ประจวบคีรีขันธ์ 9 มิ.ย.-รถเครน 6 ล้อ ชนประสานงารถกระบะกลางสี่แยก ทำให้คนในรถกระบะเสียชีวิต 6 ราย รอดตาย 1 เป็นหญิงวัย 16 ปี แต่บาดเจ็บสาหัส และต้องสูญเสียลูกน้อยในครรภ์ เผยจุดเกิดเหตุเป็นสี่แยกอันตราย ไม่มีสัญญาณไฟจราจรและป้ายเตือนให้ชะลอความเร็ว
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้(9 มิ.ย.) พ.ต.ท.ปณสิทธิ์ ฤทธิรงค์ พนักงานสอบสวน สภ. เมืองประจวบคีรีขันธ์ รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถชนกัน มีผู้เสียชีวิตหลายราย บนถนนสายเพชรเกษม-บ้านหนองเสือ หมู่ 11 ต.เกาะหลัก อ.เมือง จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วยมูลนิธิสว่างประจวบธรรมสถาน
ที่เกิดเหตุเป็นสี่แยก พบรถบรรทุกหกล้อ อีซูซุ สีขาว ทะเบียน 80-9136 ประจวบคีรีขันธ์ ด้านหลังมีเครนยกสินค้า พลิกคว่ำตกข้างถนน สภาพด้านหน้าพังยับเยิน ภายในมีคนขับและผู้โดยสารได้บาดเจ็บ 2 ราย เจ้าหน้าที่จึงเร่งนำส่งโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์
ใกล้กันพบรถกระบะโตโยต้า วีโก้ แบบตอนครึ่ง สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บม-4097 เพชรบุรี สภาพด้านหน้าเสียหายหนัก ตัวเก๋งยุบครึ่งคัน ภายในพบภาพสลดใจ เนื่องจากมีผู้เสียชีวิตคาซากรถ จำนวน 6 ราย ทั้งหมดเป็นเครือญาติกัน อยู่บ้านเลขที่ 181 หมู่ 1 ต.ทับใต้ อ.หัวหิน ทราบชื่อ นางละม้าย จันทร์อยู่ อายุ 32 ปี คนขับรถกระบะ, นางอาบ แสงไทย อายุ 48 ปี, นางวันเพ็ญ ภูลายเรียบ อายุ 64 ปี, นางถนอม แสงไทย อายุ 60 ปี, ด.ญ.บุญญาภรณ์ ฉายประดิษฐ์ อายุ 6 ขวบ ส่วนนายกฤษดากร ฉายประดิษฐ์ อายุ 16 ปี ที่นั่งท้ายกระบะกระเด็นออกมาเสียชีวิตนอกรถ
นอกจากนี้ มีผู้บาดเจ็บ คือ น.ส.กรกาญน์ บุญประเสริฐ อายุ 16 ปี ซึ่งกำลังตั้งครรภ์ หลังนำตัวส่งโรงพยาบาล แพทย์ต้องนำเข้าห้องฉุกเฉิน เพื่อผ่าทารกออกจากอาการแท้ง เพื่อช่วยเหลือชีวิตมารดาที่อาการสาหัส
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุรถกระบะมีนางละม้าย จันทร์อยู่ เป็นคนขับ คาดว่าเดินทางกลับจากไปเที่ยวจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร ต.คลองวาฬ มุ่งหน้าไปบ้านหนองเสือ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นสี่แยกไม่มีสัญญาณไฟจราจร ประกอบกับสองข้างทางมีต้นไม้สูงทึบบดบังภูมิทัศน์ ทำให้รถกระบะที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูง ชนประสานงากับรถหกล้อที่มีนายอาคม จิตรกลาง อายุ 54 ปี เป็นคนขับ กำลังขับรถบรรทุกไปส่งอุปกรณ์ก่อสร้างให้ลูกค้าที่บ้านหนองเสือ
จากการตรวจสอบพบว่า บนถนนไม่มีรอยเบรกของรถ จึงทำให้รถทั้ง 2 คันชนกันอย่างรุนแรงเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว ส่วนสาเหตุที่แท้จริง เจ้าหน้าที่จะทำการสอบปากคำคนขับรถหกล้ออย่างละเอียด แต่ล่าสุดยังไม่สามารถให้ปากคำได้ เนื่องจากต้องนอนรักษาอาการบาดเจ็บอยู่
สำหรับสี่แยกดังกล่าว ก่อสร้างมานานกว่า 1 ปีแล้ว แต่ไม่มีการติดป้ายเตือนให้ชะลอความเร็ว ไม่มีไหล่ทาง ไม่มีการติดตั้งสัญญาณไฟจราจร และไฟส่องสว่างในเวลากลางคืน ทั้งที่เป็นเส้นทางสายรอง เพื่อเลี่ยงถนนเพชรเกษมในช่วงเทศกาล ขณะที่ประชาชน นักท่องเที่ยวใช้เป็นเส้นทางเชื่อมระหว่าง ต.คลองวาฬ ต.อ่าวน้อย ต.เกาะหลัก เพื่อเดินทางไปเที่ยวด่านสิงขร ชาวบ้านเคยร้องเรียนหลายหน่วยงาน แต่ไม่มีการแก้ไขปรับปรุง ทำให้ที่ผ่านมาเกิดอุบัติเหตุมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก.-สำนักข่าวไทย