กรุงเทพฯ 20 มิ.ย. – หอการค้าไทยเผยเศรษฐกิจทุกภูมิภาคยังไม่ฟื้นตัว ส่งผลสินค้าเกษตรราคาไม่ดี กดดันกำลังซื้อไม่ฟื้น ทำให้ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของหอการค้าไทยต่ำสุดในรอบ 15 เดือน
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการเดือนพฤษภาคม 2562 ซึ่งทำการสำรวจจากสมาชิกหอการค้าภูมิภาคทั่วประเทศ 370 ตัวอย่าง พบว่า อยู่ที่ระดับ 47.4 ต่ำสุดในรอบ 15 เดือน ลดลงจาก 47.8 ในเดือนก่อนหน้านี้ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 โดยผู้ประกอบการทุกภูมิภาค รวมทั้งกรุงเทพฯ มีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทยลดลง โดยเหตุผลสำคัญมาจากความกังวลต่อการจัดตั้งรัฐบาล การเมืองขาดเสถียรภาพ ปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น การส่งออกลดลง และราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ กดดันให้กำลังซื้อในภูมิภาคลดลง
อย่างไรก็ตาม จากภาพรวมของดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยล่าสุด สะท้อนว่าเศรษฐกิจไทยยังคงอยู่ในภาวะซึมตัว ทุกภาคมีปัญหาตรงกัน คือ ราคาสินค้าเกษตร ดังนั้น หากการเลือกตั้งผ่านไปเรียบร้อย มีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ในช่วงเดือนกรกฎาคม – สิงหาคม 2562 มีการอัดฉีดเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจหลายหมื่นล้านบาท รัฐบาลควรมุ่งเน้นเข้าไปดูแลภาคเกษตรและการท่องเที่ยว เพราะหากมีนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น ราคาสินค้าเกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้น จะพยุงให้เศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังโตร้อยละ 3.8-4 และส่งผลให้เศรษฐกิจไทยปีนี้ขยายตัวร้อยละ 3.5
นอกจากนี้ สิ่งที่คาดหวังในช่วงครึ่งปีหลัง กรณีสงครามการค้าสหรัฐและจีนจะมีการเจรจาของผู้นำทั้ง 2 ประเทศมาพูดคุยกันและหาทางออกร่วมกัน เชื่อว่าโอกาสที่เศรษฐกิจโลกจะอยู่ในช่วงขาขึ้นได้ แต่หากผลการเจรจาไม่คืบหน้าและเพิ่มภาระการเรียกเก็บภาษีระหว่างกันโอกาสที่เศรษฐกิจปีนี้อาจจะต่ำกว่าร้อยละ 3.5 ก็เป็นไปได้ ซึ่งคงต้องติดตามผลการเจรจาทั้ง 2 ผู้นำอย่างใกล้ชิด อีกทั้งจะต้องติดตามการบริหารงานรัฐบาลชุดใหม่ แม้นักธุรกิจหอการค้าไทยส่วนใหญ่กังวลความมีเสถียรภาพทางการเมืองหลังจากนี้จะไม่ค่อยดีนัก ซึ่งรัฐบาลชุดใหม่ทราบปัญหาตรงนี้ดี โดยอาจจะเป็นโอกาสที่รัฐบาลจะพูดคุยและหารือร่วมกันบริหารประเทศให้มีระยะเวลาตามกรอบรัฐบาล คือ 4 ปีก็เป็นไปได้.-สำนักข่าวไทย