เผยเด็กวัยเรียนร้อยละ 8.8 มีภาวะเตี้ย ชวนดื่มนมรสจืดช่วยเพิ่มสูง

สธ.30 พ.ค.-กรมอนามัย เผยเด็กวัยเรียน 6-14 ปี ร้อยละ 8.8 มีภาวะเตี้ย ชวนผู้ปกครองส่งเสริมให้เด็กดื่มนมรสจืดวันละ 2 แก้ว กินไข่วันละ1ฟองทุกวัน ร่วมกับการกระโดดโลดเต้น 60 นาทีและนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 9-11 ชั่วโมง ช่วยเพิ่มความสูงได้


พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า เนื่องในวันที่ 1 มิ.ย.ของทุกปีเป็นวันดื่มนมโลก กรมอนามัยจึงขอเชิญชวนให้พ่อแม่ ผู้ปกครองร่วมกันส่งเสริมและให้ความสำคัญกับการดื่มนมของลูก โดยจัดเตรียมนมให้เด็กดื่มนมที่บ้านเพิ่มเติมจากนมโรงเรียนอีก1กล่องเพราะนมเป็นอาหารที่มีโปรตีนคุณภาพดีและมีปริมาณแคลเซียมสูงโดยเฉพาะนมโคสด 100 เปอร์เซ็นต์ มีคุณค่าทางโภชนาการดีกว่านมที่มีการปรุงแต่งรสและกลิ่น เนื่องจากมีแคลเซียมในปริมาณมาก ช่วยสร้างกระดูกที่มีผลต่อพัฒนาการด้านความสูง เพราะจากระบบรายงาน Health Data Center กระทรวงสาธารณสุข ปี 2562 พบเด็กวัยเรียน 6-14 ปี มีภาวะเตี้ยร้อยละ 8.8 


โดยเป้าหมายของประเทศกำหนดไว้ไม่เกินร้อยละ 5 ซึ่งเป็นข้อบ่งชี้ว่าการเจริญเติบโตของเด็กวัยเรียนยังไม่ดีเท่าที่ควร คือมีส่วนสูงน้อยกว่าเกณฑ์ในเด็กที่มีอายุเท่ากัน โดยตั้งเป้าหมายให้ปี2564เด็กผู้ชายอายุ12 ปีมีส่วน สูงเฉลี่ย154 เซนติเมตรเพิ่มจากค่าเฉลี่ยความสูงปัจจุบันคือ 148.6 เซนติเมตรเด็กผู้หญิงอายุ12 ปี มีส่วนสูงเฉลี่ย 155 เซนติเมตร เพิ่มจากค่าเฉลี่ยความสูงปัจจุบันคือ149.9 เซนติเมตร 


‘ดังนั้นควรส่งเสริมให้เด็กวัยเรียนได้บริโภคอาหารมีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนและดื่มนมรสจืดวันละ2 แก้วและเพิ่มเติมด้วยการกินไข่วันละ 1ฟองทุกวันร่วมกับการกระโดดโลดเต้น60 นาทีทุกวันและนอนหลับพัก ผ่อนให้เพียงพอ 9-11ชั่วโมงจะทำให้เด็กมีการเจริญเติบโตเต็มศักยภาพและเพิ่มความสูงได้เนื่องจากช่วงเวลาทอง(Golden period) ของเด็กในการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว (Growth spurt) เด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงจะแตกต่างกัน โดยเด็กผู้หญิงจะเริ่มในช่วงอายุ 9-10 ปี ความสูงจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนถึงอายุประมาณ 12 ปี จากนั้นอัตราการเพิ่มของความสูงจะลดลงจนกระทั่งถึงอายุประมาณ16-18ปี ความสูงจะค่อน ข้างคงที่ ส่วนเด็กผู้ชายจะเริ่มในช่วงอายุ10-12 ปี ความสูงจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนถึงอายุประมาณ 14 ปี จากนั้นอัตราการเพิ่มของความสูงจะลดลงจนกระทั่งถึงอายุประมาณ 18-20 ปี ความสูงจะค่อนข้างคงที่”อธิบดีกรมอนามัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ