สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน 4 มิ.ย.- มูลนิธิเพื่อสิทธิและความเป็นธรรมทางเพศ ร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ม.1448 วิแพ่ง -พ.ร.บ.จดทะเบียนครอบครัวที่กำหนดให้ชายและหญิงจดทะเบียนสมรสได้เท่านั้น ขัดรัฐธรรมนูญ ม. 27
สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายพงษธร จันทร์เลื่อน ผู้แทนจากมูลนิธิเพื่อสิทธิและความเป็นธรรมทางเพศ (For SOGI) น.ส.นัยนา สุภาพึ่ง อดีตกรรมการสิทธิ เข้ายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้พิจารณาและเสนอเรื่องพร้อมความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 มาตรา 1148 และพ.ร.บ.จดทะเบียนครอบครัว พ.ศ.2478 มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ
นายพงษธร กล่าวว่า ทางมูลนิธิได้รับอำนาจจาก น.ส.เพิ่มทรัพย์ แซ่อึ้ง และน.ส.พวงเพชร เหงคำ ซึ่งเป็นหญิงรักหญิงใช้ชีวิตคู่ร่วมกันมากว่า 10 ปี ระหว่างนั้น น.ส.พวงเพชร ประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พลิกคว่ำ ต้องผ่าตัดสมองโดยด่วน น.ส.เพิ่มทรัพย์แจ้งว่าเป็นคู่ชีวิตและจะเซ็นอนุญาตให้ผ่าตัด แต่ทางโรงพยาบาลไม่ยินยอม โดยแจ้งว่าต้องเป็นคนในครอบครัวที่เป็นสายเลือดเดียวกัน หรือคู่สมรสตามกฎหมายเท่านั้น ทำให้ต้องไปรับมารดาของน.ส.พวงเพชร ที่แก่ชรามาเซ็นยินยอม และเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมาทั้งสองได้ไปขอจดทะเบียนสมรสที่สำนักงานเขตภาษีเจริญ กรุงเทพ แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ปฏิเสธโดยแจ้งว่าตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยกำหนดให้กรอกข้อมูลในคำร้องเป็นเพศชายกับเพศหญิงเท่านั้น อีกทั้งในระบบยังขึ้นข้อมูลความเห็นว่า “ไม่สามารถดำเนินการให้ได้ตาม ป.พ.พ.บรรพ 5 มาตรา 1448 คู่สมรสไม่มีคุณสมบัติ ”
จากกรณีดังกล่าวจึงเห็นว่า เป็นการเลือกปฏิบัติ ไม่ได้รับความเป็นธรรมด้วยเหตุแห่งเพศ อันเนื่องมาจากหลักเกณฑ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์(ป.พ.พ.) บรรพ 5 มาตรา 1448 ที่กำหนดว่า “การสมรสจะทำได้เมื่อชายและหญิงมีอายุสิบเจ็ดปีบริบูรณ์แล้ว…” และ พ.ร.บ.จดทะเบียนครอบครัว พ.ศ.2478 รวมถึงกฎกระทรวงซึ่งออกตามความในพระราชบัญญัติจดทะเบียนครอบครัว พ.ศ.2478 ข้อ 3 ทั้งที่รัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 27 กำหนดว่า บุคคลย่อมเสมอกันในทางกฎหมาย ชายและหญิงมีสิทธิเสรีภาพและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเท่าเทียมกัน การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคล ไม่ว่าด้วยเหตุความแตกต่างในเรื่องถิ่นกำเนิด เชื้อชาติภาษา เพศ อายุ ความพิการ สภาพทางกายหรือสุขภาพ สถานะของบุคคล จะกระทำไม่ได้ จึงขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาและส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย.-สำนักข่าวไทย
