร์ ตั้งชุดประสานงานร่วม แต่ไม่ตอบรับแก้ปัญหา MOU 43 ชี้ไม่อยู่ในอำนาจ RBC โยนถกวง JBC แทน พลโทอมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 นำแถลงสรุปผลการประชุม คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-กัมพูชา (RBC) ในระดับแม่ทัพ ฝั่งกองทัพภาคที่ 1 โดยทั้ง 2 ฝ่าย ตกลงด้วยดี ตอบรับ 13 ข้อตกลงหยุดยิง จากการประชุม GBC ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบเพิ่มเติม 3 ประเด็น จากที่ไทยเสนอ 4 ประเด็น คือ […]

ศาลยกฟ้อง “ทักษิณ” คดี ม.112 – พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

กทม. 22 ส.ค.-ศาลชั้นต้นยกฟ้อง “ทักษิณ” คดี ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เจ้าตัวยิ้มและกล่าวคำพูดแรกขอบคุณทีมทนายความ ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษายกฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในความผิดมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เนื่องจากศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานฝ่ายโจทก์ เห็นว่าคลิปเสียงที่โจทก์นำมาเป็นหลักฐานไม่มีการพิสูจน์ว่าเป็นคลิปที่มีการตัดต่อหรือไม่ และศาลเชื่อว่าบทสัมภาษณ์น่าจะมากกว่าความยาวของคลิปดังกล่าว จึงพิพากษายกฟ้อง หลังฟังคำพิพากษา นายทักษิณ ยิ้มและกล่าวคำพูดแรกขอบคุณทีมทนายความ หลังจากนี้จะได้ทำงานเพื่อประเทศชาติอย่างเต็มที่.-สำนักข่าวไทย

เริ่มแล้ว ประชุม RBC ฝั่งกองทัพภาคที่ 1

สระแก้ว 22 ส.ค.-เริ่มแล้ว ประชุม RBC ฝั่งกองทัพภาคที่ 1 รอผล “กัมพูชา” ตอบรับ 3 ข้อ เวลา 10.00 น. ที่สโมสรสรนายทหาร มณฑลทหารบกที่ 19 เริ่มแล้วสำหรับการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-กัมพูชา (RBC) ในระดับแม่ทัพ ฝั่งกองทัพภาคที่ 1 ฝ่ายไทยนำโดย พลโทอมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 ขณะที่ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พลเอกแอก ซอมโอน ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 5 โดยจะใช้เวลาการประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งในช่วงต้นได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนบันทึกภาพ ก่อนเชิญออกเพื่อเข้าสู่วาระการประชุม ทั้งนี้ รายงานข่าวยืนยันว่า ในวงประชุมวันนี้ จะเป็นการหารือ 13 + 3 ข้อตกลง คือ 13 ข้อจากเดิม GBC เพื่อนำสู่การปฏิบัติ และข้อเสนอใหม่ ของฝ่ายไทย 3 […]

“ทักษิณ” ผูกเนกไทเหลือง มาฟังคำตัดสินคดี ม.112

กทม. 22 ส.ค.-“ทักษิณ” มาก่อนเวลา สวมสูท-ผูกเนกไทเหลือง มาฟังคำตัดสินคดี ม.112 ก่อนสวมกอด “พินทองทา” และโบกมือทักทายสื่อฯ-มวลชนเสื้อแดง ก่อนขึ้นห้องพิจารณาที่ 902 ด้านตำรวจ สน.พหลฯ จัดกำลังดูแลความเรียบร้อยตามความเหมาะสม ต่อมาเวลา 09.20 น. นางสาวพินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนกลางนายทักษิณชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึงศาลอาญารัชดา โดยจอดรถบริเวณด้านข้างอาคารศาลอาญา จากนั้นในเวลาไล่เลี่ยกันนายทักษิณ เดินทางมาถึงศาลอาญาด้วยรถยนต์ส่วนตัว โดยมาด้วยชุดสูทสีกรมท่า เสื้อเชิ้ตสีขาวผูกเนกไทสีเหลือง ก่อนจะสวมกอดกับลูกสาว และเดินเข้าไปบริเวณด้านในอาคารศาลอาญารัชดาทันทีเพื่อเข้าสู่ห้องพิจารณาคดีที่ 902 ในเวลา 10.00 น. ตามที่ศาลนัดพิพากษาตัดสินคดีวันนี้ ขณะที่มาตรการรักษาความปลอดภัย พันตำรวจเอกมารุต สุดหนองบัว ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน ให้ข้อมูลว่า ในวันนี้เจ้าหน้าที่ศาลอาญาได้ประสานขอกำลังสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน ให้เข้ามาช่วย ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย ซึ่งตำรวจสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน ทั้งในและนอกเครื่องแบบได้เข้ามาช่วยดูแลรักษาความปลอดภัยภายในพื้นที่โดยมีการวางกำลังเสริมกับตำรวจศาลและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของศาลตามความเหมาะสม โดยก่อนหน้านี้ทางกลุ่มแกนนำมวลชนเสื้อแดงได้มีการประสานกับฝ่ายสืบสวนว่าจะเข้ามาจัดกิจกรรมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ให้กำลังใจ และจับภาพรวมการข่าวก็ยังไม่พบอะไรที่น่าเป็นกังวล ขณะเดียวกันพบมีมวลชนจำนวนหนึ่งเดินทางมาปักหลักที่บริเวณลานจอดรถของศาลอาญาพร้อมใจกันสวมใส่เสื้อสีแดง และสกรีนข้อความให้กำลังใจพร้อมรูปของนายทักษิณ เป็นการให้กำลังใจเดินทางมาให้กำลังใจนายทักษิณเดินทางมาจากในพื้นที่กรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ซึ่งตำรวจศาลและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของศาลอาญาได้มีการกันพื้นที่ เพื่อให้กลุ่มมวลชนอยู่ พื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ให้เพื่อไม่ให้กระทบกับประชาชน และเจ้าหน้าที่ที่เดินทางมาที่ศาลอาญา.-420.-สำนักข่าวไทย