นนทบุรี 18 มิ.ย. – อธิบดีกรมการค้าภายในเชิญโรงพยาบาลเอกชนกว่า 353 ราย แจงข้อปฎิบัติตามประกาศ กกร.ดูแลค่ายา เวชภัณฑ์และค่าบริการไม่แพงเกินจริง ย้ำฝ่าฝืนไม่ปฎิบัติเจอโทษหนักแน่
นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมชี้แจงแนวทางความโปร่งใสและเป็นธรรมด้านราคายา เวชภัณฑ์ บริการรักษาพยาบาล บริการทางการแพทย์ และบริการอื่นของสถานพยาบาล โดยได้เชิญโรงพยาบาลเอกชนกว่า 353 โรงพยาบาลทั่วประเทศมารับฟังตามคำประกาศของคณะกรรมการว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร. ) ที่มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคมที่ผ่านมา น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ลงนามประกาศ กกร. ฉบับที่ 52 พ.ศ. 2562 เรื่อง การแจ้งราคา การกำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไขเกี่ยวกับการจำหน่ายยารักษาโรค เวชภัณฑ์ ค่าบริการรักษาพยาบาล บริการทางการแพทย์ และบริการอื่นของสถานพยาบาล โดยให้มีผลใช้บังคับนับแต่วันถัดจากวันประกาศเป็นต้นไป
สำหรับมาตรการดังกล่าว ประกอบด้วย 3 หลักการสำคัญ คือ 1.ราคาโปร่งใส-เป็นธรรม ให้โรงพยาบาลเอกชน ผู้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้จำหน่ายส่ง ต้องแจ้งราคาซื้อ-ราคาจำหน่ายยา เวชภัณฑ์ ค่าบริการฯ ตามรายการที่อยู่ในบัญชีเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิทุกที่ และในอนาคตจะขยายผลให้ครอบคลุมรายการยาตามรหัสบัญชีข้อมูลยาและรหัสยามาตรฐานไทย กรณีโรงพยาบาลจะเปลี่ยนแปลงราคายาต้องแจ้งให้กรมการค้าภายในทราบก่อนปรับราคา หากไม่แจ้งราคาซื้อ-ราคาจำหน่ายตามที่ประกาศกำหนดจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกไม่เกินวันละ 2,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืน หรือจนกว่าจะแจ้ง
2.ผู้บริโภคต้องมีทางเลือก คือ ให้โรงพยาบาลเอกชนแสดง QR Code ข้อมูลเปรียบเทียบราคายาที่กรมการค้าภายในจัดทำไว้อย่างเปิดเผยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลดังกล่าวสะดวก โรงพยาบาลเอกชนประเมินค่ารักษาเบื้องต้นให้ผู้ป่วยทราบ และต้องแจ้งราคายา เวชภัณฑ์ และค่าบริการทางการแพทย์ให้ผู้ป่วยทราบ ก่อนจำหน่ายหรือให้บริการ เมื่อผู้ป่วยร้องขอ การจำหน่ายยาสำหรับผู้ป่วยนอกให้โรงพยาบาลต้องออกใบสั่งยาตามมาตรฐานการประกอบวิชาชีพเวชกรรม และใบแจ้งราคายา ให้ผู้ป่วยทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ ใบสั่งยาอย่างน้อยต้องประกอบด้วยชื่อสามัญทางยา ชื่อทางการค้า รูปแบบยา ขนาดหรือปริมาณ จำนวน วิธีใช้ ระยะเวลาในการใช้ ส่วนใบแจ้งราคายาต้องประกอบด้วยชื่อยาตามใบสั่งยาและราคาต่อหน่วย หากไม่ปฏิบัติตามจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
3.การรักษาที่สมเหตุสมผล ให้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการในส่วนกลางและส่วนจังหวัดเป็นผู้พิจารณาวินิจฉัย กรณีมีข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการให้บริการรักษาพยาบาลที่เกินความจำเป็นและ หรือการคิดค่าบริการรักษาพยาบาลสูงเกินสมควร โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 15 แห่ง พ.ร.บ. ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ซึ่งหากเห็นว่ามีการคิดราคาสูงเกินสมควรจริงจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อย่างไรก็ตาม กรมฯ ได้ให้โรงพยาบาลเอกชนเสนอราคายาที่อยู่ในบัญชี 3,992 ชนิดว่ามีการคิดต้นทุนราคายาที่แท้จริงอย่างไร เพราะราคายาจะต้องไม่บวกค่าสิ่งอำนวยความสะดวกในโรงพยาบาล หรือค่าเภสัชกร หรือค่าประกันความเสี่ยงจากการแพ้ยาภายในวันที่ 12 กรกฎาคมนี้ หากเห็นว่ามีการคิดสูงเกินไปก็จะเรียกมาให้ชี้แจงการคิดราคาให้กรมการค้าภายในทราบสมเหตุสมผลหรือไม่ หากไม่สมเหตุก็จะให้มีการปรับให้เกิดความเหมาะสมต่อไป ซึ่งการเชิญโรงพยาบาลเอกชนมาประชุมร่วมกันวันนี้ต้องการจะย้ำให้ทุกโรงพยาบาลควรคิดราคาทุกด้านไม่ค้ากำไรเกินควรมากไป ไม่ใช่มารักษาปวดท้องแต่จับคนไข้ไปตรวจอื่น ๆ จนมีค่ารักษาถึง 30,000 บาท และหลังจากนี้ผู้บริโภคพบเห็นสามารถร้องมายังสายด่วน 1569 ได้หรือร้องค้าภายในจังหวัดทั่วประเทศ หากตรวจพบโรงพยาบาลกระทำผิดจะถูกดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างแน่นอน.-สำนักข่าวไทย