ศาลมีคำสั่งส่งตัว”แมทธิว”หนุ่มแคนาดากลับไปดำเนินคดีที่สหรัฐฯฐานฆ่าผู้อื่น

กรุงเทพฯ 13 มิ.ย.- ศาลมีคำสั่งส่งตัวนายแมทธิว ชาวแคนาดา กลับไปดำเนินคดีที่สหรัฐฯ ฐานฆ่าผู้อื่น


ศาลอาญานัดฟังคำสั่งคดีส่งผู้ร้ายข้ามแดน ที่พนักงานอัยการต่างประเทศ เป็นผู้ร้อง ขอให้ส่งตัวนายแมทธิว อเล็กซานเดอร์ แมคโคแวน ชาวแคนาดา ผู้คัดค้าน กลับไปดำเนินคดีที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ตาม พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน

กรณีผู้คัดค้านเป็นบุคคลสัญชาติแคนนาดา ได้กระทำผิดข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาโดยใช้อาวุธปืน เมื่อเดือน ก.ย. 60 เหตุเกิดที่รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นความผิดที่มีโทษเทียบตามกฎหมายไทยตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่น้อยกว่า 1 ปี อีกทั้งคดียังไม่ขาดอายุความ เนื่องจากเป็นคดีเร่งด่วนตาม 10 แห่งสนธิสัญญาระหว่างรัฐบาล แห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสหรัฐอเมริกา และเป็นกรณีเร่งด่วนตาม พระราชบัญญัติ ส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ.2472 มาตรา 10 โดยคำร้องนี้ ผู้ร้องขอศาลได้โปรด มีคำสั่งอนุญาตให้ส่งตัวจำเลยเป็นผู้ร้ายข้ามแดนไปดำเนินคดีที่ประเทศสหรัฐอเมริกาต่อไป


โดยวันนี้ศาลได้เบิกตัวนายแมทธิว อเล็กซานเดอร์ มาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพเพื่อฟังคำสั่งศาล

ศาลพิเคราะห์แล้ว ประเด็นมีเหตุสมควรส่งผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่ เห็นว่า ตามทางไต่สวนผู้ร้องนำสืบว่า เมื่อปี 61 ประเทศสหรัฐอเมริกายื่นคำร้องขอให้ส่งตัวนายแมทธิว ผู้คัดค้าน ไปดำเนินคดี ตามหมายจับศาลมลรัฐฟลอริดาตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน  ศาลจึงได้มีคำสั่งออกหมายจับนายแมทธิว และจับกุมตัว ได้เมื่อเดือน พ.ย.61  หลังหลบหนีมาไทย และหลังจับกุม ผู้คัดค้านไม่ยินยอมให้ส่งตัวกลับไปดำเนินคดี พนักงานอัยการจึงยื่นคำร้องให้คุมขังไว้ชั่วคราวระหว่างพิจารณา

ข้อเท็จจริงในการกระทำผิด เมื่อ ก.ย.60 ผู้คัดค้าน ได้ใช้อาวุธปืนยิงผู้อื่นเสียชีวิต ในรัฐฟลอริดา มีพยานเป็นอดีตแฟนสาวของผู้คัดค้าน และพยานวัตถุเป็นกระสุนปืนที่อยู่ในท้ายรถของนายแมทธิว ซึ่งตรงกับผลตรวจพิสูจน์กระสุนปืนที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ รวมทั้งมีพยานหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดเห็นรถของผู้คัดค้าน แล่นเข้ามาในโรงจอดรถบริเวณสถานที่เกิดเหตุ 


ศาลพิจารณาคำให้การของตำรวจไมอามี่ ที่ได้รับมอบหมายให้สืบสวนคดี และอัยการแห่งรัฐฟลอริดา และภาพถ่ายของผู้คัดค้าน จากกล้องวงจรปิดแล้ว เชื่อได้ว่าผู้คัดค้านเป็นผู้กระทำผิดตามคำร้อง และคดียังไม่ขาดอายุความ อีกทั้งยังเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมายที่ประเทศไทยและสหรัฐอเมริกามีสนธิสัญญาร่วมกัน เมื่อผู้คัดค้านไม่นำพยานหลักฐานเข้าสืบ พยานหลักฐานของผู้ร้องจึงเชื่อได้ว่าผู้คัดค้านกระทำความผิดจริง จึงให้ขังผู้คัดค้านไว้เพื่อส่งตัวไปอเมริกาต่อไป แต่ไม่ให้ส่งก่อน 30 วันนับแต่ศาลมีคำสั่ง โดยผู้คัดค้านสามารถอุทธรณ์คำสั่งได้ภายใน 30 วัน นับแต่ศาลมีคำสั่ง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม