กรุงเทพฯ 5 มิ.ย.- นายกฯ เปิดงานวันต่อต้านการค้ามนุษย์ ปี 2562 ย้ำ รัฐบาลเดินหน้าแก้ปัญหาค้ามนุษย์อย่างจริงจัง ขอทุกคนปฎิบัติงานอย่างมุ่งมั่น พร้อมสานต่อนโยบายการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันต่อต้านการค้ามนุษย์ ประจำปี 2562 ณ ห้องวายุภักษ์แกรนด์บอลรูม ชั้น 4 โรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทาราศูนย์ราชการ จัดโดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ภายใต้แนวคิด “ประชารัฐร่วมใจ ต้านภัยค้ามนุษย์” พร้อมมอบรางวัลแก่หน่วยงาน ผู้ปฏิบัติ และกลุ่มผู้ปฏิบัติงาน ที่มีผลงานดีเด่นด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และผู้ที่ชนะการประกวดหนังสั้น และแอนิเมชั่นรณรงค์ต่อต้านการค้ามนุษย์
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า ประเทศไทยมุ่งมั่นแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ และการทำประมงผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่องและจริงจัง ทั้งการจัดระดับที่ดีขึ้นของประเทศไทย เป็นระดับ 2 ในรายงานการค้ามนุษย์ ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา การปลดใบเหลืองการทำประมงผิดกฎหมายของสหภาพยุโรป ขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ให้ความร่วมมือกับส่วนราชการอย่างดี แต่ขบวนการค้ามนุษย์ยังคงมีวิธีการหลอกลวงในรูปแบบใหม่อยู่ตลอดเวลา โดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ทุกภาคส่วนจึงต้องคิดก้าวข้ามวิธีการของขบวนการค้ามนุษย์ เพื่อหาวิธีการป้องกันให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม
“รัฐบาลเดินหน้าปราบปรามผู้กระทำความผิดอย่างเด็ดขาดและจริงจัง โดยเฉพาะการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด รวมถึง พัฒนาและส่งเสริมศักยภาพแก่เจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมาย ให้มีความเชี่ยวชาญในกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยต้องไม่มีคำว่าคดีนโยบาย และส่วนกลางต้องไม่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี เพื่อให้กระบวนการยุติธรรมทางอาญา ได้ทำงานบนพื้นฐานของข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน ซึ่งจะทำให้สังคมเกิดความเชื่อมั่น” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลได้พัฒนากลไกและเครื่องมือใหม่ๆ ในการคุ้มครองช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง ทั้งการเขียนรายงานผลกระทบจากบาดแผลทางจิตใจ เพื่อนำไปประกอบการพิจารณาของศาล ในการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน โดยผู้เสียหายไม่ต้องพูดเรื่องที่เป็นบาดแผลทางจิตใจของตัวเองซ้ำหลายครั้ง
“มาตรการที่สำคัญมาก คือการดำเนินงานด้านการป้องกัน ด้วยการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวเข้าระบบอย่างถูกต้อง รวมทั้ง ตรวจสอบบริษัทผู้รับอนุญาตให้คนต่างด้าวเข้ามาทำงานกับนายจ้าง เพื่อลดความเสี่ยงของการค้ามนุษย์ และยกระดับมาตรฐานการคุ้มครองแรงงานให้สอดคล้องกับหลักมาตรฐานสากล” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้ผู้ประกอบการธุรกิจ เน้นให้ความสนใจเรื่องการคุ้มครองสิทธิต่างๆในการประกอบธุรกิจ เพื่อให้ธุรกิจมีความยั่งยืน ซึ่งการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง หรือประเทศใดประเทศหนึ่ง ดังนั้นทุกฝ่ายต้องผนึกกำลังร่วมกันทำงาน เพื่อปกป้องสิทธิมนุษยชนและสร้างความเชื่อมั่นของประเทศไทยในเวทีระหว่างประเทศต่อไป ..- สำนักข่าวไทย