สุราษฎร์ธานี 11 มิ.ย.- “พ.ต.อ.วิรุฬห์” รองผู้การสุราษฎร์ฯ เผยคดีป้ายยาขโมยทารก ตำรวจ สภ.เมือง สอบแล้วสาววัย 30 ปี กุเรื่อง เกรงมีปัญหากับครอบครัวฝ่ายสามีหลังแท้งลูก เตรียมดำเนินคดีแจ้งความเท็จ ส่วนแม่จริงวัย 18 ปี อยู่ตรังอาจโดนเข้าข่ายค้ามนุษย์พบโพสต์เฟซบุ๊กหาผู้อุปการะลูก
พ.ต.อ.วิรุฬห์ สุวรรณวงศ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ฝ่ายสืบสวนสอบสวน เปิดเผยกรณี น.ส.ศศิธร (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี แจ้งตำรวจอ้างว่าถูกผู้หญิงวางยาลักลูกชายวัย 1 ขวบ 8 เดือน ริมถนนชนเกษม เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี เมื่อบ่ายวานนี้ (10 มิ.ย.) ว่า หลังได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่เร่งสอบสวนหาข้อเท็จจริง ขณะนั้นมี น.ส.อิงอร อายุ 18 ปี ชาว จ.ตรัง นำหลักฐานสูติบัตรแจ้งเกิดยืนยันและเป็นการฝากเลี้ยง เนื่องจากตนมีปัญหาครอบครัว ส่วน น.ส.ศศิธร แท้งลูก นอกจากนี้ ยังทราบว่าเด็กชายดังกล่าวมีการแจ้งเกิดตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2562 ถือว่าเด็กมีอายุ 2 เดือนเศษ ซึ่งไม่ตรงกับใบแจ้งเกิดของ น.ส.ศศิธร ที่แจ้งเกิดวันที่ 2 พฤษภาคม 2562 เท่ากับว่าเด็กมีอายุเพียง 1 เดือนเศษ
พ.ต.อ.วิรุฬห์ กล่าวว่า จากการสอบสวนยังทราบอีกว่า น.ส.อิงอร ได้ตั้งครรภ์ขณะเรียนหนังสืออยู่ จึงปัญหากับทางครอบครัว เมื่อเลี้ยงลูกได้ระยะหนึ่งจึงนำลูกมามอบให้กับ น.ส.ศศิธร เลี้ยงที่ จ.สุราษฎร์ธานี เนื่องจาก น.ส.ศศิธร แท้งลูกและ น.ส.ศศิธร เกรงว่าจะมีปัญหากับครอบครัวของสามี จึงไปทำใบสูจิบัตรให้กับเด็ก โดยแจ้งลงวันที่ 2 พฤษภาคม 2562 แต่เรื่องกลับตาลปัตรเกิดขึ้นเมื่อบ่ายวันที่ 10 มิถุนายน น.ส.ศศิธร อ้างว่าถูกป้ายยาขโมยลูกหายไประหว่างเดินทางกลับบ้าน ซึ่งจริงแล้วเป็นการตกลงคืนลูกกันระหว่างน.ส.อิงอร กับ น.ส.ศศิธร จึงสร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อปกปิดความจริงกับครอบครัวสามี
พ.ต.อ.วิรุฬห์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมประสานกับเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ร่วมตรวจสอบข้อมูลการประกาศทางเฟซบุ๊กของ น.ส.อิงอร หาผู้อุปการะลูกชายจะเข้าข่ายการค้ามนุษย์หรือไม่ ส่วน น.ส.ศศิธร เบื้องต้นจะถูกดำเนินคดีในประเด็นการแจ้งความเท็จเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ซึ่งให้อำนาจ ผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี และพนักงานสอบสวนดำเนินการอย่างเต็มที่.-สำนักข่าวไทย