ภูเก็ต 17 มิ.ย.- ผู้ว่าฯ ภูเก็ตไม่รอช้าสั่งตรวจสอบข้อเท็จจริงสวนสัตว์ดังถูกร้องเรียน ไม่พบการทรมานสัตว์หรือวางยา ด้านผู้จัดการสวนสัตว์ย้ำในความปลอดภัยทั้งคนและสัตว์เป็นสำคัญ ยันสัตว์ทุกตัวมีที่มาที่ไปชัดเจน ไม่มีสัตว์ป่าสวมเลี้ยง และมีมาตรฐานดูแลสุขภาพ
นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีมีผู้ร้องเรียนผ่าน Instagram พร้อมภาพและข้อมูล เพื่อให้จังหวัดภูเก็ตตรวจสอบกรณีเสือโคร่งถูกล่ามโซ่และวางยาเพื่อนำมาถ่ายรูปกับนักท่องเที่ยว ล่าสุด (17 มิ.ย.) นายณฐวรรณ จำลองกาศ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต ประสานกับนายมนัส เทพรักษ์ ปศุสัตว์จังหวัด และนายพงศ์ชาติ เชื้อหอม หัวหน้าศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าเขาพระแทว ลงพื้นที่ตรวจสอบสวนสัตว์ต้องสงสัย
นายณฐวรรณ กล่าวว่า จากการตรวจสอบสภาพทั่วไป ยังไม่พบการทรมานสัตว์ อีกทั้งก่อนหน้านี้มีเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เดินทางมาตรวจสอบแล้วและได้เน้นย้ำการดูแลสัตว์อย่างถูกต้อง เพื่อภาพลักษณ์ที่ดีด้านท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต ส่วนประเด็นการวางยาสัตว์ เท่าที่ตรวจสอบทางกายภาพของสัตว์ไม่น่าจะโดนวางยา เพราะไม่กว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ที่ถูกวางยาจะต้องมีอาการง่วงซึม แต่สัตว์ที่พบภายในสวนสัตว์ทุกตัวมีสภาพสมบูรณ์แข็งแรง ไม่พบสัตว์ป่วยหรือเซื่องซึม และลักษณะการล่ามโซ่ เพื่อเป็นการปลอดภัยต่อนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชม อย่างไรก็ตาม ทางจังหวัดตระหนักในประเด็นดังกล่าวและได้ทำความเข้าใจเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์แล้ว รวมถึงการดูแลสุขภาพสัตว์อย่างเข้มงวด
ด้านผู้จัดการสวนสัตว์ ชี้แจงว่า สวนสัตว์แห่งนี้เป็นสวนสัตว์ของเอกชน ผู้มาเที่ยวส่วนใหญ่ต้องการถ่ายภาพกับสัตว์ชนิดต่าง ๆ และไม่ได้มองว่าการล่ามโซ่สัตว์เป็นการทรมานสัตว์ แต่เป็นมาตรการความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะเสือ เนื่องจากเสือเป็นสัตว์ไม่สามารถคาดเดาภาวะอารมณ์ได้ ที่สำคัญขอยืนยันว่าสวนสัตว์ไม่เคยวางยาสัตว์ เนื่องจากผู้ประกอบการที่มาดำเนินกิจการด้านสวนสัตว์นี้ โดยพื้นฐานจะต้องเป็นบุคคลที่มีความรักและเมตตาต่อสัตว์อยู่แล้ว เมื่อดำเนินกิจการด้านสวนสัตว์ได้วางกรอบการทำงานอย่างชัดเจนคือ 1.เพื่อเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ 2.เป็นสถานที่ทัศนศึกษา 3.เป็นสถานที่เพาะพ่อพันธุ์แม่พันธุ์สัตว์หายาก และ 4.เป็นสถานที่อนุรักษ์พันธุ์สัตว์ และสัตว์ทุกตัวล้วนมีมูลค่าในตนเอง ดังนั้น เจ้าหน้าที่จะไม่ใช้วิธีการทรมานสัตว์โดยเด็ดขาด และเชื่อว่าสวนสัตว์ทุกแห่งมีกฎหมายควบคุมอย่างเข้มงวด มีการควบคุมดูแล เก็บดีเอ็นเอ ติดชิปมีข้อมูลรายละเอียดของสัตว์ชัดเจน ไม่มีเสือที่ถูกจับมาจากป่าเพื่อมาเลี้ยงอย่างแน่นอน เพราะเสือจากป่าไม่สามารถเลี้ยงในสวนสัตว์ได้
ผู้จัดการสวนสัตว์ กล่าวด้วยว่า สวนสัตว์มีเสือ 15 ตัว เป็นเสือได้จากการเพาะพันธุ์ทั้งหมด โดยแลกเปลี่ยนกับสวนสัตว์ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ซึ่งมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแล และสัตว์ทุกตัวจะต้องจดทะเบียน บอกที่มาที่ไปให้ชัดเจน.-สำนักข่าวไทย