กรุงเทพฯ 20 มิ.ย. – ผู้คนในซอยรุ่งเรือง 1 ซึ่งส่วนใหญ่ขับขี่จักรยานยนต์รับจ้างในวินที่เป็นคู่กรณีของนายประมุข ต่างติดตามข่าวการมอบตัวของผู้ต้องหารายสำคัญนี้ และคาดหวังว่า ความเป็นผู้กว้างขวางของครอบครัวนายประมุข จะไม่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินคดีของตำรวจ
ซอยรุ่งเรือง 1 หรือซอยไปดีมาดี เป็นที่ตั้งบ้านพักของสมาชิกวินจักรยานยนต์รับจ้าง หน้าธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งเป็นคู่กรณีวินอุดมสุข 1 ของนายประมุข วิเชียรดิลกกุล ผู้ต้องหารายสำคัญที่ยกพวกตีกัน เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน วันนี้พวกเขาเฝ้าติดตามข่าวการมอบตัวของนายประมุข ตามหมายจับข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น และความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ที่สถานีตำรวจนครบาลบางนา ในสภาพที่ยังบาดเจ็บ
แม้นายประมุข ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่ผู้อยู่ในเหตุการณ์วันนั้น ซึ่งเป็นสมาชิกวินจักรยานยนต์คู่กรณี อ้างว่ามีการตั้งค่าหัวสมาชิกวินของพวกเขา หลังนายประมุขถูกรุมทำร้าย
คนที่นี่เรียกครอบครัวนายประมุขว่า “บ้านใหญ่” เป็นผู้กว้างขวางแห่งซอยอุดมสุข เช่นเดียวกับคนย่านนี้ที่ต่างรู้จักชื่อของ “เฮียตง-เจ๊เป้า” ซึ่งเป็นพ่อแม่ของนายประมุข บ้านพักหลังใหญ่อยู่ในซอยอุดมสุข 26 แยก 27 หรือซอยพึ่งทรัพย์ “เฮียตง” ทำวินจักรยานยนต์รับจ้างมาตั้งแต่ปี 2526 เป็นที่นับหน้าถือตาของผู้คนในย่านนี้ ส่วนนายประมุข ผู้เป็นลูก รับช่วงทำต่อ หลังมีการจัดระเบียบวิน เมื่อปี 2546 ซึ่งมีการกล่าวอ้างจากผู้ที่เคยเป็นสมาชิกวินจักรยานยนต์นี้ว่า ต้องจ่ายเงินค่าแรกเข้าและเงินรายเดือนค่อนข้างสูง จนมีการตั้งข้อสังเกตถึงการมีบ้านเรือนหลังใหญ่โตของครอบครัวนายประมุข อาจเป็นเงินจากธุรกิจวินจักรยานยนต์ แต่คนในครอบครัวนายประมุข ปฏิเสธเรื่องนี้ในวันที่ตำรวจเข้าค้นบ้านว่า ที่บ้านมีฐานะอยู่ก่อนแล้ว อย่างไรก็ตาม คู่กรณีของนายประมุข คาดหวังว่า ความเป็นผู้กว้างขวางที่เป็นที่รู้จักของคนหลายวงการ จะไม่ส่งผลต่อการดำเนินคดีนี้อย่างตรงไปตรงมา
คนขับขี่จักรยานยนต์รับจ้างที่เคยเป็นสมาชิกวินอุดมสุข ซอย 1 ซึ่งมีนายประมุขเป็นหัวหน้าวิน บอกว่า คนในวินจะเรียกนายประมุขว่า “นาย” ปัจจุบันวินนี้มีสมาชิกประมาณ 200 คน สมาชิกมีทั้งแบบอยู่มานาน และเปลี่ยนหน้าเข้าออกบ่อย โดยมีข้อมูลว่า มีหลายครั้งที่มีการระดมกำลังไปยึดวินอื่น เพราะทับซ้อนพื้นที่ทำมาหากินของกลุ่มตนเอง หรือขัดแย้งเรื่องประเด็นการยอมรับในอำนาจ. – สำนักข่าวไทย