สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน 5 มิ.ย.-ศรีสุวรรณขอผู้ตรวจฯส่งศาลปกครองวินิจฉัยกรณีพล.อ.ประยุทธ์ตั้งส.ว.สำรอง 50 คน ระบุอาจมีปัญหากรณีต้องขยับอันดับ
สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย นำโดยนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการเข้ายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้พิจารณาและเสนอความเห็นต่อศาลปกครองวินิจฉัยว่าการที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ออกประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 1/2562 เรื่องการกำหนดรายชื่อบุคคลสำรองสำหรับการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา 2561 จำนวน 50 คน ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายหรือไม่
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ทางสมาคมฯ เห็นว่าการประกาศรายชื่อส.ว.สำรองดังกล่าวของคสช.ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ 2560 ม.269 (ค) ประกอบ ม.90 (ค) และ ม.98 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา 2561 ที่กำหนดไว้โดยชัดแจ้งว่าจะต้องประกาศรายชื่อสำรอง 50 คนจากบัญชีรายชื่อ ส.ว.ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ส่งให้เลือกจำนวน 200 คนตามบัญชี (ก) และอีก 50 คนจากบุคคลที่คณะกรรมการสรรหาเสนอจำนวน 400 คน ตามบัญชี (ข)
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ลงนามประกาศบัญชีรายชื่อส.ว.สำรองเพียง 50 คนเท่านั้น โดยไม่ทราบว่าบัญชีรายชื่อ ส.ว.สำรอง 50 คน ที่ประกาศนั้นมาจากระบบบัญชีใด ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาเรื่องการขยับรายชื่อส.ว.ขึ้นมาแทน หากส.ว.ตัวจริงหลุดจากตำแหน่งไปตามรัฐธรรมนูญ ม.111 ก็ต้องคัดเลือกบุคคลจากบัญชีสํารองเพื่อแทนตําแหน่งที่ว่าง ตาม ม.90(4) และตาม ม.98 แม้กฎหมายให้นําความใน มาตรา 45 วรรคสองของพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา 2561 มาใช้บังคับด้วยโดยอนุโลม จะไม่สามารถทำได้
“ความผิดพลาดล้มเหลวของพล.อ.ประยุทธ์ครั้งนี้เป็นเรื่องใหญ่และชัดเจนว่าย่อหย่อนในการปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย รวมทั้งอาจก่อให้เกิดปัญหาสับสนอลหม่านของชาติบ้านเมืองในอนาคต เพราะจะเป็นปัญหาทางกฎหมายทันที หากส.ว.ปัจจุบันบางคนต้องสิ้นสภาพลงไม่ว่าด้วยเหตุใด การจะขยับรายชื่อตามบัญชีสำรอง ที่ประกาศไว้เพียง 50 รายที่ไม่ระบุที่มาของบัญชีสำรอง อาจนำไปสู่ความขัดแย้งหรือต่อกฎหมายส.ว.ได้” นายศรีสุวรรณ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้าเดินทางมายื่นร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน นายศรีสุวรรณได้ไปยื่นคำร้องดังกล่าวต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจรติแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ด้วย.-สำนักข่าวไทย
