เพชรบูรณ์ 18 ส.ค.-แม้ผู้ประกอบการรีสอร์ทบนภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์ บางส่วนเร่งขนย้ายทรัพย์สินและรื้อถอนรีสอร์ทตามคำสั่ง คสช.แล้ว ก่อนจังหวัดจะดีเดย์ปฏิบัติการทวงคืนผืนป่าวันพรุ่งนี้ แต่ยังมีรีสอร์ทส่วนใหญ่ฝ่าฝืนเปิดกิจการรับนักท่องเที่ยวต่อ ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เกาะติดปฏิบัติการ วันนี้เสนอเป็นตอนแรก
เจ้าของรีสอร์ท 2 แห่ง บนผืนป่าภูทับเบิก อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ทยอยขนย้ายทรัพย์สินทั้งหมดออกจากรีสอร์ทในวันนี้ ก่อนที่จะนำเครื่องจักรกลหนัก เข้ารื้อถอนทำลายห้องพักตามคำสั่ง คสช. ที่อาศัยอำนาจตามมาตรา 44 ให้เจ้าของผู้ประกอบการออกจากป่าภูทับเบิกภายในเวลาที่กำหนด พร้อมทั้งรื้อถอนทำลายสิ่งปลูกสร้าง
ป้ารำพึง หนึ่งในเจ้าของรีสอร์ตที่ยอมรื้อถอนขนย้ายทรัพย์สินในวันนี้ ถึงกับหลั่งน้ำตา บอกว่าสร้างรีสอร์ทมาเกือบ 5 ปี เพราะเห็นว่ารายได้ดีกว่าปลูกกะหล่ำ โดยลงทุนไปกว่า 1 ล้านบาท สร้างห้องพัก 11 หลังรองรับนักท่องเที่ยว ต่อมาถูกดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกป่า ศาลมีคำพิพากษาให้ออกจากพื้นที่ สุดท้ายต้องยอมรื้อถอนรีสอร์ทที่สร้างมากับมือ หมดเงินค่าจ้างขนย้ายและรื้อถอนไปนับแสนบาท จากนี้ยังไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อ เพราะไม่มีไร่กะหล่ำแล้ว
รีสอร์ทเป้าหมายที่ จ.เพชรบูรณ์ มีคำสั่งให้ผู้ประกอบการขนย้ายทรัพย์สินและรื้อถอนทำลายสิ่งปลูกสร้างในระยะแรก ตามประกาศของ คสช.มีทั้งหมด 19 แห่ง แต่ที่ฝ่าฝืนกว่า 10 แห่ง วันนี้ยังเปิดรับนักท่องเที่ยวตามปกติ แม้จะสิ้นสุดระยะเวลาผ่อนผันแล้ว
วันพรุ่งนี้ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง จะสนธิกำลังเข้าปฏิบัติการตัดน้ำตัดไฟรีสอร์ททั้งหมด ก่อนขนย้ายและรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง รีสอร์ทที่ฝ่าฝืนไม่ยอมขนย้ายรื้อถอนเอง จะถูกฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายตั้งแต่หลักแสนถึงหลักล้านบาทขึ้นอยู่กับขนาดรีสอร์ท
ล่าสุด วันนี้เจ้าหน้าที่ชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ ยังขยายผลเข้าจับกุมดำเนินคดีกับเจ้าของรีสอร์ทบนภูทับเบิกอีก 5 แห่ง และจะทยอยตรวจสอบจับกุุมดำเนินคดีกับรีสอร์ททุกแห่ง ซึ่งใช้ที่ดินผิดวัตถุประสงค์ เพื่อยึดคืนผืนป่ากลับมาฟื้นฟูให้เป็นสภาพป่าต้นน้ำเช่นในอดีต.-สำนักข่าวไทย