ทัพช้างศึก หวังล้างตาเอาชนะ อินเดีย คว้าที่ 3 ถ้วยคิงส์คัพ

บุรีรัมย์ 7 มิ.ย. – ขุนพลช้างศึก ทีมชาติไทย หวังล้างตาเอาชนะ อินเดีย ที่เคยแพ้ในศึกเอเชียน คัพ คว้าอันดับ 3 ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 47
ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 47 พรุ่งนี้ต้องมาลุ้นทีมชาติไทย ล้างตา อินเดีย ในเกมคู่ชิงอันดับ 3 ในปีนี้ หลังจากผิดหวังพลาดท่าพ่าน เวียดนาม 0-1
สำหรับเกมคู่ชิงอันดับ 3 ฟุตบอลคิงส์คัพ ครั้งที่ 47 ที่สนามช้าง อารีน่า จังหวัดบุรีรัมย์ ระหว่าง ทีมชาติไทย อันดับ 114 พบกับ อินเดีย อันดับ 101 จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ เวลา 15.30 น. ส่วนคู่ชิงชนะเลิศ แข่งขันเวลา 19.45 น. เวียดนาม พบ กือราเซา
โดยเมื่อช่วงบ่ายได้มีการแถลงความพร้อมของทั้งคู่ชิงชนะเลิศ และคู่ชิงอันดับ 3 โดย “โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย และ ศุภชัย ใจเด็ด กองหน้าของทีม ร่วมกันแถลงความพร้อม ที่โรงแรมครอสทู ไวบ์ จังหวัดบุรีรัมย์
ซึ่งโค้ชโต่ย บอกว่า จากเกมแรกที่เราเจอเวียดนาม เราก็กลับมาแก้จุดบกพร่องที่เกิดขึ้นกับทีม ตอนนี้เราก็พร้อมเต็มที่ในการเจอกับอินเดีย พรุ่งนี้เราจะมีปรับเปลี่ยนผู้เล่นแน่นอน แต่คงไม่มากนัก ธีรศิลป์ตอนนี้สมบูรณ์เต็มร้อยแล้ว เราจะมีการเพิ่มเติมตรงจุดนี้ การเปลี่ยนตัวสำรองลงไปนั้นต้องดูตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเกม ทุกคนมีโอกาสถูกเรียกใช้ ผมพร้อมให้โอกาสน้องๆ อยู่แล้ว แต่ต้องดูความเหมาะสมด้วยว่า เราควรใช้เขาตอนไหน โดยเราจะเปิดเกมรุกเต็มที่ในวันพรุ่งนี้
ส่วน ศุภชัย ใจเด็ด กองหน้าวัย 20 ปี บอกว่า หลังจากเจอกับเวียดนาม เราก็กลับมาทบทวนข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น ตอนนี้เราโฟกัสเกมพรุ่งนี้ และจะทำผลงานให้ดีที่สุด เราเคย พบ อินเดีย ในเอเชียน คัพ พวกเขาเป็นทีมที่แข็งแกร่ง เราจะประมาทไม่ได้ ผมเชื่อว่าพรุ่งนี้ พี่ๆ ในทีมทุกคน รวมถึงผมจะพยายามโฟกัสเกม เพื่อการคว้าผลการแข่งขันที่ดี เราได้เปรียบที่ลงเล่นในประเทศของเรา ผมเชื่อว่าพรุ่งนี้เราจะได้ผลการแข่งขันที่ดี นอกจากนี้ ศุภชัย ยังพูดถึง ธีรศิลป์ แดงดา ว่า พี่มุ้ยพูดกับทีมก่อนการประชุมทีม ให้กำลังใจน้องๆ เขาก็บอกนักเตะที่มาจากแต่ละสโมสรว่า ให้เรารวมกันเป็นหนึ่ง ให้เราช่วยกันเล่นเพื่อทีมชาติไทย เพื่อแฟนบอลทุกคน
ส่วนทีมชาติอินเดีย พลาดท่าแพ้ กือราเซา 1-3 วันนี้ได้ส่ง อิกอร์ สติมัช กุนซือของทีม และ ซานเดช จินกาน กองหลังของทีม เข้าร่วมแถลงข่าวครั้งนี้ โดยอิกอร์ สติมัช กุนซืออินเดีย บอกว่า ตอนนี้ต้องคืนสภาพร่างกายให้พร้อมมากที่สุดในเกมพรุ่งนี้ สิ่งหนึ่งที่ทำให้เราเข้ามาร่วมการแข่งขันรายการนี้ คือการได้เจอกับทีมระดับท็อป เรารู้ดีว่า การพบทีมชาติไทย ยากแค่ไหน แม้เราจะเคยเจอมาแล้ว แต่โค้ชของไทยเปลี่ยนไปจากเดิม ฉะนั้นวิธีการเล่นก็จะเปลี่ยนไปด้วย จึงเป็นสิ่งที่ยากของเรา มันเป็นเรื่องยากสำหรับเรา ที่จะเปลี่ยนสไตล์การเล่นแบบทันทีทันใดหลังเปลี่ยนโค้ช ผมเชื่อว่าช่วงแรกเราอาจจะต้องพบเจอกับความเจ็บปวดจากการพ่ายแพ้ไปก่อน ซึ่งทั้งเราและแฟนบอลต้องก้าวผ่านมันไป แต่ผมเชื่อว่าอนาคตในทีมชาติของเราจะเป็นไปได้ด้วยดี
สำหรับสถิติทีมชาติไทย พบ อินเดีย ในเกมเป็นทางการ ทั้งหมด 22 นัด โดยทัพ “ช้างศึก” ชนะ 11 นัด เสมอ 4 นัด และแพ้ 7 นัดเท่านั้น
โดยทั้งคู่เจอกันอย่างเป็นทางการครั้งแรกในศึก “เอเชี่ยนเกมส์ 1962” รอบแบ่งกลุ่ม ที่อินโดนีเซีย อินเดีย ชนะ ไทย 4-1 ก่อนที่อินเดียจะสามารถคว้าแชมป์รายการนี้ด้วยการชนะเกาหลีใต้ในนัดชิงชนะเลิศ 4-1 ส่วนไทย ชนะอินเดียครั้งแรกในฟุตบอล “เมอร์เดก้า” ปี 1968 ที่มาเลเซีย ไทยชนะ 1-0 แต่ล่าสุดที่ทั้งสองทีมพบกัน ช้างศึก พ่าย 1-4 ในเอเชียนคัพ 2019 รอบสุดท้าย ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สมัย มิโลวาน ราเยวัช คุมทีม
วันพรุ่งนี้ต้องมาลุ้นและส่งกำลังใจให้นักเตะทีมชาติไทย ล้างตาเอาชนะ อินเดีย เพื่อคว้าอันดับ 3 ในรายการนี้ให้ได้ ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะพวกเขาก็คือนักเตะทีมชาติไทย “บอลนอกแค่สะใจ บอลไทยอยู่ในสายเลือด” .- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนไทยตอนบนมีพายุฝนฟ้าคะนอง-ลมกระโชกแรง

กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบนมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ส่วน กทม.-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 40% กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

วันที่ 11 ปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. ถล่ม

วันที่ 11 ของปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. พังถล่ม เจ้าหน้าที่เดินหน้าใช้เครื่องจักรหนักเข้า เคลียร์ซากต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซนบี และซี ที่คาดว่าเป็นจุดที่มีผู้ติดค้างอยู่จำนวนมาก